การเตรียมผนังมดลูก เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญสำหรับสตรีมีบุตรยาก ที่เข้าสู่กระบวนการทำ เด็กหลอดแก้ว ทั้งจากกระบวนการทำ (IVF) / อิ๊กซี่ (ICSI) เพราะหลังจากได้ตัวอ่อนจากการปฏิสนธินอกร่างกายและเลี้ยงไปถึงระยะบลาสโตซิตส์ ซึ่งตัวอ่อนที่สามารถพัฒนาถึงระยะนี้ได้จะเป็นตัวอ่อนที่แข็งแรงและเหมาะสมสำหรับการย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก
ดังนั้นการเตรียมผนังมดลูกก่อนย้ายตัวอ่อนเพื่อให้พร้อมสำหรับรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนและให้พัฒนาเติบโตเป็นทารกที่สมบูรณ์แข็งแรงในครรภ์ต่อไป จึงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่หากเตรียมมาตัวดีโอกาสประสบความสำคัญในการตั้งครรภ์ย่อมสูงตามมา
“ครูก้อย” นัชชา ลอยชูศักดิ์ ครูวิทยาศาสตร์ที่ปรึกษาผู้มีบุตรยากและผู้ก่อตั้งเพจ BabyAndMom ได้ศึกษาและรวบรวมงานวิจัยทั้งในไทยและต่างประเทศเกี่ยวกับหลักโภชนาการในการรับประทานอาหารที่จะช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ ช่วยบำรุงไข่ บำรุงมดลูก และปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ ให้ข้อมูลว่า
การเตรียมผนังมดลูกก่อนย้ายตัวอ่อนมีความสำคัญมาก ผู้หญิงที่มีบุตรยาก ควรให้ความสำคัญกับการเตรียมมดลูกให้ได้ตามเกณฑ์ก่อนย้ายตัวอ่อน
โดยภายหลังที่ได้ตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิตส์และคัดโครโมโซมผ่านแล้ว สามารถฟรีซตัวอ่อนแช่แข็งไว้ก่อน เพื่อจะได้เตรียมผนังมดลูกให้พร้อมก่อนย้ายตัวสู่โพรงมดลูก
ผนังมดลูกที่สมบูรณ์พร้อมตามเกณฑ์ที่เหมาะสมในการฝังตัวของตัวอ่อน ควรมีลักษณะดังนี้
- 8-10 มิลลิเมตร (ไม่ควรหนาเกิน 14 มิลลิเมตร)
- เรียง 3 ชั้นสวย (Triple lines) ผิวเรียบเห็นเส้นกลางชัดเจน
- ใสเป็นวุ้น สะอาด ไม่หนาทึบทับถมด้วยประจำเดือนเก่าที่คั่งค้าง
- มดลูกอุ่น คือ มีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ ไม่มีสารพิษตกค้าง
หลักการเตรียมผนังมดลูก มี 2 วิธีด้วยกัน คือ
- เสริมด้วยหลักโภชนาการ ที่ช่วยให้ผนังมดลูกหนา แข็งแรง และมีเลือดสูบฉีดนำสารอาหารไปเลี้ยงอย่างเพียงพอซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการฝังตัวของตัวอ่อนได้อย่างสมบูรณ์และลดการใช้ยากระตุ้นในกระบวนการทางการแพทย์
- พึ่งการใช้ยาฮอร์โมน โดยกระบวนการทางการแพทย์ เป็นการใช้ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)กระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว และพร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน
“การเตรียมผนังมดลูกให้พร้อมไม่ควรรอพึ่งกระบวนทางการแพทย์อย่างเดียว เพราะโอกาสความสำเร็จขึ้นอยู่กับวัตถุดิบตั้งต้นของแต่ละคน ดังนั้นการเตรียมความพร้อมทั้งทางร่างกายและระบบเจริญพันธุ์ทั้งไข่ มดลูก ฮอร์โมน ซึ่งเป็นวัตถุตั้งต้นของเราให้พร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนแพทย์ เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด เมื่อเรานำวัตถุดิบดีๆไปให้แพทย์ โอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ก็จะมีสูงตามมา”
3 ปัญหาของผนังมดลูกที่พบบ่อยของผู้มีบุตรยาก
“ครูก้อย” ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัญหาของผนังมดลูกของผู้มีบุตรยากที่มาปรึกษาครูก้อย จากการศึกษางานวิจัยที่พบบ่อยมี 3 กรณี คือ ผนังมดลูกบาง ผนังมดลูกหนาทึบ และ ผนังมดลูกขรุขระ ไม่เรียบ โดยมีสาเหตุมาจากหลากหลายปัจจัย
1.ผนังมดลูกบาง
