มีชุมชนกลุ่มน้อยที่มักจะชอบคิดว่าสามารถใช้ ใบขับขี่ รถยนต์ และใบขับขี่รถจักรยานยนต์แทนกันได้ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า ถ้าเจอด่านตำรวจและทางเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบใบขับขี่ขึ้นมาล่ะก็ งานงอกแน่นอน
ซึ่งการทำใบขับขี่นั้น กรมขนส่งทางบก จะเป็นผู้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าใบอนุญาตขับขี่ส่วนบุคคลหรือรถจักรยานยนต์ ถึงแม้จะมีขั้นตอนการขอที่คล้ายคลึงกัน แต่วิธีในการสอบปฏิบัติจะไม่เหมือนกัน ถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกและเขียนใบสั่งให้ก็ถือว่าไม่ผิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง เพราะเนื่องจากใบขับขี่แต่ละประเภท ไม่สามารถใช้แทนกันได้ นั้นแสดงว่าผู้ขับขี่มีความผิดเต็มๆ ซึ่งทางกรมขนส่งทางบกก็ได้แบ่งประเภทของใบขับขี่ไว้อย่างชัดเจน
ประเภทของใบขับขี่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามลักษณะของการใช้งาน ซึ่งก็มีความแตกต่างกัน
- ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคล คือ การอนุญาตให้สามารถขับขี่เพื่อขนส่งส่วนบุคคล หรือใช้สำหรับโดยสารส่วนตัว โดยสามารถขับขี่ขนส่งเพื่อการค้าหรือธุรกิจส่วนตัวได้ แต่ต้องจำกัดน้ำหนักในการขนส่งอยู่ที่ 1,600 กิโลกรัม และต้องใช้สำหรับการขนส่งที่ไม่ใช่การรับจ้าง
- ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภททุกประเภท คือ ใบอนุญาตประเภทที่สามารถขับขี่เพื่อการขนส่งได้ทุกประเภท ทั้งใช้สำหรับการขับขี่ขนส่งเพื่อการค้า หรือธุรกิจส่วนตัว และสามารถใช้ขนส่งเพื่อรับจ้าง หรือประกอบธุรกิจการขนส่งได้ เช่น การขนส่งคน การขนส่งสิ่งของ เป็นต้น
ชนิดของใบขับขี่ตามกฎหมาย เราจะเห็นได้ว่าใบขับขี่ที่มีการนำมาใช้งานในปัจจุบันจะถูกแบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆ ทั้งหมด 11 ประเภทด้วยกัน ดังนั้นแล้ว…เมื่อเราเห็นว่ามีการแบ่งประเภทอย่างชัดเจนขนาดนี้ ใบขับขี่รถยนต์ไม่สามารถใช้แทนกับรถจักรยานยนต์ได้ ถ้ายังใช้แทนกันอยู่มีสิทธิโดนข้อหาใช้ใบขับขี่ผิดประเภทได้นะจ๊ะ