เทศกาลกินเจ สิ่งหนึ่งที่คนกินเจกังวลก็คือ เกือบทุกเมนูประกอบไปด้วยแป้ง แล้วแบบนี้จะอิ่มท้อง อิ่มบุญ ไปพร้อมๆ กับการมีสุขภาพที่ดีได้ไหมนะ? วันนี้เราจะพามาดูคำตอบกันค่ะว่า กินเจ แบบสุขภาพดีนั้นต้องทำอย่างไร? พร้อมแนะนำ 10 เมนูอาหารเจ แคลอรี่ต่ำ มาให้ไว้เป็นทางเลือกด้วย
คำแนะนำ กินเจอย่างไรให้สุขภาพดี? 10 เมนูอาหารเจ แคลอรี่ต่ำ
กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างหลากหลายชนิด เลือกกินข้าวเป็นอาหารหลักสลับกับอาหารประเภท แป้ง เช่น ขนมจีน เผือก มัน โดยเลือกข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือแทนข้าวขัดสี เพราะในข้าวกล้องจะมีวิตามินบี 1 และใยอาหารมากกว่าหลายเท่า กินผักและผลไม้เป็นประจำให้ได้วันละ 400 กรัม หรือ 3-5 ส่วนต่อวัน เลือกกินอาหารโปรตีนชนิดดีไขมันต่ำ และวิตามินจำเป็น ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรสหวานจัด เค็มจัด อาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ รวมถึงไม่กินอาหารที่ปนเปื้อน และไม่ดื่มแอลกอฮอล์
กินเจแบบสุขภาพดี ต้องทำอย่างไร?
- ต้องกินให้ครบ 5 หมู่ทุกมื้อ แหล่งโปรตีนให้ทดแทนด้วยพืช ซึ่งในเต้าหู้จะมีปริมาณโปรตีนสูง
- อาหารทานเล่นแนะนำเป็นขนมไทยที่ทำจากถั่ว เช่น ลูกชุบ เต้าส่วน ถั่วกวน ถั่วแปบ ถั่วเขียวในน้ำตาลทรายแดง น้ำเต้าหู้ เป็นต้น
- ใส่ใจความสะอาด ล้างผักผลไม้ด้วยน้ำเปล่า หรือล้างด้วยวิธีแช่น้ำส้มสายชู นาน 15 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าตาม เพื่อช่วยลดสารเคมีตกค้างหรือยาฆ่าแมลง
- การกินอาหารเจ คือ ไม่หวานจัด มันจัด เค็มจัด
- อ่านฉลากก่อนซื้อ เพราะเนื้อเทียม ที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ อดีตทำจากโปรตีนเกษตร สกัดจากถั่ว แต่บางบริษัททำจากแป้งล้วนๆ มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น แป้งสาลี และหลายประเภทใส่กลิ่น ใส่สี ใส่สารชูรส เพื่อให้เหมือนกับเนื้อสัตว์ให้มากที่สุด จึงค่อนข้างอันตรายสำหรับผู้รักสุขภาพ
- เด็กเล็ก วัยก่อนอนุบาล และวัยประถม เป็นวัยที่ต้องการสารอาหารและนมอย่างครบถ้วน เพื่อการเสริมสร้างพัฒนาการสมองและร่างกาย โดยเด็กในวัยนี้ไม่ควรงดนม
“ดังนั้น ผัก ผลไม้ และเต้าหู้ จึงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพมากกว่า”
10 เมนูอาหารเจ แคลอรี่ต่ำ
- ส้มตำเจ
- ต้มยำเห็ดเจ
- แกงส้มมะละกอเจ
- แกงจืดฟักเจ
- แกงเลียงเจ
- ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเจ
- แกงจืดผักกาดขาวเต้าหู้เจ
- ยำผักหวาน
- ยำวุ้นเส้นเจ
- ต้มจับฉ่าย
ทั้งหมดนี้ก็มาจากพื้นฐานการกินที่เราควรเลือกกินดีในทุกๆ วัน และทุกๆ มื้อ ไม่จำกัดแค่เฉพาะช่วงเทศกาลกินเจเท่านั้น นอกจากจะต้องกินดีแล้ว ต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงทำจิตใจให้แจ่มใส ผ่อนคลาย พยายามไม่เครียด ชีวิตเราก็จะมีพื้นฐานการมีสุขภาพที่ดีเพิ่มขึ้นทีละนิดทีละหน่อย ไม่ว่าจะปีไหนๆ คุณก็จะเป็นอีกหนึ่งคนที่มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงได้