Suzuki ประเทศญี่ปุ่น เผยโฉม 2020 Suzuki Hustler ครอสโอเวอร์ไซส์มินิเจนเนอเรชั่นที่ 2 ยกระดับความสนุกในการขับขี่และความทันสมัยในทุกด้าน ด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่, เพิ่มเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย และสไตล์ใหม่ของคนชอบผจญภัย พร้อมขุมพลังไฮบริดที่ถูกพัฒนาเพื่อคนชอบเที่ยวเป็นพิเศษ
เริ่มจากภายนอกนั้นได้มีการปรับโฉมใหม่ให้มีบุคลิกที่เหมือนรถอเนกประสงค์สายลุย แต่ให้ความทันสมัยขับขี่ในเมืองได้ทุกวันเช่นเคย โดยการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดมากที่สุดก็คือส่วนหน้าด้วยกระจังหน้าทรงใหม่, กันชนหน้าพร้อมขอบชายล่างปรับดีไซน์ใหม่
ทีเด็ดยิ่งกว่าก็คือการเพิ่มกระจกในบริเวณเสา C เพิ่มทัศนวิสัยและความโปร่งยิ่งขึ้น และปรับการลงสีหลังคาสีทูโทนแบบใหม่ที่ให้อารมณ์เหมือนเสริมหลังคาส่วนท้ายในรถออฟโรด พร้อมสีตัวถังที่มีให้เลือกมากถึง 11 เฉดสี ครอบคลุมทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน
สำหรับภายในนั้นมีการปรับดีไซน์ใหม่ที่ต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดทั้งการปรับเรือนไมล์แบบใหม่พร้อมจอแสดงข้อมูลแบบ LCD จอสี ขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมภาพกราฟิกที่ออกแบบให้อ่านชัดเจนในทุกสภาพการขับขี่
จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมระบบนำทางดาวเทียมที่มีให้เลือกทั้งแบบ GPS, ระบบดาวเทียม Quasi-Zenith และ GLONASS ควบคู่กับการปรับปรุงพิกัดตำแหน่งรถยนต์ให้แม่นยำกว่าเดิม ตัวจออินโฟเทนเมนต์รองรับกล้องมองรอบคัน 360 องศา นอกจากนี้ยังรองรับ SDL (Smart Device Link) และฟังก์ชั่นแสดงข้อมูลรถยนต์
และช่องเก็บของอเนกประสง 2 แบบ (ตามเกรดย่อย) ที่คั่นด้วยขอบวงรี พร้อมกับปรับในส่วนของเฟรมที่คอนโซลหน้าใหม่เพิ่มความแข็งแรง ช่องแอร์แนวตั้ง 4 ช่อง และซ่องแอร์เล็กๆ ซ้าย-ขวา รวม 6 ช่อง และยังได้มีการเล่นสีให้โดดเด่น เช่น ขอบวงรี 3 ห่วง ขอบราวแผงประตู และสีเบาะนั่งจะได้รับการตกแต่งให้ตัดกับสีภายในที่เป็นสีดำล้วน โดยมีให้เลือกทั้งสีส้ม Vermilion Orange, สีฟ้า Denim Blue และสีขาว Grayish White
ด้านเบาะนั่งก็มีการปรับดีไซน์ลวดลายใหม่ ส่วนคอนโซลกลางเบาะคู่น่าจะเว้นว่างไว้สำหรับใส่ของอเนกประสงค์ และทำให้ช่วงไหล่มีอิสระในการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับช่องเก็บของอเนกประสงค์หลายจุด, ช่องเก็บของและโต๊ะอเนกประสงค์หลังเบาะหน้า, เบาะด้านหลังที่สามารถพับได้เรียบกว่าเดิม พร้อมช่องเก็บของใต้แผ่นปูพื้นรองห้องสัมภาระท้าย
มิติตัวถังของ Suzuki Hustler โฉมใหม่ จะมีความยาว x กว้าง x สูง อยู่ที่ 3,395 x 1,475 x 1,680 มม. ส่วนระยะฐานล้อจะอยู่ที่ 2,460 มม. ส่งผลทำให้พื้นที่ภายในมีความกว้างมากขึ้น รวมถึงความสูงใต้ท้องรถสูงถึง 180 มม. มีมุมไต่ 29 องศา และมุมจาก 50 องศา
