วรยุทธ อยู่วิทยา

กางไทม์ไลน์ “เลื่อน” คดีบอส อยู่วิทยา จากวันแรก ถึงวันสั่งไม่ฟ้อง

ย้อนเวลากลับไป 8 ปีก่อน ณ วันเกิดเหตุ ถึงล่าสุดในวันที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา

Home / BACKTOTALK / กางไทม์ไลน์ “เลื่อน” คดีบอส อยู่วิทยา จากวันแรก ถึงวันสั่งไม่ฟ้อง

จากกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จนเป็นกระแสที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะมาย้อนรอยเหตุการณ์ อย่างละเอียดอีกครั้งว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างในตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา

ย้อนเหตุการณ์วันเกิดเหตุ

3 ก.ย. 2555 – 05.30 น.
มีรายงานแจ้งเหตุ รถสปอร์ตหรู สีดำ ชนชนด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ขณะขับรถจักรยานยนต์ออกตรวจบนถนนสุขุมวิท ช่วงปากซอย 47 ในรายงานระบุว่า พบร่างของ ด.ต.วิเชียร ที่ปากซอยสุขุมวิท 49 หรือ 200 ม. จากจุดเกิดเหตุ

3 ก.ย. 2555 ช่วงรุ่งเช้า.

มีรายงานพบรอยคราบน้ำมันเครื่องของรถคันก่อเหตุ หน้าบ้านหลังหนึ่งในซอยสุขุมวิท 53 จนท.ตร. ดำเนินการปิดล้อม ไม่มีผู้ใดออกมาพบตำรวจแต่อย่างใด ซึ่งในระหว่างการดำเนินการมีรายงานรถยนต์คันหนึ่งขับออกจากบ้านไป

3 ก.ย. 2555 ประมาณ 07.00 น.
ตำรวจชุดแรกจากนครบาล-สน. ทองหล่อ เข้าตรวจสอบในบ้านราว 10 นาที ระบุไม่พบเจ้าของบ้าน, ผู้ก่อเหตุ, รถคันก่อเหตุ

3 ก.ย. 2555 – 08.00 น.
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางถึงหน้าบ้าน รอหมายศาลเพื่อค้นบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือ ระบุ หากยังไม่ได้ตัวอีก ก็จะขอลาออกจากตำแหน่ง

3 ก.ย. 2555 – (ไม่ยืนยันช่วงเวลา)
พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ ด.ต.วิเชียร นำตัว นายสุเวศ หอมอุบล อายุ 47 ปี (ขณะนั้น) พ่อบ้าน ที่เข้ามอบตัวอ้างว่า เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว ผลการสอบปากคำพบ นายสุเวศ พบว่าไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น นำไปสู่การขอหมายค้นและหมายจับเพิ่มเติม ซึ่งระหว่างนั้นได้มี ทนายความประสานงานจะนำนายวรยุทธ์ เข้ามอบตัว พร้อมของกลาง

3 ก.ย. 2555 – ราว 09.00 น.
ทนายความเดินทางมาถึง ยินยอมให้มีการตรวจสอบ เบื้องต้นพบ รถเฟอร์รารีคันก่อเหตุ สภาพกันชนหน้าแตก มีเครื่องหมายยศ ของด.ต.วิเชียร ติดคาอยู่ที่กระจก ตรวจสอบบันทึก รปภ. พบว่า 05.12 – น้องบอสขับรถออกจากบ้าน จึงมั่นใจว่า นายวรยุทธ์ อยู่วิทยา หรือ บอส เป็นผู้ก่อเหตุ

3 ก.ย. 2555 – 10.00 น.
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบ เข้าตรวจสอบซ้ำ

3 ก.ย. 2555 – 10.20 น.
นายวรยุทธ์ เข้ามอบตัวถึงสน.ทองหล่อ และได้มีการนำตัวเข้าห้องสอบสวน ราว 6 ชั่วโมง ในรายงานเบื้องต้นนายบอสให้การภาคเสธ โดยรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง แต่รถผู้ตายขับปาดหน้า ซึ่งหลังก่อเหตุแล้วก็ได้กลับเข้าบ้าน แล้วรู้สึกตกใจ, เครียดกับเหตุการณ์ที่ก่อขึ้น มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

