ภาพยนตร์ ภาพยนตร์ต่างประเทศ วิธีดูแลสุขภาพ วิธีเอาตัวรอด

อย่าหาทำ! 8 วิธีเอาตัวรอดในหนัง ถ้าทำตามในชีวิตจริงอาจจะไม่รอด

ชวนสำรวจ วิธีเอาตัวรอดในหนัง ที่มักจะเจอกันบ่อยๆ แต่ถ้าหากจะทำตามในชีวิตจริงอาจจะเสี่ยงเกินไป

Home / HEALTH / อย่าหาทำ! 8 วิธีเอาตัวรอดในหนัง ถ้าทำตามในชีวิตจริงอาจจะไม่รอด
  • ซีนในหนัง เช่น การเอาตัวรอดในสถานการณ์ชวนลุ้นระทึก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ช่างเท่ซะจริงๆ หลายคนก็คิดอยากจะทำตามในชีวิตจริงบ้าง แต่อันที่จริงในชีวิตจริงคุณอาจจะไม่โชคดีรอดชีวิตมาได้เหมือนในหนังน่ะสิ
  • ชวนสำรวจ วิธีเอาตัวรอดในหนัง ที่มักจะเจอกันบ่อยๆ แต่ถ้าหากจะทำตามในชีวิตจริงอาจจะเสี่ยงเกินไป

1.กระโดดออกจากรถ

เห็นซีนกระโดดออกจากรถ ได้ในหนังแอคชั่นหลายๆ เรื่อง โดยนักแสดงตัวเอกมักจะกระโดดหนีออกมาจากรถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็ว ในความเป็นจริงถ้าทำแบบนั้นรู้ไว้เลยว่าอันตรายมาก ถ้าทำตามอาจบาดเจ็บหนักและรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้เลยนะ

แต่ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเอาตัวรอดต้องกระโดดออกมาจากรถให้ได้ แนะนำทำตามดังนี้

  • อย่าดึงเบรกฉุกเฉิน เพราะรถจะเสียหลัก ให้รอช่วงที่รถชะลอ
  • เปิดประตูให้กว้างมากที่สุด และดูให้ดีๆ ว่าแถวนั้นไม่มีหิน เสา ต้นไม้ สิงกีดขวางที่จะทำให้เกิดความรุนแรงกับคุณ
  • ให้กระโดดด้วยมุมตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของรถ โดยม้วนตัวของคุณให้ดี จะช่วยลดอันตรายลงได้บ้าง

แต่เพื่อความปลอดภัยอย่าเสี่ยงทำจะดีที่สุด เพราะการที่จะทำพฤติกรรมดังกล่าวได้ ควรมีการฝึกฝนมาอย่างดีก่อน

2.ทิ้งโทรศัพท์ เมื่อใช้แล้วไม่มีสัญญาณ

สมมติว่าคุณหลงทางและไม่มีสัญญาณเพียงพอที่จะโทรออก ตัวละครในภาพยนตร์จะโยนโทรศัพท์ทิ้งอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ควรทำเช่นนั้น เพราะโทรศัพท์ไม่ได้ไร้ประโยชน์ แม้จะไม่สามารถโทรได้ แต่ก็ยังส่งสัญญาณไปยังเสาเครือข่ายโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้เคียง และสร้างแผนที่ดิจิทัลสำหรับเส้นทางของคุณ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถติดตามตำแหน่งของคุณได้ สิ่งที่คุณควรทำจริงๆ คืออย่าโยนโทรศัพท์ทิ้ง และเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ ให้ปิดเครื่องทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

3.นอนราบไปบนพื้นเมื่อฟ้าผ่า

เมื่อฝนตกในหนังบางเรื่องตัวละนอนราบไปกับพื้น ในความจริงคือ ควรเข้าไปอยู่ในที่พัก หรืออาคาร แต่ถ้าอยู่ในที่โล่งควรนั่งยอง อย่านอนราบไปกับพื้น เพราะเวลาที่พื้นเปียกจะเป็นตัวนำไฟฟ้า ทำให้เสี่ยงโดนฟ้าผ่ามากกว่าเดิม