ขุมพลังของ Suzuki Hustler จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 0.66 ลิตร DOHC รหัส “R06D” รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีการแตกแขนงออกเป็น 2 รูปแบบ โดยแบบมาตรฐานจะให้สมรรถนะ 49 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 58 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที รุ่นเสริมระบบเทอร์โบ จะให้สมรรถนะ 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 98 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที
ซึ่งในทุกรุ่นย่อยจะใช้ระบบส่งกำลังจากเกียร์ CVT พร้อมระบบไฮบริดแบบ Mild Hybrid มาเสริมสมรรถนะใหม่ให้ประหยัดน้ำมัน ลดไอเสียน้อยลง และสนับนุนการเค้นสมรรถนะได้ดียิ่งขึ้น
ตัวรถได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม HEARTECT ใหม่ล่าสุด ที่ให้น้ำหนักเบา กว้างขวาง จุดศูนย์ถ่วงที่เหมาะสม ผสานด้วยโครงสร้างแบบวงแหวนที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง นอกจากนี้ยังได้เสริมระบบดูดซับแรงกระแทกและการซีลวัสดุดูดซับเสียงเพื่อลดเสียงรบกวนในระหว่างการขับขี่ 6% ในที่นั่งด้านหน้า กับ 5% ในที่นั่งด้านหลังในระหว่างที่ตัวรถใช้ความเร็วมากถึง 100 กม./ชม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ฟีเจอร์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ 4WD ที่มาพร้อมกับ “Snow Mode” ในการควบคุมแรงบิดของล้อทั้ง 4 ผสานด้วยการควบคุมเครื่องยนต์และระบบเบรกโโยอัตโนมัติเพื่อลดการลื่นไถลมากขึ้น รองรับการขับขี่ทั้งบนถนนที่คุมด้วยหิมะ ถนนเปียกฝน หรือแม้แต่ถนนที่จับเป็นน้ำแข็ง
รวมไปถึงยังมีโหมด Grip control สำหรับควบคุมล้อหรือเบรกที่ไม่ได้ใช้งานในกรณีที่ล้อตกหลุมบ่อ, Hill descent control ระบบช่วยควบคุมการชะลอลงเนินหรือชะลอลงทางลาด และ Power mode ที่ช่วยเค้นแรงบิดชั่วขณะ
ระบบความปลอดภัยใน Suzuki Hustler นั้นจะมาพร้อมกับโครงสร้างตัวถัง TECH ที่มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม, ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด, ระบบควบคุมการทรงตัว ESP, Suzuki Safety Support เป็นต้น เป็นออพชั่นมาตรฐาน
แต่ในเกรดบนๆ ถึงเกรดท็อป จะได้รับฟีเจอร์ใหม่มาเสริมทัพหลายรายการ อาทิ ระบบกล้องช่วยเบรก ที่เพิ่มระบบตรวจจับวัตถุในเวลากลางคืน และตรวจจับสัญลักษณ์ป้ายจราจรหากพบความเสี่ยงหรือสัญลักษณ์เตือนจะทำการชะลอความเร็วหรือเบรกโดยอัตโนมัติ รวมถึงระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) และระบบควบคุมตัวรถให้อยู่ในช่องเลน
Suzuki Hustler จะมี 4 สไตล์ให้เลือก ได้แก่ Tough, Natural, Pop, Stylish ควบคู่กับแพ็คเกจพิเศษอย่าง Car Tarp ที่เนรมิตรให้กลายเป็นเต็นท์ ด้วยหลังคาผ้าใบคลุมประตูท้ายรถ กับแพ็คเกจ Cycle Career สำหรับบรรทุกจักรยาน เป็นต้น
ราคาจำหน่ายของ 2020 Suzuki Hustler จะอยู่ระหว่าง 1,365,100 ถึง 1,746,800 เยน หรือราวๆ 3.74 – 4.79 แสนบาท (ยังไม่รวมภาษี) นอกจากนี้ยังมีราคาแพ็คเกจพิเศษสำหรับติดตั้งเพิ่มเติม อย่างแพ็คเกจกล้อง 360 องศา ราคา 52,800 เยน (1.4 หมื่นกว่าบาท) กับระบบนำทางพร้อมระบบบันทึกข้อมูลกับจอรอบทิศทางราคา 184,800 เยน (5 หมื่นกว่าบาท) โดยตัวรถจะวางจำหน่ายเต็มรูปแบบในวันที่ 20 มกราคม 2563 เป็นต้นไป