3 ก.ย. 2555 – 14.00 น.
พี่ชาย ด.ต. วิเชียรเดินทางไปรับร่างไปทำพิธีศพ

3 ก.ย. 2555 – ราว 16.30 น.
ตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุ ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ รพ.สมิตเวช โดยทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งทางตำรวจไม่คัดค้านประกันตัว โดยให้ประกันตัวออกไปในวงเงินประกัน 5 แสนบาท , มีข้อมูล


EDITOR Note :
ในคดีเมาแล้วขับ แนวทางการดำเนินคดีจะถือว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ใช่อุบัติเหตุ ดังนั้น จึงมีแนวทางให้เจ้าหน้าที่ “ส่งฟ้องศาลภายใน 48 ชม.” เพื่อรับโทษ


ไทม์ไลน์ของคดี

4 ก.ย. 2555
ผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดผู้ต้องหา พบมีปริมาณ 64 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา เมาแล้วขับเพิ่มเติม

5 ก.ย. 2555
มีรายงานข่าวจากผู้เชี่ยวชาญ คาดว่าเป็นการชนท้ายตรงๆ ไม่ใช่การปาดหน้า จุดที่ชนน่าจะเป็นตรง ปากซอยสุขุมวิท 47 เพราะมีการพบรายเลือดกระเซ็น ห่างไปอีก 64.8 ม. พบรอยเลือดจุดที่ 2 คาดว่าเป็นจุดตกของร่าง ด.ต.วิเชียร ส่วนรถจักรยานยนต์ พบตรงบริเวณปากซอยสุขุมวิท 46

6 ก.ย. 2555
ตั้งกรรมการสอบ พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ และสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน จากกรณีนำตัวนายสุเวศ หอมอุบล พ่อบ้าน อ้างว่าเป็นผู้ขับรถ มามอบตัว, ผลตรวจเลือด ออก พบมีแอลกอฮอล์ในเลือด 63 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด

12 ก.ย. 2555
ทนายขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา

คลิปข่าวจากคมชัดลึก เมื่อ 4 ก.ย. 2555 ระบุ มีผู้ใหญ่โทรมาขอให้ไม่เอาผิด สวป.ทองหล่อ

1 ต.ค. 2555
รายงานผลการตรวจสารแปลกปลอมในร่างกายนายวรยุทธ อยู่วิทยา ของมหาวิทยาลัยมหิดล พบสารแปลกปลอม 4 ชนิด Alprazolam, Benzoylecgonine, Cocaethylene และ Caffeine

19 ต.ค. 2555
จนท. เรียกตัวผู้ต้องหา ให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม

20 ต.ค. 2555
เตรียมออกหมายจับนายวรยุทธ อยู่วิทยา “บอส” หลังพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวผู้ต้องหา แต่ไม่ได้รับการติดต่อ

23 ต.ค. 2555
นายวรยุทธ อยู่วิทยา พร้อมผู้ติดตาม เข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา

[ … ]

4 มี.ค. 2556
พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ระบุว่า ได้ส่งสำนวนให้กับทางอัยการศาลอาญากรุงเทพใต้แล้ว โดยระบุถึงประเด็นผลตรวจสารเสพติด ว่าอยู่ในสำนวน

4 เม.ย. 2556
อัยการสั่งเลื่อนคดี ครั้งที่ 2 ในประเด็นการแจ้งให้ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด, ทนายความผู้ต้องหาขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดี

2 พ.ค. 2556
อัยการสั่งไม่ฟ้อง ข้อหาขับรถขณะเมาสุรา เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานทางคดีว่ามีการกระทำผิด (สมอ้าง – ระบุว่าดื่มหลังจากเกิดเหตุ)

8 พ.ค. 2556
อัยการสั่งเลื่อนคดี ครั้งที่ 3 ระบุว่า กระบวนการสั่งคดียังไม่เบ็ดเสร็จ, มีการสั่งฟ้องเพิ่ม 1 ข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากผลวิเคราะห์จากภาพในกล้องวงจรปิดพบว่าความเร็วสูงกว่า 170 กม./ชม.

