ปัญหาหน้าใหญ่ มีไขมันส่วนเกิน แม้ไม่ได้เป็นคนอ้วนก็อาจเจอกับปัญหาแบบนี้ได้เช่นกัน ซึ่งการคุมอาหารหรือออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวอาจเห็นผลได้ช้า ไม่ทันใจ เทคโนยีการลดไขมันจึงเข้ามามีส่วนสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด รวมถึงการฉีดเมโสแฟต ที่เหมาะกับคนมีไขมันส่วนเกิน อยากลดไขมันเฉพาะจุด บริเวณแก้ม หรือเหนียงได้
เพื่อให้ผู้ที่กำลังมองหาวิธีสลายไขมันได้รู้จักและทำความเข้าใจก่อนฉีดเมโสแฟต ทั้งผลลัพธ์ ข้อดี ข้อจำกัด รวมทั้งวิธีเลือกคลินิกที่ดีให้ฉีดออกมาเห็นผล มีเรื่องใดที่ควรรู้และคำนึงถึงก่อนตัดสินใจบ้าง สามารถอ่านได้ที่ด้านล่างนี้เลย
เมโสแฟตช่วยให้หน้าเรียวลงได้อย่างไร?
เมโสแฟต เป็นการใช้ตัวยาฉีดเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นระบบการทำงานของร่างกายให้ลดไขมันให้น้อยลง และขับออกมาผ่านของเสียตามธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง ช่วยกระชับสัดส่วนได้ดี ซึ่งหลังฉีดเมโสแฟตแล้วไขมันสามารถสลายไปได้ถึง 10 – 15% เลยทีเดียว
หลักการเมโสแฟต ทำงานอย่างไร?
ตัวยาเมโสแฟตจะประกอบด้วยสาร 5 ชนิด ได้แก่ Phosphatidylcholine, Dexpenthenol, L-carnitine, Deoxycholate, Amino acid หรือ Minerals ซึ่งสกัดมาจากถั่วเหลือง ไข่แดง และวิตามินหลายชนิด ออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างโคเอนไซม์ที่ใช้ในการเผาผลาญไขมัน (Metabolism) โดยเร่งให้เกิดการสังเคราะห์โมเลกุล (Anabolism) เพื่อให้ร่างกายลดไขมันและลดการสังเคราห์กรดไขมัน เกิดการสลายไขมันได้เองตามธรรมชาติ รวมทั้งทำให้ร่างกายดึงไขมันสะสมไปใช้มากขึ้น เพิ่มการไหลเวียนเลือด และลดอาการบวมน้ำได้ด้วย
เมโสแฟตฉีดจุดไหนได้บ้าง?
การฉีดเมโสแฟตจะเน้นฉีดเฉพาะจุดเพื่อลดไขมันส่วนเกินบริเวณนั้นๆ สามาถฉีดได้หลายที่ด้วยกัน คือ
1. ฉีดแก้ม เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น กรอบหน้าชัด ลดแก้มเยอะจากไขมัน
2. ฉีดเหนียง ช่วยลดไขมันใต้คาง ไม่ให้เกิดเป็นคางสองชั้น
3. ฉีดต้นแขน ปรับแขนที่มีไขมันสะสมให้เรียวขึ้น ช่วยให้ต้นแขนกระชับ
4. ฉีดหน้าท้อง ลดพุง ช่วยให้หน้าท้องแบนราบขึ้นได้
5. ฉีดต้นขา ช่วยให้ขาเรียว ลดเซลลูไลท์ได้ดี
วิธีทำให้หน้าเรียวที่เห็นผลจริง มีอะไรบ้าง?