4.จุดไฟในถ้ำ

เมื่อมีซีนที่ต้องเข้าไปในถ้ำ เรามักจะได้เห็นการจุดไฟในนั้น ในชีวิตจริงการจุดไฟในถ้ำ ค่อนข้างอันตรายเลยล่ะ เพราะความร้อนอาจจะทำให้ก้อนหินขยายตัวส่งผลให้ถ้ำถล่มได้ หรือบางทีอาจจะทำให้หมดสติเพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่เกิดจากการเผาไหม้

5.ไม่สนใจป้ายเตือนต่างๆ ละเมิดเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม

ในหนังบางเรื่อง อย่างเช่น หนังแนวสยองขวัญส่วนใหญ่เหตุการณ์เสี่ยงๆ ไม่ดีต่างๆ เริ่มต้นด้วยคนมักจะละเมิดเครื่องหมายห้าม ไม่สนใจป้ายเตือนที่ติดไว้ เกิดความอยากรู้ว่าเพราะอะไรถึงห้ามผ่าน ห้ามเข้า และฝ่าฝืนเข้าไป แต่ในหนังอาจจะรอดออกมาได้ ถ้าในชีวิตจริงอาจจะไม่โชคดีแบบนั้นก็เป็นได้

6.วิ่งหนีพายุทอร์นาโด

ในหนังเราจะได้เห็นว่า ตัวละครจะยืนอึ้งก่อนจะวิ่งหนี ในความเป็นจริง ถ้ามีประกาศพายุทอร์นาโด คุณอย่ามัวยืนมองอึ้ง ให้รีบหนีให้เร็วที่สุด เพราะคุณอาจจะถึงแก่ชีวิตด้วยพายุ หรือไม่ก็สิ่งของที่พัดลอยมา

7.ดูทิศทางจากมอส

ไม่เป็นความจริงเสมอไป กับคำบอกเล่าที่ว่า “มอสจะขึ้นในทางทิศเหนือของต้นไม้ ถ้าหลงป่าให้ดูมอสเป็นหลัก” คือถ้าจะใช้หลักการนี้ความเป็นไปได้อยู่ที่ซีกโลกเหนือเท่านั้น แต่ก็เชื่อไม่ได้เสมอไปอยู่ดี เพราะมอสขึ้นได้ทุกที่ที่เป็นที่ร่มและมีความชื้นสูง

เอาเป็นว่าถ้าคุณหลงป่าขึ้นมา และมีมอสให้ดู ไม่มีเข็มทิศติดตัว ดูจากนาฬิกา ด้วยการให้ถือนาฬิกาไว้ระนาบเดียวกับพื้น ให้เข็มชั่วโมงชี้ไปที่ดวงอาทิตย์ กึ่งกลางระหว่างเข็มชั่วโมงกับขีด 12 นาฬิกาจะเป็นทิศใต้

8.วิ่งหนีป่าราบ เมื่อเจอสัตว์ป่า

ในชีวิตจริงใช่ว่าสัตว์ทุกตัวทีเจอในป่าแล้วคุณวิ่งหนีมันจะรอดนะ มนุษย์อาจจะอ่อนแอกว่าสัตว์ที่เจอ ยิ่งถ้ามือเปล่าไม่มีอาวุธอะไรติดตัวไว้เลย หนทางความปอดภัยยิ่งริบหรี่ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยที่สุด ก่อนจะเข้าป่าไปนั้นให้ศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ป่าไว้ด้วย เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาได้เอาตัวรอดอย่างถูกวิธี

เอาเป็นว่าในหนังเรื่องต่างๆ นอกจากจะได้ความบันเทิงแล้ว ประโยชน์ก็มีแฝงอยู่ แต่คุณก็ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม ข้อไหนดีก็นำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้ ข้อไหนใช้ไม่ได้ก็อย่าหาทำตามเลย


LUCKY WAY เซตเต็นท์สนามครบชุด

เต้นท์พับสำหรับ 2 คน กันน้ำ น้ำหนักเบา พกพาง่าย เหมาะสำหรับออกทริปปลายฝนต้นหนาว สามารถพกพาไปได้สะดวก ครบชุด พร้อมเที่ยว !!!

ราคา 1,290 บาท


ที่มา : brightside