ตำลึง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Ivy Gourd เป็นผักพื้นบ้านที่นิยมนำยอดและใบตำลึงมาปรุงอาหาร ได้หลากหลาย เช่น แกงจืดตำลึงหมูสับ, ต้มเลือดหมูใบตำลึง, ผัดผักตำลึงหมูสับ, ผัดตำลึงใส่ไข่ ตำลึงจึงเป็นผักที่หาได้ง่าย มีสรรพคุณและคุณค่าทางอาหารมากมาย
เบต้าแคโรทีนสูง
ใบตำลึง มีสารเบต้าแคโรทีนสูง จึงช่วยระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง เบต้าแคโรทีนเมื่อย่อยสลายแล้วจะได้เป็นวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยในการมองเห็นทำให้ดวงตามีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก อีกทั้งเบต้าแคโรทีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย
มีใยอาหารสูง
ใบตำลึงมีใยอาหารสูงมากจึงช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้อุจจาระนิ่ม ป้องกันอาการท้องผูก จึงช่วยป้องกันมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร ป้องกันมะเร็งลำไส้ มะเร็งในกระเพาะอาหาร
รักษาโรคเบาหวาน
การรับประทานตำลึงจะสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน มีการพบว่าใบตำลึงช่วยให้ระดับอินซูลินเพิ่มขึ้นอีกด้วย จึงเป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
บำรุงสายตา
ตำลึง 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 18,608 IU ซึ่งวิตามินเอจะช่วยในการมองเห็นและบำรุงสายตาให้มีสุขภาพดี เพิ่มความสามารถในการมองเห็นตอนกลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย ตามัว ตาฝ้าฟาง
ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ตำลึง เป็นผักที่มีแคลเซียมสูง ใบตำลึง 100 กรัม มีปริมาณแคลเซียม 125 มิลลิกรัม จึงช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นให้กระดูก ลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุน มีส่วนสำคัญในการแข็งตัวของเลือดและการทำงานของระบบประสาทในการส่งสัญญาณให้เร็วขึ้น
คุณค่าทางโภชนาการ ของ ตำลึง 100 กรัม
โปรตีน 3.3 กรัม
วิตามินเอ 18,608 IU
วิตามินบี1 0.17 มิลลิกรัม
แคลเซียม 126 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 4.6 มิลลิกรัม
ไนอาซีน 1.2 มิลลิกรัม
วิตามินซี 19.1 มิลลิกรัม
ใยอาหาร 2.08 กรัม
เบต้าแคโรทีน 990.6 ไมโครกรัม
ลูทีน 4,989 ไมโครกรัม