- เมโสแฟต เป็นการฉีดเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด โดยเน้นที่การฉีดหน้า เพื่อให้เรียวกระชับ ลดแก้ม เห็นผลได้เร็ว โดยตัวยาจะเข้าไปทำให้ไขมันแตกตัวและสลายออกมาพร้อมกับของเสียทางเหงื่อ ปัสสาวะ หรือการขับถ่าย ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับร่างกาย
ข้อดี
-หน้าเรียวเล็กลง มีความกระชับ สวยได้รูป
-ลดส่วนเกินและไขมันสะสมบนใบหน้า
-กรอบหน้าชัดขึ้น ดูสมส่วน ถ่ายรูปสวย
ข้อจำกัด
-ช่วยลดเฉพาะไขมันบางส่วน ไม่สามารถลดไขมันสะสมปริมาณมากๆ ได้
-หากชั้นไขมันสะสมเยอะเกินไป ต้องฉีดมากกว่า 5 ครั้งถึงจะเห็นผล
- ฉีดโบท็อก เป็นการฉีดสารที่มีชื่อว่า Botulinum Toxin A ที่เข้าไปช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวเล็กลง เน้นลดกรามใหญ่ แต่จะ ไม่สามารถลดไขมันได้
ข้อดี: หน้าได้รูปขึ้น มัดกล้ามเนื้อเล็กลง ทำให้เห็นกรอบหน้าชัด
ข้อจำกัด: ผลลัพธ์ไม่ถาวร เสี่ยงการดื้อโบท็อกได้ ต้องฉีดโดยแพทย์เท่านั้น
- Hifu การใช้พลังงานคลื่นความถี่สูงให้เกิดความร้อนในชั้นเซลล์ผิว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น กระชับยิ่งขึ้น
ข้อดี: เห็นผลได้ชัดหลังทำต่อเนื่อง ดีขึ้นถึง 20 – 30%
ข้อจำกัด: มีเครื่องให้เลือกหลายแบบมาก ผลลัพธ์ต่างกัน อาจทำให้เกิดความสับสนได้
- Thermage คือเทคโนโลยีการใช้ความร้อนสูง ซึ่งทำงานคล้ายคลื่นวิทยุ โดยจะส่งพลังงานลงไปที่ชั้นผิวหนังแท้ กระตุ้นเส้นใยคอลลาเจนให้มีโครงสร้างดีขึ้น กระชับ แข็งแรง
ข้อดี: ใบหน้ากระชับขึ้น สลายไขมันไปพร้อมกับยกกระชับผิวหน้า ผิวหนังที่หย่อนคล้อยกลับมายืดหยุ่นเต่งตึง
ข้อเสีย: ระหว่างทำจะรู้สึกเจ็บได้ และราคาค่อนข้างสูง
- Ulthera เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงยิงเข้าสู่ชั้นผิว เพื่อช่วยยกกระชับผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี: ผิวหน้ากระชับขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5 – 6 เดือน
ข้อจำกัด: ค่อนข้างเจ็บ และอาจมีอาการบวมหลังทำได้ประมาณ 1 สัปดาห์ เหมาะสำหรับคนที่ชั้นไขมันน้อย หากไขมันเยอะอาจต้องใช้วิธีการอื่นควบคู่
โบท็อก VS เมโสแฟต VS เลเซอร์ยกกระชับ วิธีไหนทำให้หน้าเรียวได้ดีที่สุด โดยไม่ต้องผ่าตัด?
อันดับแรกคุณหมอจะวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าก่อนว่าปัญหามาจากอะไร? จากกล้ามเนื้อ ไขมัน กระดูกหน้า หรือผิวหย่อนคล้อยร่วมด้วย ทั้งสามวิธีไม่ว่าจะเป็นโบท็อก เมโสแฟต หรือเลเซอร์ยกกระชับสามารถทำร่วมกันได้หากต้องการให้ผลลัพธ์ชัดเจน วิธีที่คนไข้สามารถเช็คได้เองง่ายๆคือ หากปัญหามาจากกล้ามเนื้อแน่นอนว่าโบท็อกให้ผลโดยตรงทำให้กล้ามเนื้อเล็กลง เช็คได้จากการกัดกรามแล้วหากมีกล้ามเนื้อปูดออกมากสามารถฉีดโบท็อกได้เลย กรณีมีไขมันกรอบหน้าเหนียงเยอะสามารถฉีดเมโสแฟตสลายไขมันได้ แต่หากมีปัญหาผิวคล้อยร่วมด้วยอาจพิจารณาการฉีดโบท็อกลิฟต์หรือเลเซอร์ยกกระชับผิว ซึ่งขึ้นกับงบประมาณคนไข้และความต้องการคนไข้เป็นหลัก ดังนั้น ขั้นตอนการปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจจึงสำคัญมาก ต้องเลือกทำกับคลินิกที่มีเครื่องมือครบเพื่อแก้ไขปัญหาของเราได้อย่างตรงจุด
ทำเมโสแฟตพร้อมโบท็อกได้มั้ย?
สามารถฉีดพร้อมกันได้ ซึ่งจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เพราะเป็นการลดไขมัน ร่วมกับการลดขนาดกล้ามเนื้อ แต่ต้องผ่านการประเมินและวิเคราะห์ปริมาณการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ฉีดเมโสแฟตกี่ครั้งถึงเห็นผล หน้าเรียวลงจริงมั้ย?
ฉีดเมโสแฟตสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 3 – 7 วันแรก และเห็นผลได้ดีสุดหลังผ่านไปแล้ว 2 – 4 สัปดาห์ และคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 3 – 4 เดือน หลังจากนั้นควรฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมใหม่
เมโสแฟตพอหมดฤทธิ์แล้วไขมันจะกลับมามั้ย?
เมื่อเริ่มฉีดเมโสแฟต ไขมันจะถูกสลายออกไปตามการออกฤทธิ์ของตัวยา จะได้ประสิทธิภาพมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพราะเมโสแฟตไม่สามารถป้องกันไขมันสะสมที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ได้ ดังนั้นจึงควรควบคุมอาหาร ออกกำลังกายควบคู่ และฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพไว้ไม่ให้เกิดการสะสมขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ฉีดเมโสแฟตเจ็บรึเปล่า?
เจ็บเล็กน้อย โดยในระหว่างการฉีดจะมีการประคบเย็นช่วยลดความเจ็บ หรือสามารถขอให้แพทย์แปะยาชาก่อนฉีดก็ได้เช่นกัน
ใบหน้าแบบไหนที่ฉีดเมโสแฟตแล้วเห็นผล?
เมโสแฟตจะออกฤทธิ์ได้ดีกับใบหน้าที่มีไขมันสะสมช่วงกรอบหน้า แก้ม หรือใต้คาง ในปริมาณไม่มาก จะเน้นปรับรูปหน้าที่มีส่วนเกินให้ดูกรอบหน้าชัดขึ้นได้
ใบหน้าแบบไหนฉีดเมโสแฟตไม่ได้ผล?
ใบหน้าที่ชั้นไขมันหนา คางสองชั้นชัดๆ หากเป็นลักษณะดังกล่าวจะเหมาะกับการดูดไขมันกรอบหน้า เพราะเป็นการรักษาที่ตรงจุดมากกว่านั่นเอง
อันตรายจากการฉีดเมโสแฟตที่ไม่ได้มาตรฐาน
-เสี่ยงเกิดการอักเสบจากตัวยาปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองจากอ.ย.
-มีโอกาสติดเชื้อจากอุปกรณ์ได้หากไม่สะอาดมากพอ
-หากไม่ได้ฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญ ตัวยาอาจเข้าเส้นเลือดแล้วเป็นอันตรายได้
วิธีเลือกคลินิกสำหรับฉีดเมโสแฟต
- มีแพทย์ประจำคลินิกที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ประสบการณ์สูง
- คลินิกได้มาตรฐาน รักษาความสะอาดอย่างดี มีใบประกอบการดำเนินธุรกิจ
- มีความน่าเชื่อถือ เลือกใช้ตัวยาของแท้ที่ผ่านอ.ย.เท่านั้น
- มีรายชื่อของแพทย์ผู้ทำหัตถการ สามารถค้นหาเพื่อเช็กใบประกอบวิชาชีพได้
- แพทย์ให้ข้อมูลทุกครั้งทั้งก่อนและหลังฉีด มีการแสดงกล่อง ผสมตัวยาให้ดู
วิธีปฎิบัติหลังฉีดเมโสแฟตเพื่อให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้น
-งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับสารที่ทำร้ายผิว
-ดื่มน้ำปริมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้ดี
-พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมตัวยาได้ดี
-ออกกำลังกาย ให้เห็นผลลัพธ์หลังการฉีดยาวนานยิ่งขึ้น
รีวิวเมโสแฟต
สรุปเมโสแฟตดีมั้ย? ควรทำหรือไม่?
ถ้าประเมินและไตร่ตรองดูแล้วพบว่าการฉีดเมโสแฟตแก้ปัญหาได้ตรงตามความต้องการ ในส่วนของการลดไขมันเฉพาะจุด ปรับกรอบหน้าชัด เรียวขึ้นตามผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดแล้ว ก็สามาถเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ และตัดสินใจทำเมโสแฟตได้ เพราะหากได้รับการทำอย่างถูกต้อง การฉีดเมโสแฟตก็จะออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงที่น่ากังวลนั่นเอง