ได้มีงานวิจัยพบว่าคนที่รับประทาน อาหารทอด เป็นประจำทำให้มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จากการศึกษาในครั้งนี้ได้เผยแพร่ใน BMJ ซึ่งพบว่าการรับประทานของทอดมีส่วนทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตโดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
นักวิจัยได้ทำแบบสอบถามจากผู้หญิงจำนวนกว่า 106,966 คน ช่วงอายุ 50-79 ปี และติดตามผลเป็นเวลาถึง 18 ปี ว่าพวกเธอรับประทานอาหารทอดบ่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด ปลาทอด หอยทอด เฟรนช์ฟรายส์ ตอติญ่าโรล และทาโก้ เมื่อเวลาผ่านไปมีผู้หญิงเสียชีวิตกว่า 31,588 คน มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจ 8,358 คน
Wei Bao ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยไอโอวาและเป็นหัวหน้าทีมวิจัยชิ้นนี้ได้กล่าวว่า “เราต่างรู้ดีว่าการรับประทานของทอดเป็นเรื่องธรรมดาในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกแต่น่าเสียดายที่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวจากการบริโภคของทอด”
การศึกษาครั้งนี้เป็นงานวิจัยชิ้นแรกของ Wei Bao แต่ก็มีงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่พบว่า การกินอาหารทอดมีส่วนทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวาน ซึ่งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนก็มีผลไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของอาหาร ระดับการศึกษา รายได้
โดยพบว่าการกินของทอดเป็นประจำมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนที่ชอบกินของทอดมากกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน จะเพิ่มอัตราความเสี่ยงในการเสียชีวิตถึง 8% คนที่ชอบกินไก่ทอดเป็นประจำทุกวันจะมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตสูงขึ้นถึง 13% และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ 12% ส่วนใครที่ชอบกินปลาทอดมีความเสี่ยงสูงในการเสียชีวิตสูงขึ้น 7%
จากงานวิจัยพบว่าผู้หญิงที่กินของทอดเป็นประจำ ส่วนใหญ่อายุยังน้อย รายได้ต่ำ ไม่มีการศึกษา ซึ่งคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่ ไม่ค่อยออกกำลังกาย และกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ทั้งนี้จากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ก็ยังมีข้อจำกัดอื่นๆ เช่น ประเภทของน้ำมัน ในสเปนกลับพบว่าการรับประทานอาหารทอดไม่มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้น้ำมันมะกอกประกอบอาหาร