สะตอ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Bitter bean, Twisted cluster bean, Stink bean เป็นผักพื้นบ้านของชาวใต้มีกลิ่นที่รุนแรงมาก นิยมใช้ประกอบอาหารในแถบภาคใต้ รับประทานได้ทั้งยอดอ่อนและเมล็ด ทานแกล้มกับน้ำพริก ผัดกะปิกุ้งสะตอ แกงป่า ผัดเผ็ด แกงกะทิ แกงส้ม แกงคั่ว และยังมีประโยชน์อีกมากมายที่คุณควรรู้!!
10 ประโยชน์และสรรพคุณของสะตอ ป้องกันได้สารพัดโรค
- มีวิตามินแร่ธาตุหลายชนิด แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3
- ช่วยขับลมในลำไส้ เป็นการกระตุ้นให้กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานได้ดี ขับลมในลำไส้ออกมา
- ช่วยป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคเส้นเลือดสมองอุดตัน
- ช่วยลดความดันโลหิต เสริมสร้างการทำงานของหลอดเลือด ช่วยบำรุงหลอดเลือดและหัวใจให้แข็งแรง
- ลดน้ำตาลในเส้นเลือด จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
- มีใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น จึงช่วยป้องกันโรคริดสีดวงทวาร ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
- ช่วยบำรุงสายตา
- ช่วยทำให้เจริญอาหาร มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นความรู้สึกอยากอาหารและยังช่วยให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยบำรุงไต ช่วยในการขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะปวดขัด แก้อาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
ข้อควรระวัง สะตอมียูริคสูงผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ไม่ควรรับประทาน เพราะอาจไปสะสมตามข้อต่าง ๆ จนทำให้เกิดอาการอักเสบ
คุณค่าทางอาหารของ สะตอ 100 กรัม
- ให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี่
- โปรตีน 8.0 กรัม
- ไขมัน 4.0 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 15.5 กรัม
- แคลเซียม 76.0 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 83 มิลลิกรัม
- เหล็ก 0.7 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 9.0 หน่วยสากล(I.U.)
- วิตามินบี1 0.11 มิลลิกรัม
- วิตามินบี2 0.01 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 6.01 มิลลิกรัม
- ไนอะซีน 1.0 มิลลิกรัม
กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2535
เมนูแสนอร่อยจากสะตอ