สิ้นสุดการรอคอย บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว All-New Suzuki Hayabusa ซูเปอร์สปอร์ตไบค์ระดับ Flagship เจนเนอเรชั่นที่ 3 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมจุดไฟแห่งความเร้าใจ ด้วยที่สุดทั้งสมรรถนะและเทคโนโลยีใหม่รอบด้าน ทรงพลัง ควบคุมแม่นยำ และไอเสียที่น้อยลงกว่าเดิม
Suzuki Hayabusa เจนเนอเรชั่นที่ 3 นี้ ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Ultimate Sport” ที่ได้รับการยกระดับด้านการดีไซน์ และการบรรจุเทคโนโลยีการขับขี่สมัยใหม่ ที่จะให้ทั้งสมรรถนะที่สูงขึ้น ควบคุมได้ดียิ่งขึ้นในทุกย่านความเร็ว และมาตรฐานไอเสียระดับ Euro5
Hayabusa เจนเนอเรชั่นที่ 3 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 4 จังหวะ 1,340 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ได้รับการปรับปรุงแรงม้าและแรงบิดให้สูงขึ้นในรอบความเร็วต่ำถึงปานกลาง โดยใช้คันเร่งที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเปลี่ยนกลไกไอดีและไอเสียใหม่
มอบสมรรถนะสูงสุด 187 แรงม้า (bhp) ที่ 9,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที และสามารถทำความเร็วได้สูงกว่า 300 กม./ชม. โดยที่ยังมาพร้อมกับอัตราสิ้นเปลืองที่ 14.9 กม. / ลิตร (ตามมาตรฐานการทดสอบจาก WMTC) ปล่อยไอเสียต่ำผ่านมาตรฐาน Euro5
เทคโนโลยี S.I.R.S (Suzuki Intelligent Ride System) กับ SDMS-α (Suzuki Drive Mode Selector Alpha) เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของ Suzuki Hayabusa เจนเนอเรชั่นที่ 3 ที่จะช่วยตั้งค่าระบบอัจฉริยะให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะขับขี่ในเมือง นอกเมือง และในสนามแข่ง โดยจะประกอบด้วยเทคโนโลยีอัจฉรริยะ 5 รายการ ได้แก่
- Power Mode Select: มาพร้อม 3 โหมดมาตรฐาน ตอบโจทย์การขับขี่ในสนามแข่ง ขับขี่บนท้องถนนปกติ และช่วยขับขี่บนถนนที่เปียกลื่น
- Motion Track Traction Control System: ผสานกับกล่อง IMU เพื่อช่วยยึดเกาะถนนตามองศาการเอียงของตัวรถ โดยผู้ขับขี่สามารถปรับเลือกได้ 10 ระดับ
- Anti-lift Control system: ระบบป้องกันล้อหน้ายกที่สามารถปรับได้สูงสุดถึง 10 ระดับ
- Bi-directional Quick Shift System: ตั้งค่าการทำงานของระบบเครื่องยนต์ที่สามารถปรับได้ 2 ทิศทาง เมื่อกดลงจะช่วยเค้นสมรรถนะที่สูงขึ้นตอบสนองการขับขี่สไตล์สปอร์ต และงัดขึ้นเพื่อควบคุมการทำงานเครื่องยนต์ให้ขับขี่ได้สมูท
- Engine Brake Control system: ระบบที่ช่วยในการตัดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรกได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกได้ 3 ระดับ
นอกจากนี้ยังมีโหมดที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมมากถึง 3 โหมด (U1, U2, U3) โดยสามารถตั้งค่าผ่านสวิตซ์บนแฮนด์ และแสดงผลโหมดผ่านจอ TFT ความละเอียดสูงรุ่นใหม่ล่าสุด
รวมถึงระบบช่วยควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน Hill Hold Control, Active Speed Limiter, Cruise Control, Motion Track Brake System
ด้วยสไตล์ที่โดดเด่นของ Suzuki Hayabusa เจนเนอเรชั่นที่ 3 ได้รับการปรับดีไซน์แฟริ่งใหม่ภายใต้รูปแบบ “The Refined Beast” ที่ให้ความสปอร์ตเพียว และให้ค่าสัมประสิทธิ์ต้านทานอากาศที่ดีที่สุดสำหรับบิ๊กไบค์ ดุจ เหยี่ยวที่พุ่งโฉบจับเหยื่อด้วยความเร็วสูง
พร้อมไฟหน้าดีไซน์ใหม่, ไฟเลี้ยวที่ฝังมุมข้าง ๆ ช่องดักอากาศแยกซ้ายขวา, ออกแบบไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมฟีเจอร์ไฟเตือนอัตโนมัติ (Emergency stop signal) ที่จะทำงานโดยอัตโนมัติทันทีเมื่อหยุดรถด้วยความเร็วมากกว่า 55 กม./ชม. ถึงหยุดนิ่ง
ชุดช่วงล่างของ Suzuki Hayabusa เจนเนอเรชั่นที่ 3 ได้รับทั้งโช้คอัพหัวกลับ USD ขนาด 43 มม. จาก KYB ที่ล้อหน้า และโมโนโช้คอัพ จาก KYB ที่ล้อหลัง, ชุดดิสก์เบรกล้อหน้า-หลัง พร้อมคาลิเปอร์เบรกล้อหน้าจาก Brembo Stylema รวมถึงยางล้อรถจาก Bridgeston BATTLAX HYPERSPORT S22
ปิดท้ายด้วยมิติตัวรถประกอบไปด้วยความยาว 2,180 มม., ความกว้าง, 735 มม., ความสูง 1,165 มม., ระยะฐานล้อ 1,480 มม. ความสูงเบาะ 800 มม. น้ำหนักรถ 264 กก.
Suzuki Hayabusa เจนเนอเรชั่นที่ 3 สเปคไทย จะมีสีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 3 สีเช่นเดียวกับสเปคญี่ปุ่น-อินเตอร์ ได้แก่
- สีดำทอง Glass Sparkle Black / Candy Burnt Gold
- สีขาวแดง Metallic Mat Sword Silver / Candy Daring Red
- สีขาวฟ้า Pearl Brilliant White / Metallic Mat Stellar Blue
โดย All-New Suzuki Hayabusa พร้อมให้แฟน ๆ ชาวไทยได้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้ สนนราคาที่ 899,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษต้อนรับการกลับมาของพญาเหยี่ยวยักษ์ที่แฟน ๆ รอคอย ด้วยฟรีประกันภัยชั้น 1, ฟรี Roadside Assistance, ฟรีค่าจดทะเบียน พ.ร.บ. พร้อม Warranty 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและจับจองเหยี่ยวยักษ์โฉมใหม่ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม Suzuki Motorsale ทั่วประเทศ