ผนังมดลูกบาง มาจากหลายปัจจัย เช่น เคยได้รับการขูดมดลูกมาก่อน ,มีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูกน้อยจนเกินไปมาก, มีภาวะบกพร่องของระยะลูเทียล (Luteal Phase Defect),มีฮอร์โมนเอสโตรเจนผิดปกติ ซึ่งอาจมาจากภาวะรังไข่เสื่อมหรือหยุดการทำงาน ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวได้, การทานยากระตุ้นรังไข่ปริมาณมากและติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกิน6เดือน อาจมีผลทำให้ผนังมดลูกบางได้ในบางราย, มดลูกอักเสบติดเชื้อ หรือการได้รับโภชนาการที่ไม่สมบูรณ์ การรับประทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอที่จะไปเสริมการสร้างผนังมดลูก การทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็นส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่ดี เลือดเหนียวข้น โดยหลักโภชนาการที่ช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์และช่วยให้ผนังมดลูกหนาตัวและแข็งแรงขึ้น สำหรับผู้มีบุตรยากที่มีปัญหาผนังมดลูกบางมีดังนี้
1.1 ทานโปรตีนให้เพียงพอสร้างผนังหนา แข็งแรง
โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างมากต่อการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ผู้หญิงที่เตรียมวางแผนท้องต้องเน้นทานโปรตีนเพิ่มขึ้นเพื่อบำรุงเซลล์ไข่ให้สมบูรณ์และช่วยสร้างผนังมดลูกให้หนาตัว แข็งแรง ลดการทานคาร์บขัดสีแต่ให้ทานคาร์บเชิงซ้อนพวกธัญพืช เช่น งาดำ ลูกเดือย แฟล็กซีด เมล็ดฟักทอง เป็นต้น
การเลือกทานโปรตีนสำหรับคนวางแผนท้องควรเน้นทานโปรตีนจากพืช เพราะปลอดภัยจากสารเร่งเนื้อแดง หรือ ฮอร์โมนแฝงที่มากับเนื้อสัตว์ หากรับประทานมากเกินไปจะรบกวนสมดุลฮอร์โมนเพศ รบกวนการฝังตัวของตัวอ่อน
1.2 ปรับสมดุลฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนด้วยการทานอาหารที่มีวิตามินซี และ ไบโอฟลาโวนอยด์สูง
หลังการตกไข่ร่างกายจะสร้างระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงขึ้น โดยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะส่งผลให้มดลูกหนาขึ้น พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน หากมีความบกพร่องของระยะนี้หมายความว่า ร่างกายจะมีระดับฮอร์โมน โปรเจสเตอโรนน้อยเกินไป ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่หนาตัว ส่งผลให้โอกาสในการฝังตัวของตัวอ่อนมีน้อยลง มีงานวิจัยจาก The University of Texas ศึกษาพบว่าผู้หญิง 53% ที่ทานอาหารวิตามินซี และไบโอฟลาโวนอยด์สูงจะมีช่วงลูเทียลเฟส (Luteal Phase) ยาวขึ้น
“ระยะลูเทียล” คือ ระยะเวลาหลังการตกไข่ที่ร่างกายจะสร้างระดับ “ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน” สูงขึ้น โดยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะส่งผลให้มดลูกหนาขึ้น พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน หากมีความบกพร่องของระยะนี้หมายความว่า ร่างกายจะมีระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนน้อยเกินไป ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่หนาตัว ทำให้ช่วงระยะเวลาลูเทียล หรือ Luteal Phase สั้น ส่งผลให้โอกาสในการฝังตัวของตัวอ่อนมีน้อยลง
และรู้หรือไม่ว่า “น้ำมะกรูดคั้นสด” มี “วิตามิน C” และ “ไบโอฟลาโวนอยด์” สูงช่วยให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนดี และทำเลือดไปเลี้ยงมดลูกได้เพียงพอ ทำให้มดลูกอุ่น และช่วยให้เส้นเลือดฝอยที่โอบอุ้มมดลูกแข็งแรง ลดการอักเสบติดเชื้อที่มดลูก นอกจากนี้ไบโอฟลาโวนอยด์ยังไปเสริมการทำงานของวิตามินซีที่ช่วยเรื่องการเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สำคัญในการตั้งครรภ์ ช่วยยืดระยะลูเทียลเฟส ทำให้ตัวอ่อนฝังตัวได้ดีขึ้น
2.ผนังมดลูกหนาทึบ
ส่วนสาเหตุของ “ผนังมดลูกหนาทึบ” เกิดจากการลอกตัวของผนังมดลูกไม่สมบูรณ์ ทำให้มีประจำเดือนเก่าคั่งค้าง ทับถมส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ออกซิเจนในเลือดไม่เพียงพอ ทำให้เลือดไหลเวียนนำสารอาหารไปเลี้ยงมดลูกไม่เพียงพอ ดังนั้นการดีท็อกซ์มดลูกให้สะอาดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบำบัดมดลูกให้ใสเป็นวุ้น พร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน มีทั้งหมด 3 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่
2.1 “ดื่มชาดอกคำฝอย” ตัวช่วยล้างประจำเดือนเก่าที่คั่งค้างหมักหมม
ดอกคำฝอยมีสรรพคุณทางยาที่สำคัญคือการขับลิ่มเลือด การดื่มชาดอกคำฝอยจึงช่วยขับประจำเดือนเก่าที่คั่งค้างทับถมในมดลูก “เสมือนเป็นการล้างมดลูกให้สะอาด” ประจำเดือนจะไหลออกมาดีขึ้น สีแดงสะอาด โดยสามารถเริ่มดื่มเมื่อประจำเดือนมาวันแรกต่อเนื่อง 7-10 วัน นอกจากนี้ดอกคำฝอยช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนสตรีทำให้เลือดไหลเวียนดี ประจำเดือนมาปกติ และยังช่วยลดน้ำตาล ลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย
2.2 “ดื่มขิงดำ” เพิ่มสภาวะมดลูกอุ่น
การดื่มน้ำขิงดำเป็นประจำ ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดี เพิ่มออกซิเจนในเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนนำสารอาหารไปเลี้ยงมดลูกได้อย่างเต็มที่ขิงดำยังมีฤทธิ์อุ่น ช่วยปรับสภาพภาวะในร่างกายที่มีความเย็น ให้ร่างกายอบอุ่น เพิ่มระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี มดลูกอุ่น ติดลูกง่ายขึ้น โดยสามารถดื่มช่วงไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้มีประจำเดือน เพราะขิงทำให้เลือดไหลเวียนดี ทำให้ผ่อนคลายและนอนหลับลึก ช่วยให้นอนหลับที่เพียงพอยังช่วยลดความเครียดได้ด้วย เพราะขิงดำช่วยให้ผ่อนคลาย ลดฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวร้ายที่มีผลต่อการจัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อนขิงดำยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบและติดเชื้อในมดลูก ทำให้มดลูกแข็งแรง หากมดลูกอักเสบ ติดเชื้อก็ส่งผลให้ตัวอ่อนไม่ฝังตัวหรือแท้งในระยะเริ่มต้นนั่นเอง นอกจากนี้ยังช่วยลดกลุ่มอาการ PMS หรือกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนที่ฮอร์โมนกำลังแปรปรวน การดื่มขิงดำช่วยทำให้สมดุลฮอร์โมนปกติ ลดอาการตัวบวม ลดอาการปวดท้องประจำเดือน
2.3″ดีท็อกซ์มดลูก” ด้วยการทำ Castor Oil Pack (การแพ็คน้ำมันละหุ่งบำบัดมดลูก) ขับล้างสารพิษคั่งค้าง
การทำ Castor Oil Pack เป็นศาสตร์ทางตะวันตกที่มีการทำกันมาเป็นพันๆ ปีเพื่อบำบัด หรือ ดีท๊อกซ์มดลูก รวมถึงอวัยวะภายในทั้งรังไข่ ลำไส้ ตับอ่อนและตับถุงน้ำดี โดยการใช้น้ำมันละหุ่งทาบริเวณหน้าท้องและประคบด้วยถุงน้ำร้อน การทำ Castor Oil Pack จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์เพราะช่วยเสริมสร้างสุขภาพมดลูก สร้างสุขภาพที่ดีให้รังไข่ กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น รวมถึงระบบเหลืองและระบบฮอร์โมนที่ดีขึ้น หลายคนที่มีปัญหาเรื่องท่อนำไข่ตัน ช็อกโกแลตซีสต์ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ถุงน้ำในรังไข่ ซึ่งจัดเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลให้มีบุตรยากรวมถึงผู้หญิงหลายคนที่ระบบการไหลเวียนเลือดไม่ดี เลือดข้นเหนียว หรือระบบน้ำเหลืองที่ไม่ดี มีสารพิษ สารเคมีตกค้างในร่างกายจากการใช้ฮอร์โมนมากเกินไป
3.ผนังมดลูกขรุขระ ไม่เรียบ
เกิดจากการขาดโปรตีน หรือ มีเนื้องอกมดลูก เคยผ่าตัดเนื้องอก หรือ พังผืดในโพรงมดลูกมาก่อน ทำให้ผนังมดลูกทรุด มีผิวขรุขระ ให้เน้นทานโปรตีนเพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมดลูก จะช่วยสร้างผนังให้เรียบตึงและแข็งแรง
กล่าวโดยสรุป การเตรียมผนังมดลูกเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ โดยต้องเตรียมมดลูกให้หนา 8-10 มิลลิเมตร ใสเป็นวุ้น เรียงสามชั้น และที่สำคัญระบบไหลเวียนเลือดต้องดีเพื่อมดลูกจะได้อุ่นพร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อนที่จะพัฒนามาเป็นลูกน้อยของเราในครรภ์ตามวิธีที่ได้กล่าวไปข้างต้น ดังนั้นสตรีที่มีบุตรยากควรเตรียมวัตถุดิบตั้งต้นของเราให้ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้สูง
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก รายการครูก้อยพบแพทย์ Ep.33 เตรียมผนังมดลูกอย่างไร ก่อนใส่ตัวอ่อน? ที่ช่องยูทูป babyandmom.co.th