19 พ.ค. 2556
อัยการสั่งเลื่อนคดี ครั้งที่ 4 ขอให้ทบทวนเรื่องความเร็วของรถขณะเกิดเหตุ

26 ส.ค. 2556
ทนายแจ้งต่ออัยการเลื่อนคดี ครั้งที่ 5 เหตุผู้ต้องหาอ้างไม่สบาย พร้อมใบรับรองแพทย์ กำหนด 2 ก.ย. 56

30 ส.ค. 2556
ทนายความแจ้งต่ออัยการว่า นายวรยุทธ เดินทางไปต่างประเทศ (อังกฤษ) วันที่ 29 ส.ค. – 2 ก.ย. 56

2 ก.ย. 2556
ทนายขอเลื่อนเข้าพบอัยการ ระบุว่า นายวรยุทธ อยู่วิทยา ป่วยกระทันหันอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยนำใบรับรองแพทย์ นำมาแสดงต่ออัยการ

3 ก.ย. 2556
หมดอายุความ ข้อหาขับรถเร็วเกินอัตรากฎหมายกำหนด , ตร. ออกหมายจับ

27 พ.ย. 2556
[อ้างอิงตามข้อมูลสำนวน] มีคำสั่งให้ยุติการพิจารณาร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหา

[ … ]

ระหว่างปี 2557-2558-2559

มีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมในคดีหลายครั้ง ในหลายหน่วยงานร่วมถึงคณะกรรมมาธิการกฎหมาย สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

[ … ]

2 มี.ค. 2559
มีการสอบข้อมูลและแก้ไขคำให้การ โดยมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วจาก 177 กม./ชม. เป็น 79.23 กม./ชม.

28 มี.ค. 2559
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ขณะนั้น) ให้สัมภาษณ์ว่า การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความบกพร่อง พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา เมาหลังขับ แทนเมาแล้วขับ

29 มี.ค. 2559
สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความเกี่ยวกับคดี ซึ่งได้มีการเอ่ยถึงการร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาหลายครั้ง ตั้งแต่ชั้นตั้งแต่ชั้้นตำรวจ ถึงอัยการสูงสุด ในหลายประเด็น ทำให้ต้องมีการสอบสวนตามที่ผู้ต้องหาร้องขอ โดยระบุว่า หากอัยการไม่ดำเนินการก็จะผิดระเบียบได้

25 เม.ย. 2559
ทนายส่งหนังสือเลื่อนฟังคำฟ้อง อ้างติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ

25 พ.ค. 2559
ส่งหนังสือเลื่อน เนื่องจากมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมในคดี

24 มิ.ย. 2559
ส่งหนังสือเลื่อน กับทางอัยการเนื่องจากกระบวนการพิจารณาข้อร้องเรียนยังไม่สิ้นสุด

ช่วงระหว่าง 25-28 ต.ค. 2559
ส่งหนังสือเลื่อน ด้วยเหตุผลเดิมว่า เนื่องจากกระบวนการพิจารณาข้อร้องเรียนยังไม่สิ้นสุด

30 พ.ย. 2559
ทนายส่งหนังสือขอเลื่อน อ้างติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ

[ … ]

27 เม.ย. 2560
ทนายส่งหนังสือเลื่อนฟังคำฟ้อง อ้างติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ

28 เม.ย. 2560
ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับ นายวรยุทธ อยู่วิทยา เลขที่ จ.138/60

1 พ.ค. 2560
พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ส่งหมายจับให้กับสำนักงานอัยการฯ ฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้

5 พ.ค. 2560
กระทรวงต่างประเทศ ระบุว่า มีการเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายวรยุทธ อยู่วิทยา

