บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส เปิดให้แฟน ๆ รถสปอร์ตไฟฟ้าได้เป็นเจ้าของ Porsche Taycan รุ่นใหม่ล่าสุด นอกเหนือจาก 3 รุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้า โดยรุ่นดังกล่าวเป็นรุ่นเริ่มต้น 408 แรงม้า แบตเตอรี่ 79.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง พร้อมจัดเต็มออพชั่นมาตรฐาน โดยเปิดให้แฟน ๆ สามารถสั่งซื้อได้ที่โชว์รูม ปอร์เช่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา ในราคาเริ่มต้นที่ 6.19 ล้านบาท
สำหรับ Porsche Taycan ที่เปิดให้แฟน ๆ ชาวไทยได้สั่งซื้อนี้เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้า 100% รุ่นเริ่มต้น ขับเคลื่อนล้อหลัง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงสุด permanently excited synchronous ให้กำลังสูงถึง 408 แรงม้า (300 กิโลวัตต์) เมื่อทำงานใน Overboost Mode และ Launch Control ยกระดับศักยภาพสูงสุดกว่า 476 แรงม้า (350 กิโลวัต์) จากอุปกรณ์พิเศษ Performance Battery Plus
สำหรับการทำงานในโหมดปกติให้กำลังที่ 326 แรงม้า (240 กิโลวัตต์) หรือ 380 แรงม้า (280 กิโลวัตต์) ตามลำดับ
มอเตอร์สมรรถนะสูงที่ติดตั้งบริเวณเพลาคู่หลังมีความยาวเพียง 130 มิลลิเมตร มีขนาดเท่ากับกลไกขับเคลื่อนที่ติดตั้งใน ไทคานน์ 4เอส ส่วนของอุปกรณ์ pulse-controlled inverter ซึ่งติดตั้งบริเวณเพลาคู่หลัง สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 600 แอมป์
รถคันนี้ยังสามารถถ่ายทอดพละกำลังมหาศาลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านชุดส่งกำลัง two-speed transmission ของเพลาคู่หลัง เฉกเช่นเดียวกันกับพี่น้องร่วมสายพันธุ์ ติดตั้งระบบประจุพลังงานเหนือระดับ และด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน Cd ที่ต่ำเพียง 0.22 รวมทั้งอัจฉริยภาพด้านระบบอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมจากการออกเเบบรูปทรงตัวถังที่เหมาะสม
ผลลัพธ์ที่ได้คืออัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ประหยัด และพิสัยระยะเดินทางที่ทำได้ไกลอย่างน่าอัศจรรย์ พร้อมระบบชาร์จพลังย้อนกลับ Recuperation Power สูงสุดถึง 265 กิโลวัตต์
แบตเตอรี่ single-deck Performance Battery กำลังสูงสุด 79.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยที่ลูกค้าสามารถเลือกอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติม two-deck Performance Battery Plus เสริมประสิทธิภาพด้วยกำลังสูงสุดขยับเพิ่มขึ้นเป็น 93.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในส่วนของพิสัยระยะการเดินทางสูงสุดเมื่อทดสอบตามมาตรฐาน WLTP สามารถทำได้ที่ 431 กิโลเมตร และ 484 กิโลเมตร ตามลำดับ
ปอร์เช่ ไทคานน์ รุ่นนี้สามารถมอบอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียง 5.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 230 กม./ชม. ทั้ง 2 ขนาดความจุแบตเตอรี่ขณะที่สามารถรองรับการประจุพลังงานได้สูงสุดที่ 225 กิโลวัตต์ (Performance Battery) หรือ 270 กิโลวัตต์ (Performance Battery Plus)
หมายความว่าแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขนาด จะใช้ระยะเวลาในการชาร์จพลังงานจาก 5 – 80 % ในสภาวะการชาร์จไฟปกติ เพียง 22.5 นาที และสะสมพลังงานจนวิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตร หลังจากการชาร์จเพียง 5 นาทีเท่านั้น
เช่นเดียวกับในรุ่นอื่น อุปกรณ์พิเศษต่างๆ ยังคงถูกจัดเตรียมไว้เพื่อรองรับไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสี colour head-up display และชุด on-board charger ความจุสูงสุด 22 กิโลวัตต์ พร้อมระบบ Functions on Demand (FoD)
ด้วยงานออกแบบที่เรียบหรู สะอาดตา ปอร์เช่ ไทคานน์ ถ่ายทอดแก่ผู้พบเห็นอย่างตรงไปตรงมา คงการออกแบบบดั้งเดิมของ DNA ปอร์เช่ โดยไม่มีขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด เริ่มตั้งแต่มุมมองด้านหน้าที่กว้าง และแบนราบขนาบด้วยโป่งซุ้มล้อที่โค้งมนสง่างาม ยกระดับรูปทรงโดยรวมให้ปราดเปรียว เฉียบคม ด้วยแนวหลังคาสไตล์สปอร์ต ที่เทลาดลงอย่างต่อเนื่องกลมกลืนจรดด้านท้าย
