เชื่อว่าหลายคนเมื่อได้ก้าวเข้าสู่วัยทำงานแล้ว เวลาในการดูแลตัวเองค่อนข้างที่จะลดลงด้วยหน้าที่การงานและต้องดูแลครอบครัว ทำให้เกิดความเครียดสูงเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย จึงไม่แปลกที่คนวัยทำงานมักจะเริ่มมองหา อาหารเสริม เพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพผิวให้ดูดียาวนาน ด้วย Astaxanthin และ Niacinamide
Astaxanthin (แอสตาแซนธิน)
เป็นสารประเภทแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ในธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดสีแดงหรือสีชมพูในพืชหรือสัตว์ มีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ดังนั้นจึงมีความสามารถในการป้องกันการทำลายเซลล์และกระบวนการออกซิเดชั่นที่มีผลทำให้เกิดริ้วรอยและการเสื่อมของเซลล์ก่อนวัยอันควร จึงถูกนำมาสกัดและพัฒนาเพื่อใช้เป็นอาหารเสริมในการดูแลสุขภาพของดวงตาและหัวใจ ลดการอักเสบทั่วร่างกาย และช่วยในเรื่องของผิวพรรณอีกด้วย
โดยแอสตาแซนธิน ก็มีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพเรา เนื่องจากเป็นสารโภชนะเภสัช มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ซึ่งช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ที่มีผลทำให้ทำลายเซลล์ที่สามารถนำไปสู่การออกซิเดชั่นและอาจนำไปสู่ริ้วรอยก่อนวัยของเซลล์ จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง มีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทำการศึกษาประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่าง ๆ พบว่า แอสตาแซนธิน มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่า วิตามิน ซี 6,000 เท่า เลยทีเดียว
ประโยชน์ของ Astaxanthin
1. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่า วิตามิน ซี 6,000 เท่า ชะลอกระบวนการแก่ชราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ป้องกัน และ ฟื้นฟูจอตาที่เสื่อม ซึ่งพบมากในผู้สูงอายุ และ ผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งจอตาจะเป็นจุดรับภาพของลูกตา ช่วยยับยั้งการสะสมของกรดในดวงตา อันเป็นสาเหตุให้ดวงตาอ่อนล้า ช่วยป้องกันดวงตาจากรังสีอัลตร้าไวโอเลต
3. ป้องกัน และ บำบัดในผู้ป่วยความจำเสื่อม และ พาร์กินสัน
4. ลดภาวะอักเสบในร่างกาย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยภูมิแพ้ตัวเอง ภูมิต้านทานต่ำ และ การติดเชื้อไวรัสเรื้อรัง เช่น กลุ่มผู้ป่วย AIDS ผู้ติดเชื้อไวรัสงูสวัด และ เริม
5. ทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อมีสุขภาพดีขึ้น ช่วยให้กล้ามเนื้อมีความทนทานมากขึ้น
6. ปรับสมดุลความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจ
7. ช่วยการซ่อมแซม และ ฟื้นฟูเซลล์สมองและหลอดเลือดในผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก หรือ ผู้ป่วยที่ขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง
Niacinamide (ไนอะซินาไมด์)
Niacinamide หรือรู้จักกันใน ชื่อ วิตามินบี 3 เป็นวิตามินที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ช่วยลดริ้วรอยและรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว ช่วยลดอาการแดงและอาการระคายเคืองบนผิว ไปจนถึงช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (ceramide คือ ลิปิด (น้ำมัน) ที่พบได้ในผิวตามธรรมชาติ และมีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างปราการผิวและรักษาความชุ่มชื้นของผิว) ซึ่งจะส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และยังเป็นส่วนผสมที่ช่วยกระชับรูขุมขนและคุมความมันบนผิว จึงเหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่มีผิวมัน อย่างไรก็ตามเป็นส่วนผสมที่เข้าได้กับทุกสภาพผิว
เนื่องจาก Niacin เป็นวิตามินประเภทที่ละลายน้ำได้ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่เราจะใช้กันจึงมาในรูปแบบของเซรั่ม และเจลลี่ที่สามารถทานได้ง่าย เมื่อเทียบกันกับสารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรดที่นิยมใช้ในสกินแคร์ในปัจจุบันอย่างเช่น วิตามินซี หรือ AHA และ BHA เป็นต้น Niacinamide จะอ่อนโยนต่อผิวกว่าเพื่อนเพราะเป็นสารออกฤทธิ์ (Active Ingredient) ในสกินแคร์ที่ปราศจากกรดและการระคายเคือง
ประโยชน์ของ Niacinamide
1. เนื่องจาก Niacinamide มีส่วนในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระแก่ผิวได้ จึงถือว่าเป็นเกราะป้องกันที่ช่วยบูสพลังการต้านอนุมูลอิสระแบบที่ไม่ทิ้งความมันเยิ้มไว้บนผิวระหว่างวัน
2. Niacinamide ช่วยต้านการอักเสบและลดเชื้อแบคทีเรียบนผิว ช่วยลดการเกิดสิว ช่วยให้รอยสิวแลดูจางลง และปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาสิว
3. สามารถเข้าไปบูสการสร้างคอลลาเจนซึ่งจะช่วยให้ผิวเต้งตึงกระชับขึ้น ซึ่งผลวิจัยพบว่าสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 4 เปอร์เซ็นต์ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
4. Niacinamide จะช่วยปรับสมดุลการสร้างน้ำมันในผิว บาลานซ์การผลิตน้ำมันในผิว โดยจะช่วยให้การผลิตน้ำมันในผิวสมดุลขึ้น ซึ่งต่างจากส่วนผสมคุมความมันบนผิวอื่นๆ เมื่อการผลิตน้ำมันในผิวสมดุลมากขึ้น
5. ช่วยให้ผิวชั้นบนสตรองขึ้น Niacinamide จะช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเราดูสุขภาพดีจากนอกแล้ว ความชุ่มชื้นในผิวยังช่วยให้ชั้นผิวของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
และนี่คือสรรพคุณของสารอาหารที่มักพบในอาหารเสริม เพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพผิวให้ดูดียาวนาน ซึ่งข้อดีคือเป็นสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ ทำให้ผลข้างเคียงจะน้อย เหมาะกับวัยทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ดังนั้นการทานอาหารเสริมเหล่านี้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับวัยทำงาน