ฟ้าทะลายโจร ยารักษาโควิด-19 วิธีกินฟ้าทะลายโจร โควิด-19

10 เรื่องที่ต้องรู้และเข้าใจ ก่อนหยิบ ฟ้าทะลายโจร มากินเพื่อรักษา/ป้องกัน โควิด-19

มาดูกันว่า ใครบ้างที่ควรกินยาฟ้าทะลายโจร และ ควรกินในปริมาณเท่าไหร่ แนะนำให้อ่านเพื่อทำความเข้าใจอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา

Home / HEALTH / 10 เรื่องที่ต้องรู้และเข้าใจ ก่อนหยิบ ฟ้าทะลายโจร มากินเพื่อรักษา/ป้องกัน โควิด-19

เมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 การวิจัยพบว่า สารแอนโดรกราไฟไลด์มีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด19 ในเซลล์เนื้อเยื่อ แต่ไม่ยับยั้งการเข้าเซลล์ ซึ่งจากข้อมูลวิจัยฟ้าทะลายโจร รักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทย พบว่ามีผลข้างเคียงน้อย และมีประโยชน์ในการรักษาผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ และผู้มีอาการน้อย (ยังไม่มีปอดอักเสบ) โดยระงับไม่ให้โรครุนแรงขึ้น หายจากการติดเชื้อโดยไม่ก่อให้เกิดปอดอักเสบ
โดย ฟ้าทะลายโจร มี 3 กลไกที่เกี่ยวข้องในการรักษาโควิด19 คือ
1 การยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส ไม่มีฤทธิ์ป้องกันการเข้าเซลล์หรือกำจัดไวรัส
2 ลดการอักเสบ ซึ่งมีผลในการลดไข้ ลดอาการหวัด ไอ เจ็บคอ
3 ปรับภูมิคุ้มกัน

มาดูกันว่า ใครบ้างที่ควรกินยาฟ้าทะลายโจร และ ควรกินในปริมาณเท่าไหร่ แนะนำให้อ่านเพื่อทำความเข้าใจอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา

1 ผู้ที่ได้รับการตรวจยืนยันว่ามีการติดเชื้อโควิด19 และไม่มีข้อห้ามในการใช้ฟ้าทะลายโจร ซึ่งประกอบไปด้วย3กลุ่มย่อยคือ
ผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่ไม่มีอาการ
ผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่มีอาการไม่รุนแรง คือไม่มีอาการปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ไม่มีโรคร่วมที่สำคัญ
ผู้ป่วยโควิด19 ทุกกรณีที่ยังต้องรอการเข้ารับการรักษา ในโรงพยาบาล

2 ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะติดเชื้อ สามารถกินได้เลยโดยไม่ต้องรอผลตรวจ

ขนาดยาที่ใช้ในการรักษาโควิด19 ให้ตรวจสอบว่าเป็น ยาฟ้าทะลายโจรที่ระบุปริมาณแอนโดรกราไฟไลด์เท่านั้น
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 50 กิโลกรัมขึ้นไปคือ ปริมาณการกินยาแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มก. /วัน แบ่งเป็น 3 มื้อ ก่อนอาหาร รับประทานติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน
สำหรับเด็กโต อาจพิจารณาใช้ขนาด 3-3.5 มก. / น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และแบ่งให้วันละ 3-4 ครั้ง
เด็กที่น้ำหนักตัวตั้งแต่ 50กก. ขึ้นไป ใช้ยาในขนาดของผู้ใหญ่
สำหรับเด็กเล็ก ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับขนาดการใช้ยาที่แนะนำ รวมทั้งยามีลักษณะเป็นแคปซูลที่บรรจุยาขมมาก เด็กเล็กจะกินได้ยาก
หญิงตั้งครรภ์ / อาจจะตั้งครรภ์ หรือหญิงที่กำลังให้นมบุตร ห้ามใช้ยาฟ้าทะลายโจร เพราะอาจทำให้เกิดการบีบตัวของมดลูกเป็นผลให้แห้งหรือคลอดก่อนกำหนดได้

3 กรณีที่ฉลากมีการระบุปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่ชัดเจน เช่น ระบุว่ามีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ 20 มก. / แคปซูล ให้กินครั้งละ 3แคปซูล วันละ3ครั้ง ก่อนอาหาร

4 กรณีที่ฉลากระบุปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ เป็นค่าไม่น้อยกว่า หรือ % เช่น ยาสารสกัดฟ้าทะลายโจร หรือ ยาผงบดฟ้าทะลายโจร ชนิดแคปซูล ซึ่งมีการระบุปริมาณ สารแอนโดรกราโฟไลต์ไม่น้อยกว่า 12 มล. / แคปซูล ให้กินครั้งละ 5แคลซูล วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร
หากระบุชนิดแคปซูล เป็น % เช่น สารแอนโดรกราโฟไลด์ ไม่น้อยกว่า 2% (สำหรับขนาด 400มก./แคปซูล เมื่อคำนวนเป็นปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์จะได้ไม่น้อยกว่า 8 มก./แคปซูล) ให้กินครั้งละ 8แคปซูล วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร

5 กรณีฉลากไม่ได้ระบุปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ ไม่แนะนำให้นำมาใช้ในกรณีรักษาโควิด19 แต่สามารถใช้ลดไข้ แก้เจ็บคอ บรรเทาอาการหวัด หรือแก้ท้องเสียชนิดไม่ติดเชื้อได้ โดยให้อ่านคำแนะนำการใช้ยาตามฉลากและเอกสารกำกับ

6 การใช้ยาฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์เพื่อการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสในเซลล์ แล้วร่างกายจะกำจัดเอง จึงจะได้ผลดีขึ้นเมื่อให้ยาเร็วที่สุด ในขณะที่เป็นการติดเชื้อระยะต้นและเชื้อยังน้อย (คือหลังจากรับเชื้อไม่เกิน 72 ชั่วโมง) ร่วมกับ การพักผ่อนและดูแลสุขภาพให้ดีควบคู่

7 ไม่ใช้ในการป้องกันการติดเชื้อ เพราะยานี้ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด19 ได้

8 ฟ้าทะลายโจร ถือเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูง ประเทศไทยผลิตเองได้ ราคาไม่แพง และข้อมูลเบื้องต้นแสดงว่ามีประโยชน์มาก ขณะนี้ถือเป็นยาที่ใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยมีข้อมูลเบื้องต้นในระดับที่ให้ความเชื่อมั่นได้พอควร

9 กรณีที่ใช้ฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาอาการหวัด ไอ เจ็บคอ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัส ให้ใช้ขนาดยาที่น้อยกว่าที่แนะนำสำหรับกรณียับยั้ง ห้ามใช้ในปริมาณเท่ากัน

10 ข้อควรระวัง ในการใช้ยาร่วมกับ ยากันเลือดเป็นลิ่ม และยาต้านการจับตัวของเกร็ดเลือด เช่น ยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันเลือด เพราะอาจไปเสริมฤทธิ์กันให้มากขึ้นได้

ข้อมูลสำคัญ “หากใช้ในขนาดสูงหรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่าที่แนะนำ อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง และผลข้างเคียงอื่นๆได้”

อ้างอิงข้อมูลจาก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข