Camper Van หรือรถสายตั้งแค้มป์ใกล้ชิดธรรมชาติที่หลาย ๆ คนรู้จัก จะเป็นรถ MPV หรือรถตู้ที่มีพื้นที่กว้างขวาง รองรับผู้โดยสาร บรรทุกอุปกรณ์ได้มากมาย และสามารถพับเบาะได้เรียบเพื่อทำเป็นห้องนั่งเล่น หรือห้องนอนส่วนตัว ประกอบกับสามารถดัดแปลงให้รองรับสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เพิ่มเต็นท์บนหลังคา มีห้องทำงานส่วนตัว เสมือนนำบ้านส่วนตัวนำออกเดินทาง
แต่ในบรรดารถสายแค้มป์ปิ้งอีกรุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เปี่ยมไปด้วยความน่ารัก และฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ๆ และน่าสนใจ เห็นจะเป็นสายของ Japanese Camper Van ซึ่งมักจะใช้พื้นฐานจากรถยนต์ขนาดเล็กแต่ได้รับการออกแบบให้มีห้องโดยสารขนาดใหญ่จนสามารถเข้าไปนอนพักได้ ฟังก์ชั่นครบครัน ดีไซน์สวยสะดุดตาจนอยากจะต้องมีครอบครองไว้สักคัน แม่ว่ารถประเภทนี้จะไม่สามารถหาซื้อมาขับได้ง่าย ๆ ถ้าไม่ใช่คนที่อาศัยในประเทศญี่ปุ่น มีทีเด็ดอะไรที่ต่างจากคันอื่น ๆ ไปทำความรู้จักกัน
…
Kei Car รถเล็กพริกขี้หนู
Japanese Camper Van จำนวนไม่น้อยจะใช้พื้นฐานจากรถ Kei Car หรือ keijidōsha (軽自動車) ซึ่งเป็นรถที่ถูกพัฒนาให้รองรับข้อกำหนดทางกฎหมายของญี่ปุ่น ทั้งกฎหมายจราจร กฎหมายอาคาร สภาพเส้นทางจราจร รวมถึงข้อกำหนดภาษีและเบี้ยประกันภัย หากใช้งานในญี่ปุ่น ในปัจจุบันได้ถูกกำหนดคุณสมบัติดังนี้
- ความยาวไม่เกิน 3,400 ม.ม.
- กว้างไม่เกิน 1,480 ม.ม.
- สูงไม่เกิน 2,000 ม.ม.
- ความจุเครื่องยนต์ไม่เกิน 660 ซีซี. ให้กำลังสูงสุดไม่เกิน 64 แรงม้า (PS)
- รองรับผู้โดยสารสูงสุด 4 คน
- น้ำหนักบรรทุกรับได้สูงสุดไม่เกิน 350 กก.
ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัด ส่งผลให้เจ้าของรถเสียภาษีซื้อรถ ภาษีน้ำหนัก ภาษีประจำปี ภาษีน้ำมัน ภาษีสิ่งแวดล้อม และเบี้ยประกันที่ถูกกว่ารถยนต์พิกัด 1.5 ลิตร
แถมมีราคาค่าตัวรถถูก ขับขี่คล่องตัว ไม่กินพื้นที่ที่จอดรถอันเนื่องมาจากเจ้าของรถจะต้องมีพื้นที่จอดรถก่อนจึงจะซื้อรถได้ ต่างจากบ้านเราที่นิยมจอดข้างทาง และสามารถประยุกต์ตัวถังได้หลากหลายตั้งแต่รถสปอร์ตจนถึงรถตู้ จึงทำให้รถประเภทนี้ตอบโจทย์สำหรับลูกค้าที่มีพื้นที่ที่อยู่อาศัยจำกัด รายได้เฉลี่ยไม่สูง ใช้งานได้หลากหลาย ไปได้ทุกที่ และเหมาะกับการเป็นรถยนต์คันแรก และใช้งานอเนกประสงค์ทั่วไป เหมือนคล้ายกับรถยนต์อีโค่คาร์ในไทย
จากความนิยมในตัวของรถเคคาร์ได้ จึงส่งผลให้ค่ายรถหลาย ๆ ยี่ห้อ ผลิตรถรุ่นต่าง ๆ ที่มีความเป็น Kei Car เหล่านี้ออกมา และดัดแปลงมันให้ใช้งานได้หลากหลาย และหนึ่งในนั้นคือ การปรับปรุงให้มันเป็น Camper Van
…
Japanese Camper Van ที่น่าสนใจ
เมื่อความเล็ก กระทัดรัดของความเป็นเคคาร์ ถูกนำมาดัดแปลงใช้งานเป็น Camper Van สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความน่ารักของหน้าตา ที่เรียกว่า “คาวาอี้” กันอย่างที่สุด ซึ่งมีหลายรุ่นที่มีการปรับปรุงเป็นแคมเปอร์แวนน่ารัก ๆ อย่างมาก
…
Daihatsu Atrai
หนึ่งในเคคาร์ทรงกล่องที่นิยมคัสตอมเป็น Camper Van ซึ่งในโฉมใหม่ นอกจากจะมาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ เทคโนโลยีใหม่แล้ว ยังได้รับการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวาง กันน้ำ และพับเบาะเพื่อมอบพื้นที่ลึกสุด 1,410 มม. รวมถึงมีตัวเลือกรุ่นกระบะท้ายแม้จะมีพื้นที่ไม่กว้างเท่ากระบะ แต่สามารถเป็นได้ทั้งพื้นที่บรรทุกอุปกรณ์ Outdoor หรือแม้แต่พื้นที่ม้านั่งกลางแจ้งได้ในหนึ่งเดียว
ราคาเริ่มต้น 1,562,000 เยน*
…
Honda N-VAN COMPO
