ธัญพืช มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วย โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ไฟโตนิวเตรียนท์ เส้นใยอาหาร มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีไฟเบอร์สูงจึงช่วยควบคุมน้ำหนักได้ และยังช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลได้ดีเยี่ยมอีกด้วย เรามาดูประโยชน์ธัญพืชแต่ละชนิดกันเลย
7 ธัญพืชไฟเบอร์สูง แก้ท้องผูก
1. ควินัว
![ควินัว](https://img-ha.mthcdn.com/QMCAdrLV8ctuLsB2ZbYP4Icyt0Q=/health.mthai.com/app/uploads/2019/05/Quinoa-23-1024x632.jpg)
ถูกยกให้เป็นสุดยอดของอาหาร คิวนัวมีแคลอรี่ต่ำและมีเส้นใยอาหารสูงทำให้รู้สึกอิ่มนาน ช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ใยอาหารยังช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้เป็นการช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก จึงช่วยป้องกันโรคริดสีดวงทวาร
2. กราโนล่า
![กราโนล่า](https://img-ha.mthcdn.com/0umcyLuhfYW-B5HdLIpE1cm_z5E=/health.mthai.com/app/uploads/2019/01/granola-1.jpg)
มีส่วนผสมอย่างธัญพืช ข้าวโอ๊ต และเมล็ดถั่วต่างๆ นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและต้องการลดน้ำหนัก เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารและคุณค่าที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย ป้องกันการท้องผูก เหมาะสำหรับผู้ที่ขับถ่ายยาก แถมดีต่อระบบย่อยอาหาร และยังช่วยลดคลอเรสเตอรอล
3. เมล็ดเจีย
![เมล็ดเจีย](https://img-ha.mthcdn.com/4-ONfPc_Vdtyij7Cz2hJHP5VmkY=/health.mthai.com/app/uploads/2019/05/Chia-seed.jpg)
อุดมไปด้วยใยอาหาร โปรตีน กรดไขมันจำเป็นนั่นก็คือกรดลิโนเลนิกซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้คอเลสเตอรอลไปสะสมที่ผนังหลอดเลือด บำรุงหัวใจ อีกทั้งยังมีไฟเบอร์สูงมาก เมล็ดเจีย 100 กรัม มีไฟเบอร์ถึง 34.4 กรัม จึงช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย แก้อาการท้องผูกได้ แถมยังให้แคลอรี่ต่ำอีกด้วย
4. ข้าวบาร์เลย์
![ข้าวบาร์เลย์](https://img-ha.mthcdn.com/lhyN90Myql__IJHtx4qYA1pX_NM=/health.mthai.com/app/uploads/2019/01/Barley.jpg)
ข้าวบาร์เลย์มีเบต้ากลูแคนที่สามารถควบคุมอัตราการย่อยและการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและไขมัน และมีคุณสมบัติช่วยให้เกิดการลดระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน สามารถลดระดับน้ำตาลกลูโคสได้ดีกว่าทานข้าวทั่วไป อีกทั้งข้าวบาร์เลย์มีทองแดงซึ่งมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบและลดอาการของโรคไขข้ออักเสบ
5. อัลมอนด์
![อัลมอนด์](https://img-ha.mthcdn.com/X2KqJhWdAOJNT8Omv9qJsjm1HU4=/health.mthai.com/app/uploads/2019/06/Almonds-5-1024x687.jpg)
อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งกรดไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) และ ลดไขมันชนิดเลว (LDL) จึงมีประโยชน์ต่อหลอดเลือดแดงเพราะจะช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือด ทั้งยังช่วยทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น
6. งาดำ
![งาดำ](https://img-ha.mthcdn.com/NPJ4jpuuEYaFtduX-RE0DZaoMIk=/health.mthai.com/app/uploads/2019/02/Black-Sesame-1024x683.jpg)
งาดำมีแคลเซียมสูง ในงาดำ 100 กรัม มีปริมาณแคลเซียมถึง 1,469 มิลลิกรัม และมีสารเซซามิน ซึ่งสารนี้จะช่วยในการยับยั้งการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์สลายกระดูกที่ให้เกิดโรคข้อเสื่อม โรคกระดูกพรุนได้ อีกทั้งงาดำมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 ซึ่งที่มีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอล จึงสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
7. ถั่วแดง
![ถั่วแดง](https://img-ha.mthcdn.com/ciTq6-KLtg0FMfDC6_mIAskx1UA=/health.mthai.com/app/uploads/2019/06/Kidney-bean.jpg)
อุดมไปด้วยโปรตีนสูง มีวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และเส้นใยอาหารช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ช่วยบำรุงในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ และช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง