ในยุคที่เพศไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่คำนิยามแค่เพียง2 คือหญิงหรือชาย อีกต่อไป หนึ่งชื่อที่มักจะผุดขึ้นมาเสมอเมื่อไหร่ที่มีโอกาสได้เห็นการก้าวผ่านครั้งสำคัญในชีวิตของเขา เขื่อน ภัทรดนัย จากวันที่รับบทบาทเป็นบอยแบนด์ สู่วันที่ได้ก้าวออกมาเป็นตัวเองอย่างไม่ต้องปิดบัง และกลายมาเป็นผู้เปิดโลกแห่งการเป็นตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแบบไม่ต้องขออนุญาติให้ใครมาเห็นด้วย แต่นั่นกลับนำมาซึ่งกำลังใจและกลายเป็นแรงบันดาลใจส่งต่อให้กับอีกหลายคนที่ยังไม่สามารถก้าวข้ามผ่านเหมือนกับที่เขื่อน ได้แสดงให้ทุกคนเห็นพร้อมกับกำลังใจสำคัญที่สุดอย่างคุณแม่ของเขา
เขื่อนโตมากับการร้องไห้ไม่เป็นค่ะ ต่อให้เศร้ามากแค่ไหน หรือเจ็บ หรือเสียใจให้ตายยังไงก็ร้องไม่ออกเพราะเขื่อนโตมากับการป้องกันตัวเอง ว่าถ้าใครว่าอะไรเขื่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ หรือเรื่องอะไรก็ตาม เราจะต้องไม่รู้สึก เราต้องเข้มแข็ง ต้องเดินต่อ เพราะถ้าคนอื่นรับเรื่องเพศเราไม่ได้ เค้าต้องรับผลงาน กับความเข้มเเข็งของเราได้
เกราะที่เขื่อนใช้ป้องกันตัวเอง defence mechanism อันนี้มันเคยดีกับเขื่อนมาก ในวันที่เขื่อนต้องทำตามคำสั่งและหลายๆ อย่าง เเต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งมันเหมือนเขื่อนได้ปิดตัวตนของเขื่อนไปเลย เขื่อนมารู้ตัวอีกทีคือตอนแยกกับอดีตคู่ชีวิตของเขื่อนค่ะ เขื่อนเจ็บมาก hurtมาก แต่ไม่มีน้ำตาออกมาสักหยด ร้องไม่ออกเลยเพราะ defence mechanism นี้มันทำงานเองโดยอัตโนมัติ
ในวันนี้ ในวันที่หลายๆ อย่างที่เขื่อนทำ ไม่ว่าจะเป็น LGBTQ+ activitist เรื่องเสื้อผ้า Genderless, mental health และอีกมากมาย มันคือการต่อสู้ตลอดเวลา และอาจจะเป็นเพราะอาชีพนักจิตบำบัดด้วย เขื่อนได้กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยของหลายๆ คนแบบไม่รู้ตัว ทุกวันนี้เขื่อนได้รับคำชมหลายๆ ทางมาก หรือได้ฟังคำชมนั้นด้วยตัวเองตามสถานที่ต่างๆ เขื่อนยังตั้งตัวไม่ทันนะคะ
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีคลิปที่เขื่อน ได้เผยแพร่ไว้และน่าสนใจมาก เมื่อเขาได้นั่งจับเข่าคุยกับคุณแม่ ในหัวข้อ ยากไหมที่มีลูกเป็น LGBTQ+
ข้อความส่วนหนึ่งจากคุณแม่ของเขื่อน : มีหลายครอบครัวมากที่บางคนเกิดความขัดแย้งในใจ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น แต่แม่ไม่มีปัญหานั้น พอยิ่งสื่อสารกันมากเท่าไหร่ ยิ่งค้นพบลงไปเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้ว่าการเปิดใจยอมรับมันเป็นกุญแจดอกสำคัญของทุกสิ่งเลย กลายเป็นว่าได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข ได้เห็นในสิ่งที่เขาอยากทำแค่นั้นเอง
อีกมุมหนึ่งที่ทำให้แฟนๆชื่นชอบและติดตามเขา ก็เห็นจะเป็นเรื่องของการเป็น Genderless Fashion ผู้ที่มาขยายมุมมองของในแง่มุม แฟชั่นไม่ใช่เรื่องของเพศ ให้กลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ไม่ยากอีกต่อไป ด้วยการแต่งตัวในแบบที่เขารัก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นสวยๆ ที่หลายคนมองว่ามันคือเสื้อผ้าผู้หญิง หรือแม้แต่รองเท้าส้นสูง ที่คนส่วนใหญ่ยังคงยึดติดว่ามันมีไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น แต่วันนี้เขื่อนบอกกับตัวเองและผู้คนที่ติดตามเขาอีกมายว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีความสุขในแบบที่ตัวเองเป็น
ที่มาภาพและเนื้อหาบางส่วนจาก @koendanai