มิ.ย. 2560
อัยการแถลง ได้ตัวบอส อยู่วิทยาก่อนหมดอายุความแน่นอน

18 ก.ค. 2560
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ระบุว่า ติดปัญหาเรื่องการแปลเอกสารในการดำเนินการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากกองการต่างประเทศ บุคลากรไม่พอ

3 ก.ย. 2560
หมดอายุความ ข้อหาไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควร

4 ก.ย. 2560
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อให้สอบสวนและดำเนินการเอาผิดกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

12 ก.ย. 2560
ตำรวจสากลเผยแพร่หมายจับนายวรยุทธ อยู่วิทยา

18 มี.ค. 2561
มีข่าวรายงานว่า หมายจับนายวรยุทธ อยู่วิทยาหายไปจากเว็บไซต์ของตร.สากล ซึ่งทางตร.ไทยระบุว่า ยังคงมีอยู่ เพียงแต่ไม่ได้แสดงผลในหน้าเว็บไซต์

4 ธ.ค. 2562
[อ้างอิงตามข้อมูลสำนวน] พยานเข้าให้ข้อมูลเพิ่ม 2 ปาก ระบุ ด.ต.วิเชียร ขับตัดหน้า โดยการเปลี่ยนเลนกระทันหันจากช่องทางซ้ายมาเป็นช่องทางที่ 2 (เลนกลาง), รถเฟอรารี่ ขับไม่เกิน 80 กม./ชม.

20 ม.ค. 2563
อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา

12 มิ.ย. 2563
แจ้งคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ


ขั้นตอนทางกฎหมาย

พนักงานสอบสวน –(สำนวน) –> อัยการ –(เห็นด้วย/สั่งฟ้อง) –> ชั้นศาล

ในการดำเนินการทางกฎหมายนั้น ตำรวจจะดำเนินการสำนวนฟ้อง ในข้อหาต่างๆ ส่งไปให้อัยการ เพื่อพิจารณาสำนวนคำฟ้องเหล่านั้นว่า ถูกต้อง เรียบร้อย ครบถ้วนดีหรือไม่ หากไม่มีข้อสงสัย หรือข้อสังเกตใดๆ อัยการก็จะดำเนินการสั่งฟ้องต่อไป และกระบวนการก็จะขึ้นสู่ชั้นศาลในที่สุด

ในกรณีที่อัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง เนื่องจากเหตุผลในทางคดีที่ “ปรากฎ” ในสำนวนมีข้อบกพร่องหรือไม่สมบูรณ์ ก็จะส่งกลับไปยังตำรวจ* อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากมีความเห็นแย้ง ก็จะมีการส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด

พนักงานสอบสวน –(สำนวน) –> อัยการ –(ไม่เห็นด้วย/แจ้งกลับ) –> ผบ.ตร. –(เห็นด้วย) –> จบกระบวนการ แต่โจทก์ยังยื่นฟ้องเองได้

ในการสั่งไม่ฟ้องของอัยการนั้น จะพิจารณาจากสำนวน หลักฐาน ที่เกิดขึ้นเป็นหลัก ดังนั้นหากหลักฐาน สำนวนมีความครบถ้วน อัยการก็จะดำเนินการสั่งฟ้อง แต่หากมีข้อสงสัย หรือไม่ชัดเจนก็จะมีการสั่งไม่ฟ้องออกมา

ซึ่งแม้ว่าอัยการไม่สั่งฟ้องตามพนักงานสอบสวนส่งสำนวนมาก ทางญาติสามารถดำเนินการฟ้องศาลได้ด้วยตัวเองต่อไปได้ ในบางกรณีศาลอาจจะสั่งขอสำนวนจากอัยการ และอาจจะมีความเห็นสั่งฟ้องเพิ่มเติมได้

แต่ในกรณีคดีนี้ ทางฝ่ายผู้ต้องหาได้มอบเงินเยียวยาให้ จำนวน 3 ล้านบาท จากที่ทางญาติของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ยื่นขอเยียวยาไป 8 ล้านบาท โดยมีข้อแลกเปลี่ยนกับการไม่ดำเนินคดีต่อทั้งในทางแพ่ง และอาญา

