ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เผยถึงความคืบหน้าของการพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์อย่างโปรเจค Triumph TE-1 ซึ่งในเวลานี้ได้ผ่านการทดสอบเฟสที่ 3 เสร็จสมบูรณ์ พร้อมเผยโฉมโปรโตไทป์ตัวสาธิตอย่างเป็นทางการ
ด้วยความร่วมมือสุดพิเศษระหว่างไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์, บริษัท Williams Advanced Engineering, บริษัท Integral Powertrain และศูนย์ WMG มหาวิทยาลัยวอร์ริคซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) ผ่าน Innovate UK โดยความร่วมมืออันยอดเยี่ยมนี้เพื่อมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีวิศวกรรมจักรยานยนต์ไฟฟ้าเฉพาะทาง และการออกแบบทางเทคโนโลยีที่มีการบูรณาการเชิงนวัตกรรม
ความสำเร็จหลักของโปรเจคในเฟสนี้ ได้แก่ ผลการทดสอบที่เหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐานในปัจจุบัน รวมไปถึงเกณฑ์ที่ UK Automotive Council กำหนดไว้สำหรับปี 2025 ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าโปรโตไทป์นี้เป็นแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพสูงสำหรับการพัฒนาสมรรถนะรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
Triumph TE-1 Prototype
สำหรับมอเตอร์ไซค์โปรโตไทป์ตัวสาธิตนั้นได้ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจาก Triumph Speed Triple หรือเจ้าตั๊กแตนที่ครบครันไปด้วยฟีเจอร์มาตรฐานอย่างไฟหน้า ไฟ Daylight และไฟท้าย LED, เรือนไมล์จอดิจิทัล, เบาะนั่งตอนเดียว
แต่ตัวรถจะมีการออกแบบเฟรมใหม่ พร้อมระบบส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยสายพาน Gates Carbon ระบบอิเล็กทรอนิกส์ หางท้ายที่สั้น พร้อมสวิงอาร์มแบบขาเดี่ยวสไตล์ซูเปอร์ไบค์ รวมถึงช่องชาร์จที่จะอยู่ใต้ฝาครอบถังน้ำมันสุดล้ำสมัย
ในส่วนของมอเตอร์มีกำลังสูงสุดและความหนาแน่นของพลังงานแบบต่อเนื่องอยู่ที่ 13 kW/kg และ 9 kW/kg ตามลำดับ ซึ่งค่าที่ได้นั้นสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่เป็นข้อกำหนดของเป้าหมายโรดแมปเทคโนโลยีใหม่ของ APC ประจำปี 2025 ถึง 60%
แนวคิดของอินเวอร์เตอร์ก็สามารถปรับสเกลได้เช่นเดียวกัน โดยการปรับจูนจำนวนระดับพลังงานซิลิคอนคาร์ไบด์ตามขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมอเตอร์ที่แตกต่างกันช่วยให้สมรรถนะการทำงานที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง จึงทำให้ TE-1 มีขีดความสามารถมากกว่า 500kW และสามารถรองรับการผลิตเพื่อจัดจำหน่ายได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมาพร้อมโช้คอัพหัวกลับ USD และโมโนโช้คล้อหลังจาก Öhlins ทั้งชุด รวมถึงชุดคาลิเปอร์เบรกจาก Brembo M50 และซอฟต์แวร์ควบคุมจากไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์
การเริ่มดำเนินการความร่วมมือของโปรเจคเฟสที่ 4
หลังจากที่โปรโตไทป์ตัวสาธิตนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว การทดสอบการใช้งานจริงของโปรเจค TE-1 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในเฟสที่ 4 ก็สามารถเริ่มดำเนินการได้ โดยอยู่ในภายในกรอบระยะเวลา 6 เดือนหลังจากนี้ โปรโตไทป์ตัวสาธิตจะเข้าสู่โปรแกรมการทดสอบการใช้งานจริงอย่างละเอียดภายในสถานที่ทดสอบสุดล้ำสมัยของไทรอัมพ์
ซึ่งประกอบด้วย
การทดสอบบนเครื่องจำลองการวิ่งบนถนน ซึ่งมีเกณฑ์การประเมินในคุณลักษณะหลัก ดังนี้
- การปรับเทียบคันเร่ง
- การแมปสมรรถนะของระบบส่งกำลัง
- กำลังและแรงบิดที่ได้
- ระยะทางที่วิ่งได้ และการใช้งานแบตเตอรี่
- การพัฒนาโหมดการขับขี่
- การตรวจสอบการทำงานของซอฟต์แวร์
- การปรับแต่งค่าความร้อนให้เหมาะสม
การทดสอบในสนามแข่ง เกณฑ์การประเมินในด้านไดนามิกของผู้ขี่ที่ครอบคลุม ได้แก่
- การบังคับรถ
- การเร่งความเร็ว
- ระบบเบรก และการชาร์จไฟขณะเบรก (Braking regeneration strategy)
- ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน
- ระบบควบคุมการยกล้อหน้า
โปรแกรมการทดสอบได้รับการออกแบบมาเพื่อกำหนดแนวทางการตั้งค่า และการปรับเทียบครั้งสุดท้ายสำหรับโปรโตไทป์ตัวสาธิต
หลังจากผ่านขั้นตอนการทดสอบใช้งานจริง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ช่วงฤดูร้อนปี 2022 ตัวโปรโตไทป์จะได้รับการอัพเดตขั้นสุดท้ายโดยการเพิ่มแผนปิดตัวถัง และทำสี เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขี่ทดสอบในสนามแข่ง รวมถึงเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เข้าชมการทดสอบนี้
โดยจะมีการเผยแพร่ผลงานทั้งหมดของโครงการ และสเปคสุดท้าย รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึก และข้อเท็จจริงที่สำคัญเกี่ยวกับวิธีการที่โปรเจค TE-1 และเสริมด้วยการเปิดโอกาสให้เหล่าสื่อมวลชนได้พูดคุยกับทีมงาน ชมการทดสอบจริงของโปรโตไทป์ในสนามแข่ง และฟังความคิดเห็นจากนักขี่ที่ได้ทำการทดสอบ
วัตถุประสงค์โดยรวมของโปรเจค TE-1 คือการมุ่งไปที่การพัฒนาขีดความสามารถของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อที่ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์จะได้นำไปเป็นข้อมูลต่อยอดในการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการผลักดันด้านนวัตกรรม ขีดความสามารถ และก่อให้เกิดทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ ๆ รวมถึงเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมและการออกแบบสัญชาติอังกฤษ
โดย Triumph TE-1 จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม และเตรียมวางจำหน่ายจริงในเร็ว ๆ นี้
เครดิตข้อมูลจาก Official Triumph Motorcycles