ถั่ว ถั่ววอลนัท ธัชพืช วอลนัท

10 ประโยชน์ของถั่ววอลนัท ต้านสารพัดโรคร้าย สายเฮลตี้ต้องลอง!

ถั่ววอลนัท (walnut) อุดมไปด้วยโปรตีน มีใยอาหารสูง และมีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล วอลนัทยังเป็นแหล่งพลังงานที่อุดมสมบูรณ์และมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ มีทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อการมีสุขภาพ 10 ประโยชน์ของ ถั่ววอลนัท ลดระดับไขมันในเลือด วอลนัทอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวประมาณ 72% เช่น…

Home / HEALTH / 10 ประโยชน์ของถั่ววอลนัท ต้านสารพัดโรคร้าย สายเฮลตี้ต้องลอง!

ถั่ววอลนัท (walnut) อุดมไปด้วยโปรตีน มีใยอาหารสูง และมีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล วอลนัทยังเป็นแหล่งพลังงานที่อุดมสมบูรณ์และมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ มีทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อการมีสุขภาพ

10 ประโยชน์ของ ถั่ววอลนัท

  1. ลดระดับไขมันในเลือด วอลนัทอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวประมาณ 72% เช่น กรดโอเลอิก การรับประทานถั่ววอลนัทเป็นประจำจะช่วยลดปริมาณไขมันชนิดเลว (LDL) และเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) ในเลือด จึงมีประโยชน์ต่อหลอดเลือดแดงเพราะจะช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือด ทั้งยังช่วยทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น
  2. เป็นแหล่งของโอเมก้า 3 วอลนัทอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวและกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ช่วยบํารุงระบบประสาท บำรุงสมอง และช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
  3. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วอลนัทอุดมไปด้วยสารไฟโตเคมิคอลหลายชนิดที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทั้ง เมลาโทนิน, กรดเอลลาจิก, วิตามินอี, แคโรทีนอยด์ และสารประกอบโพลีฟีโนลิก สารประกอบเหล่านี้เป็นที่รู้กันดีว่าช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง, ริ้วรอย, การอักเสบและโรคทางระบบประสาท
  4. การรับประทานวอลนัทเพียงกำมือเดียวทุกวัน จะช่วยต้านการอักเสบ ลดความดันโลหิต ลดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งต่อมลูกหมาก
  5. วอลนัทมีสารโพลีฟีโนลิกสูง ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ เพียงรับประทานวอลนัทวันละ 6-7 ลูก สามารถช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดโรคร้ายได้
  6. อุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ถั่ววอลนัท 100 กรัม มีวิตามินอี 20.83 มิลลิกรัม มีส่วนช่วยลดไขมัน ป้องกันการเกิดการแข็งตัวของเลือด ป้องกันโรคมะเร็งและหัวใจ อีกทั้งยังช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี
  7. ต้านโรคเบาหวาน การรับประทานวอลนัทยังช่วยคุมเบาหวานชนิดที่ 2 และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้อีกด้วย เนื่องจากถั่ววอลนัทช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  8. บำรุงหัวใจ วอลนัทมีโพแทสเซียมสูงจึงช่วยในการควบคุมความดันโลหิต ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจ ลดความเสี่ยงในการเกิดความดันโลหิตและโรคหัวใจ
  9. ให้พลังงานสูง วอลนัทเป็นถั่วที่ให้พลังงานสูงมาก ถั่ววอลนัท 100 กรัม ให้พลังงานถึง 654 กิโลแคลอรี
  10. บำรุงเชื้ออสุจิ วอลนัทอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆมากมาย ทั้งแมงกานีส ทองแดง โพแทสเซียม เหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี และซีลีเนียม ซึ่งสังกะสีและโอเมก้า 3 เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเพิ่มตัวเชื้อและเลือดไปเลี้ยงอวัยวะสืบพันธุ์ ดังนั้นการกินถั่ววอลนัทเป็นประจำช่วยในการผลิตเชื้ออสุจิที่แข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้น
ถั่ววอลนัท
ถั่ววอลนัท

คุณค่าทางโภชนาการของถั่ววอลนัท 100 กรัม

ให้พลังงาน 654 กิโลแคลอรี
ไฟเบอร์ 6.7 กรัม
วิตามินบี1 0.341 มิลลิกรัม
วิตามินบี2 0.150 มิลลิกรัม
วิตามินบี3 1.125 มิลลิกรัม
วิตามินบี5 0.570 มิลลิกรัม
วิตามินบี6 0.537 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 20 IU
วิตามินซี 48.2 มิลลิกรัม
วิตามินอี 20.83 มิลลิกรัม
วิตามินเค 2.7 ไมโครกรัม
โพแทสเซียม 441 มิลลิกรัม
แคลเซียม 22 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 2.9 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 158 มิลลิกรัม
แมงกานีส 3.4 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 346 มิลลิกรัม
สังกะสี 3.09 มิลลิกรัม
ทองแดง 1.5 มิลลิกรัม
อ้างอิงจาก USDA National Nutrient database