สำหรับผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด19 แล้วมีอาการข้างเคียง มักเป็นสัญญาณที่แสดงว่าร่างกายของเรากำลังถูกวัคซีนกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกัน จึงเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปและสามารถหายได้เองในระยะเวลา 1-2 วันหลังมีอาการ แต่ทั้งนี้ในบางรายก็อาจไม่มีอาการก็เป็นได้ ดังนั้นมาดูวิธีการดูแลตัวเอง เมื่อมีไข้หรือในบางรายพบมี ไข้สูงหลังฉีดวัคซีนโควิด19 ว่าควรปฎิบัติอย่างไรเพื่อให้อาการทุเลาลงด้วยตนเอง
อาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนที่พบได้บ่อยและไม่อันตราย ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล สามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้ มีดังนี้
ไข้ ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย ปวดบวมบริเวณที่ฉีดวัคซีน
วิธีการดูแลตัวเองคือ พักผ่อนให้มากขึ้นกว่าเดิม ดื่มน้ำให้มาก งดรับประทานอาหารที่ปรุงไม่สุกเพราะอาจทำให้ท้องเสียได้อีก และงดการออกแรงหนักๆ ยกของหนักๆในแขนข้างที่เพิ่งฉีดวัคซีนมา
- หากมีไข้ ให้รับประทานพาราเซตามอล 500 มก. ครั้งละ 1 เม็ด ห่างกันทุก 4-6 ชั่วโมง ห้ามรับประทานยากลุ่ม Brufen, Arcoxia และ Celebrex โดยเด็ดขาด
- หากไข้ขึ้นสูง หรือรับประทานยาพาราแล้วไข้ไม่ลด ให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุณภูมิห้อง โดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำให้หมาดๆ แล้วนำมาเช็ดโดยออกแรงเช็ดให้แรงหน่อยและเช็ดย้อนรูขุมขน เพื่อระบายความร้อนในร่างกาย (หากมีไข้สูงมาก แนะนำให้เช็ดตัวทุกๆ 1 ชั่วโมงเพื่อลดไข้)
- อาจใช้แผ่นเจลลดไข้หรือเจลเย็น แปะบริเวณหน้าฝากร่วมด้วย หรือหากไม่มีให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ วางไว้ที่หน้าผาก เพื่อช่วยระบายความร้อน
- ทั้งนี้ หากอาการไข้สูงไม่ดีขึ้นหลังจากเป็นมาแล้วเกิน 2 วัน หรือมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่นหายใจติดขัด เจ็บหน้าอก หรือมีอาการชา ควรรีบไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจเช็คอาการเพิ่มเติม
อาการแบบไหนที่ควรไปโรงพยาบาล
– มีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง
– หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก
– มีจุดเลือดออกจำนวนมาก
– ผื่นขึ้นทั้งตัว ผื่นลมพิษ
– อาเจียนไม่หยุด
– ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง
– ชัก หมดสติ