หลายคนคงเคยได้ยินว่าห้ามทานอาหารและ ดื่มน้ำ ในเวลาเดียวกัน โดยผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายว่าน้ำจะไปเจือจางกรดในกระเพาะอาหารของเรา บางคนก็คิดว่าน้ำจะช่วยดันอาหารที่ยังไม่ถูกย่อยให้ออกไปจากกระเพาะ เรามาดูกันเลยว่าน้ำธรรมดาๆ จะเป็นอันตรายต่อร่างกายของเราได้หรือไม่?
เกิดอะไรขึ้นกับอาหารและน้ำเมื่อเข้าสู่กระเพาะอาหาร
กระบวนการย่อยอาหารเริ่มต้นเมื่อเราเริ่มคิดถึงอาหารมื้อต่อไป แล้วน้ำลายจะค่อยๆ ถูกผลิตขึ้นในปาก เมื่อเราเคี้ยวอาหารก็จะผสมไปกับน้ำลายที่มีเอนไซม์ที่จำเป็นสำหรับการย่อยอาหาร จากนั้นอาหารจะค่อยๆนิ่มลงแล้วเข้าไปสู่กระเพาะอาหารซึ่งก็จะไปถูกผสมรวมกับกรดในกระเพาะอาหาร โดยเฉลี่ยแล้วกระเพาะอาหารต้องการใช้เวลาในการย่อยถึง 4 ชั่วโมง
น้ำไม่ได้ลดความเป็นกรด
ร่างกายคนเราเป็นสิ่งที่ซับซ้อนแต่ร่างกายทุกระบบต่างทำงานกันเป็นอย่างดี หากกระเพาะอาหารรู้สึกว่ามันไม่สามารถย่อยอะไรบางอย่างมันจะผลิตเอนไซม์และเพิ่มความเป็นกรดมากขึ้น แม้ว่าคุณจะดื่มน้ำไปเป็นลิตรก็จะไม่ส่งผลต่อระดับความเป็นกรด จากการศึกษาวิจัยได้พบว่าอาหารบางอย่างสามารถลดระดับความเป็นกรดในกระเพาะอาหารได้ แต่มันก็จะกลับไปสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว
เราสามารถดื่มน้ำขณะรับประทานอาหารได้หรือไม่?
หากคุณดื่มน้ำขณะรับประทานอาหารมันไม่ได้ทำอันตรายใดๆ ในทางตรงกันข้ามน้ำกลับช่วยทำให้อาหารที่แข็งอ่อนนุ่มลง และยังมีข้อดีบางอย่างในการดื่มน้ำขณะรับประทานอาหาร ได้มีการวิจัยพบว่าเมื่อคนเราพักการทานอาหารเพื่อดื่มน้ำ มันจะช่วยทำให้เราเริ่มทานอาหารช้าลง จึงส่งผลให้คนๆนั้นทานอาหารน้อยลงซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
หากคุณมักจะดื่มชาคู่กับการรับประทานอาหารแทนที่จะเป็นน้ำก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าไม่มีความแตกต่างของระดับความเป็นกรดหลังจากดื่มชาหรือน้ำ อย่างไรก็ดีนักวิทยาศาสตร์แนะนำว่าเราควรดื่มน้ำอุ่นที่อุณหภูมิ 150 ฟาเรนไฮต์ หรือ 65 เซลเซียส
ที่มาจาก https://brightside.me/