ในปัจจุบันเราต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมและไลฟ์สไตล์ที่อาจทำให้ผิวหน้าถูกทำร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การอยู่ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานาน การสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป การใช้เครื่องสำอางเป็นประจำ ปัญหามลภาวะ และการได้รับโภชนาการที่ไม่เพียงพอ ล้วนทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่เปล่งปลั่ง และปราศจากความยืดหยุ่น ขอแนะนำตัวช่วย 12 วิตามิน ที่ช่วยบำรุงผิว ให้สวยแบบสุขภาพดี
เพื่อผิวสวยสุขภาพดีต้องรู้! 12 วิตามิน ที่ช่วยบำรุงผิว
แม้ว่าสภาวะต่างๆที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายและยากที่จะหลบเลี่ยงได้ในไลฟ์สไตล์และการทำงานของเรา แต่โภชนาการเป็นสิ่งหนึ่งที่เราสามารถควบคุมได้ เนื่องจากผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ผิวจึงจำเป็นต้องได้รับวิตามินเฉพาะเพื่อบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีและทำงานได้อย่างเหมาะสม เช่น ไนอะซินาไมด์ (อีกชื่อหนึ่งของวิตามิน บี 3) ช่วยเพิ่มการทำงานของเกราะป้องกันผิว ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก และช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส
ทำไมโภชนาการผิวจึงสำคัญต่อการดูแลผิวพรรณ เพราะโภชนาการผิว คือ สารอาหารสำคัญที่ผิวต้องการ ถ้าเรารู้ว่าวิตามินอะไรบ้างที่ผิวต้องการและรับสิ่งนั้นเข้าไป ผิวเราจะได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
วิตามินที่จำเป็นทั้ง 12 ชนิด มีหน้าที่ช่วยบำรุงผิวให้แลดูสวยสุขภาพดี มีดังนี้
วิตามินเอ ช่วยให้ผิวของเราสุขภาพดี ป้องกันสิว ริ้วรอย ร่องลึก ช่วยปรับสีผิวให้แลดูสว่าง และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน หากขาดวิตามินเอในชั้นผิวสามารถนำไปสู่การเกิดอักเสบของผิว เช่น กลาก สิวผด และผื่นขึ้นได้
วิตามินซี ช่วยให้ผิวของเราแข็งแรง โดยทำหน้าที่ปกป้องเซลล์ผิวจากมลภาวะในอากาศ แสงแดด และมีส่วนช่วยในการผลิตคอลลาเจนเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อใหม่ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร หากขาดสารอาหารนี้ไปจะทำให้ผิวแห้งเป็นขุยและเกิดรอยฟกช้ำได้ง่าย
วิตามินอี ไม่ใช่วิตามินเดี่ยวเหมือนตัวอื่นๆ แต่เป็นกลุ่มของสารประกอบ ซึ่งเป็นกลุ่มของสารอาหารที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ โดยวิตามินอีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ควันบุหรี่ และรังสี UV ซึ่งเป็นรังสีที่มีอยู่ตลอดเวลาแม้แต่ในวันที่มีเมฆมาก ดังนั้นการขาดวิตามินอีอาจทำให้ผิวแห้งเป็นขุยได้
วิตามินเค มีส่วนช่วยในการทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว รักษาบาดแผลและรอยฟกช้ำบนร่างกาย รวมถึงมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างผิวของเรา ช่วยลดเลือนรอยแตกลาย เส้นเลือดฝอยแตก และเส้นเลือดขอด
วิตามินบี 1 หรือ ไทอะมีน ซึ่งรู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า “วิตามินต้านความเครียด” มีส่วนช่วยในการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อให้เหมาะสม ช่วยผ่อนคลายระบบประสาท และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิวที่มีสาเหตุจากความเครียดบนผิวของเรา
วิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน มีความสำคัญต่อสุขภาพของดวงตา ผม ผิวหนัง และเล็บ นอกจากนี้ยังช่วยขับของเสียออกจากผิวหนัง ป้องกันความแห้งกร้านที่นำไปสู่การผลิตน้ำมัน ซึ่งทำให้เกิดสิวในที่สุด การขาดวิตามินบี 2 อาจทำให้ผิวแห้ง เป็นสิว หรือริมฝีปากแห้งแตก
วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน เป็นที่รู้จักจากคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย เนื่องจากเป็นตัวสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ผิวของเรา ช่วยปรับปรุงการทำงานของเกราะป้องกันผิว ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก และทำให้ผิวกระจ่างใส การขาดวิตามินบี 3 อาจทำให้เกิดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ และอาจเกิดกระ ฝ้า หากผิวหนังโดนแสงแดดมากเกินไป
วิตามิน B5 หรือ กรดแพนโทเทนิก ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว และช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกักเก็บความชุ่มชื้นมากขึ้น สัญญาณของการขาดวิตามินนี้ สังเกตได้จากผิวหนังอักเสบ ริ้วรอยก่อนวัย สิวผดผื่น และผิวแพ้ง่าย
วิตามิน B6 หรือ ไพริด็อกซีน เป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น การขาดวิตามินบี 6 อาจทำให้เกิดผื่นบนผิวหนัง ริมฝีปากแตกและแห้ง
วิตามิน B7 หรือ ไบโอติน ช่วยเสริมความแข็งแรงให้เส้นผมและเล็บ รวมทั้งปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายและการสูญเสียน้ำ ช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้นและเปล่งปลั่ง สัญญาณของการขาดวิตามินนี้พบได้ไม่บ่อยนัก แต่มักมีผื่นแดงเป็นสะเก็ดและผมร่วง
วิตามินบี 9 หรือ กรดโฟลิก ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและสารพันธุกรรมของร่างกาย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานของสมอง เมื่อได้รับปริมาณที่เหมาะสมจะสามารถป้องกันผิวจากแสงแดดและความชรา ทำให้ผิวแลดูกระชับขึ้น
วิตามินบี 12 หรือ ไซยาโนโคบาลามิน ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงในไขกระดูก บำรุงระบบประสาทให้แข็งแรง และช่วยในการสมานแผล หากได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสม จะช่วยลดการอักเสบ ความแห้งกร้าน และการเกิดสิวได้
ที่มา : เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น