รถเคคาร์แบบประตูสไลด์จาก Honda ที่ครองใจทั้งชาวญี่ปุ่น และชาวไทยไม่น้อย ด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย น่ารัก และคุ้นเคยในฐานะรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่กำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1999 แต่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์สุดอเนกประสงค์ โดยเฉพาะออพชั่นพับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจนสามารถขยายเป็นพื้นที่สำหรับนอนยืดได้เต็มที่ และด้วยความสูง 1,365 มม. ที่สามารถบรรทุกได้แม้แต่มอเตอร์ไซค์ได้สบาย ๆ
ซึ่งเจ้า Honda N-Van Compo รุ่นนี้ เป็นรุ่นดัดแปลงจาก Honda N-Van เดิม และจัดเต็มสำหรับการเป็น Camper Van อย่างเต็มที่
ส่วนราคา ค่าตัวสำหรับ Honda N-Van Compo เริ่มต้น2,234,100 เยน*
…
Suzuki Hustlers
อีกหนึ่งเคคาร์จากซูซูกิที่นิยมทำเป็น Camper Van ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูน่ารักร่วมสมัย ตัวถังยกสูงเสริมซุ้มล้อสไตล์อสยูวีสายลุย สี่ที่นั่งกว้างขวาง ช่องเก็บของเยอะจุใจ และยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ Mild Hybrid เสริมเทอร์โบ ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 22.6 กม./ลิตร ซึ่งรถรุ่นนี้ก็มีการนำเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วยในฐานะเกรย์มาร์เก็ต สนนราคาเริ่มต้นที่ 1.1 ล้านบาท
ซึ่งตัวของ Suzuki Hustlers เป็นรถบนพื้นฐานของเคคาร์ของญี่ปุ่น ถูกค่ายแต่งรถ T-Style ของญี่ปุ่น นำมาดัดแปลงให้เป็น Camper Van ที่เต็มไปด้วยฟังชั่นการใช้งานแบบจัดเต็ม เรียกว่า ทั้งน่ารัก และใช้งานได้จริง
โดยมีการปรับตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก โดยการนำด้านหน้าของ Suzuki Jimmy มาประกอบใส่เข้าไป ทำให้มีกลิ่นของความเป็น off road มากขึ้น ดูดุดันมากขึ้น และนำฟังชั่นการใช้งานของแคมเปอร์แวนเข้ามาใส่ Rooftop Tent ปรับพื้นที่ด้านในมีช่องเก็บของต่าง ๆ เพิ่มเติม
…
นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้นสำหรับรถที่นิยมทำเป็น Japanese Camper Van ซึ่งยังมีรถเคคาร์อีกหลายรุ่น หลายค่ายนิยมมาทำเป็นรถสำหรับแคมป์ปิ้งตามความนิยมของตลาด และการออกชุดแต่งที่เอาใจลูกค้าหลากหลาย ภายใต้กรอบและข้อจำกัดมากมายที่ลูกค้าและผู้ใช้รถต้องปฏิบัติตาม จึงทำให้ Japanese Camper Van มีเสน่ห์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือน Camper Van ในแบบสากลที่คุ้นอย่างรถตู้ใหญ่ ๆ รถบ้านขนาดใหญ่ หรือแม้แต่รถบ้านพ่วงที่เคยเห็นตามหนังฝรั่งนั่นเอง
…
แม้จะดังในญี่ปุ่น แต่ทำไมเมืองไทยกลับเงียบ
เนื่องจาก Japanese Camper Van จะใช้พื้นฐานจากรถยนต์เคคาร์เครื่องยนต์ 660 ซีซี ที่มีกำลังต่ำกว่าทำให้คนไทยหลายคนรู้สึกว่า “ซีซีมันน้อยเกินไป” เหมาะกับการวิ่งในระยะทางไม่ไกลมากนัก รวมถึงปัจจัยด้านความปลอดภัย ซึ่งโครงสร้างตัวถัง หรือแม้แต่ออพชั่นความปลอดภัยที่เทียบเท่ามินิคาร์ เมื่อต้องมาวิ่งบนถนนเมืองไทย ก็ทำให้หลายคนมีความกังวลกับเรื่องของอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เรื่องของ “ภาษีนำเข้า” ที่ต้องนำเข้ามาทั้งคันและมีอัตราภาษีที่ค่อนข้างสูง กลายเป็นว่า ท้ายที่สุดแล้ว ราคารถก็แพงมากกว่าการซื้อรถอีโคคาร์ราคาถูกค่อนข้างมากจึงกลายเป็นข้อจำกัดหลัก
และเมื่อรถในกลุ่มของเคคาร์เหล่านี้ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมจึงทำให้การหาอู่หรือค่ายที่จะดัดแปลง-ปรับแต่งให้เป็น Camper Van นั้นน้อยลงไปอีกนั่นเอง ทำให้แคมเปอร์แวนในไทย จึงมักจะไปอยู่ที่ค่ายรถอื่น ๆ ในกลุ่มรถตู้ขนาดใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Toyota Hi-ace, Toyota commuter, Mitsubishi L300 หรือ Volkswagen T3 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น จากการที่สามารถยกสูง เครื่องยนต์มีกำลังที่สูงกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม รถกล่องอย่าง Kei Car ของญี่ปุ่น มันน่ารักจริง ๆ นะ
ข้อมูล : japancampers.com , honda.co.jp, daihatsu.co.jp, suzuki.co.jp, japan-crc.com, Whitehousecamper.com, t-style08.com