แนวตัวถังด้านข้างที่เปี่ยมไปด้วยบุคลิกเฉพาะตัว มุมมองจากห้องโดยสาร ที่ปลอดโปร่ง แนวโค้งของเสา C-pillar ที่วางตัวผสานกับซุ้มล้อหลัง เป็นหนึ่งเดียวกับสปอยเลอร์ท้ายรถที่ตอกย้ำถึงความกร้าวแกร่งทรงพลัง สริมความโดดเด่นด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยรอบคัน อาทิ ตราสัญลักษณ์ปอร์เช่ที่สะท้อนประกายสวยงาม หรือ glass-effect Porsche logo ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่รวมอยู่กับแผงไฟ light bar บริเวณท้ายรถ
อุปกรณ์ที่สร้างความแตกต่างระหว่าง Porsche Taycan เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในสายพันธุ์เดียวกัน ได้แก่ ล้ออัลลอย ที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ขนาด 19 นิ้ว ลาย Taycan Aero คาลิเปอร์เบรกสีดำ black anodised ทั้ง 4 ล้อ
ชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าออกเเบบใหม่ ชายล่างด้านข้าง และดิฟฟิวเซอร์หลังสีดำ เสริมอารมณ์สปอร์ตเต็มพิกัด เช่นเดียวกับไทคานน์ 4 เอส ไฟหน้า LED ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในห้องโดยสาร แสดงออกถึงบรรยากาศของการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ของยนตรสปอร์ตล้ำอนาคตนับตั้งแต่ปี 2019 ด้วยโครงสร้างและสถาปัตยกรรมใหม่หมดจดสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็นการจัดวางอุปกรณ์รายรอบ แผงหน้าปัทม์ทรงโค้งมน ในตำแหน่งบนสุดของแผงคอนโซลหน้า ให้มุมมองที่ชัดเจนที่สุดจากสายตาของผู้ขับขี่ คอนโซลกลางติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนต์ ขนาดใหญ่ถึง 10.9 นิ้ว พร้อมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเป็นอุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติม
สร้างบรรยากาศที่กลมกลืนลงตัวกับงานตกแต่งภายในมาตรฐานของ Porsche Taycan ที่เพียบพร้อมไปด้วยวัสดุกึ่งหนังคุณภาพสูง และได้รับการติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าแบบ comfort seats ปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พื้นที่บรรทุกสัมภาระ 2 ตำแหน่งด้านหน้าความจุ 84 ลิตร และด้านหลังรองรับได้ถึง 407 ลิตร
นอกจากนี้ ปอร์เช่นำเสนอมิติใหม่ของงานตกแต่งภายในที่ปราศจากการใช้วัสดุหนังเป็นครั้งแรกชิ้นงานภายในประกอบด้วยนวัตกรรมวัสดุรีไซเคิล ซึ่งล้วนแล้วแต่ตอบโจทย์แนวคิดในการพัฒนารถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
ระบบ Porsche 4D-Chassis Control รับหน้าที่วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่ได้จาก ระบบควบคุมช่วงล่างทั้งหมดแบบ real time ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างสปริงที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ adaptive air suspension พร้อมเทคโนโลยี three-chamber รวมทั้งระบบ PASM (Porsche Active Suspension Management) electronic damper control system
ยิ่งไปกว่านั้นระบบ adaptive air suspension ยังได้รับการเสริมด้วยฟังก์ชัน Smartlift ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ยกระดับความสูงของช่วงล่างได้โดยอัตโนมัติ เมื่อขับขี่บนเส้นทางที่สุ่มเสี่ยง อาทิ ถนนขรุขระ หรือการนำรถเข้าศูนย์บริการ ฟังก์ชัน Smartlift สามารถปรับเปลี่ยนระดับความสูงของตัวรถให้สัมพันธ์กับการขับขี่ แม้แต่การเดินทางบนมอเตอร์เวย์รวมทั้งปรับแต่งเพื่อให้เกิดความสมดุลที่สุด ระหว่างสมรรถนะกับความนุ่มนวลสะดวกสบาย
ปอร์เช่ ไทคานน์ มาพร้อมระบบเบรกมาตรฐาน คู่หน้าคาลิเปอร์อะลูมิเนียมโมโนบลอก 6 ลูกสูบ และ 4 ลูกสูบในเบรกคู่หลัง จานเบรกพร้อมครีบระบายความร้อน เส้นผ่านศูนย์กลาง 360 มม. ในด้านหน้า และ 358 มม. สำหรับด้านหลัง เติมเต็มความดุดันโฉบเฉี่ยวด้วยตัวเรือนคาลิเปอร์เบรกสีดำ black anodised
ลูกค้าสามารถสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ high-performance Porsche Surface Coated Brake (PSCB) ขยายขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของจานเบรกคู่หน้าเพิ่มขึ้นเป็น 410 มม. และคู่หลังขนาด 365 มม.
ปอร์เช่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา พร้อมเปิดสั่งซื้อ Porsche Taycan รุ่นเริ่มต้น ให้แฟน ๆ ชาวไทยได้สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เริ่มต้นที่ 6.19 ล้านบาท