รักษามะเร็ง ใบมะละกอ ใบมะละกอ รักษาโรคมะเร็ง ใบมะละกอรักษามะเร็ง

ใบมะละกอ พืชพื้นบ้านใกล้ตัว ช่วยรักษามะเร็ง ได้จริงหรือไม่?

ใบมะละกอ รักษามะเร็งได้เนื่องจากใบมะละกอมีเอนไซม์บางอย่างที่มีสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็ง สารอะซิโทโทนิน (Acetogenins) ซึ่งอยู่ในใบมะละกอสามารถเป็นเซลล์ต่อต้านมะเร็งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งและยับยั้งเซลล์มะเร็ง สิ่งที่น่าทึ่งก็คือใบมะละกอไม่มีผลข้างเคียงใดใดต่อร่างกาย โดยได้มีการศึกษาวิจัยมากมายเกี่ยวกับประโยชน์ของใบมะละกอในการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งจากการวิจัยใบมะละกอได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ ได้มีงานวิจัยพบว่าใบมะละกอสามารถหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม ช่วยยับยั้งการแพร่กระจาย และทำให้วงจรของเซลล์เป็นปกติ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ (University of Illinois)…

Home / HEALTH / ใบมะละกอ พืชพื้นบ้านใกล้ตัว ช่วยรักษามะเร็ง ได้จริงหรือไม่?

ใบมะละกอ รักษามะเร็งได้เนื่องจากใบมะละกอมีเอนไซม์บางอย่างที่มีสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็ง สารอะซิโทโทนิน (Acetogenins) ซึ่งอยู่ในใบมะละกอสามารถเป็นเซลล์ต่อต้านมะเร็งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งและยับยั้งเซลล์มะเร็ง สิ่งที่น่าทึ่งก็คือใบมะละกอไม่มีผลข้างเคียงใดใดต่อร่างกาย โดยได้มีการศึกษาวิจัยมากมายเกี่ยวกับประโยชน์ของใบมะละกอในการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งจากการวิจัยใบมะละกอได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้

ได้มีงานวิจัยพบว่าใบมะละกอสามารถหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม ช่วยยับยั้งการแพร่กระจาย และทำให้วงจรของเซลล์เป็นปกติ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ (University of Illinois) เชื่อว่า สารต้านอนุมูลอิสระในใบมะละกอมีส่วนช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการต้านมะเร็ง

ใบมะละกอ
ใบมะละกอ

อีกทั้งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟลอริดา (University of Florida) ได้ทำการศึกษาพบว่าใบมะละกอสามารถฆ่ามะเร็งชนิดต่างๆได้โดยเฉพาะ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก ตับมะเร็งเต้านม และมะเร็งปอด อีกทั้งใบมะละกอยังถูกแนะนำให้นำมาใช้เพื่อการทำเคมีบำบัดเพราะสามารถลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัดและยังช่วยเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ชาวอะบอริจินชนพื้นเมืองในออสเตรเลียได้บอกว่า ชาใบมะละกอสามารถช่วยในการรักษาโรคมะเร็งได้อย่างยอดเยี่ยม หลายคนรักษาโรคมะเร็งด้วยการดื่มชาใบมะละกอเป็นระยะเวลานาน อย่างไรก็ตามใบมะละกอรักษามะเร็งก็ยังคงต้องมีการศึกษาค้นคว้าวิจัยต่อไป

ที่มาจาก https://beatcancer.org/