ดังนั้นในขณะนี้ จึงเหลือช่องทางของกฎหมายให้ไปต่อไม่มากนัก ซึ่งในขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ทำการยื่นต่อศาลในการเพิกถอนหมายจับ ซึ่งทำให้ก่อนการเพิกถอนหมายจับนั้น ในส่วนของศาลสามารถเปิดการไต่สวนก่อนการเพิกถอนได้ และดึงสำนวนเดิม, สำนวนใหม่ มาตรวจสอบพิจารณาร่วมกัน รวมถึงสามารถเรียกผู้เกี่ยวข้องที่เป็นพยานต่างๆ เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดๆ ไป เพื่อหาทางนำคดีกลับสูงชั้นศาลอีกครั้งหนึ่ง


สาเหตุที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง

สำหรับหลักการพิจารณาสั่งฟ้อง/ไม่ฟ้อง คดี จะพิจารณาจาก

  • หลักการตามข้อกฎหมาย เช่น ข้อกฎหมายนั้นมีหรือไม่ ถูกต้องหรือไม่ ฯลฯ
  • ดุลพินิจ

ซึ่งอัยการสามารถสั่งเพิ่ม ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม หรือให้ส่งพยานมาให้อัยการซักถามเพิ่มเติม รวมถึงสั่งให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา ให้ประกัน ควบคุมตัวไว้ ขอให้ศาลกักขังก็ได้

* หมายเหตุ :
สำหรับคดีในศาลจังหวัด ในพื้นที่ กทม. จะส่งให้ ผบ.ตร. แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดจะส่งให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรในภาคนั้น ๆ เป็นผู้ทำความเห็น ส่วนกรณีเป็นศาลแขวงจะส่งเรื่องให้ ผู้ว่าฯ เป็นผู้ทำความเห็นในทางคดี


ตัวอย่างคดีดังที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง

ในช่วงที่ผ่านมามีคดีดังๆ หลายคดีที่มีประเด็นการสั่งไม่ฟ้อง หรือ สั่งไม่ฟ้องในบางข้อหาทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

I. คดี พญ.ผัสพร – อัยการสั่งไม่ฟ้อง

หนึ่งในคดีดังที่เกิดขึ้นในประเทศและอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง คือ คดีมาตรการแพทย์หญิง ผัสพรบุญเกษมสันติ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น หลังจากที่ พญ.ผัสพรหายตัวถูกเปิดประเด็นขึ้นมา เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวน นำไปสู่การพบชิ้นเนื้อในบ่อเกรอะ, คราบเลือดในท่อน้ำทิ้ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และทำสำนวนฟ้อง ส่งอัยการพิจารณา

แต่ผลออกมาอัยการสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากขาดประจักษ์พยาน และพบศพ เป็นการพบชิ้นเนื้อเท่านั้น สุดท้ายคุณพ่อของ พญ.ผัสพร ดำเนินการให้ทนายยื่นฟ้องต่อศาลเอง จนนำไปสู่การจับกุม นพ.วิสุทธิ์ ผู้ก่อเหตุ

II. คดีเสือดำ – อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บาง” ข้อหา

ในคดีเสือดำ เป็นอีกหนึ่งคดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องในบางข้อกล่าวหา รวม 5 ข้อหาด้วยกันคือ

  1. ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
    (สาเหตุ – ปืนทั้งหมดมีทะเบียนถูกต้องและได้รับอนุญาตตามกฎหมาย )
  2. ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
    (สาเหตุ – จำเลยทั้งหมด มีใบขออนุญาตมาจากทางส่วนกลางรวมถึงผ่าน หัวหน้าวิเชียรแล้ว และกฎหมายไม่มีกำหนดโทษไว้ มีโทษในทางปกครองคือสั่งให้ออกจากพื้นที่เท่านั้น)
  3. ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่า หรือจับสัตว์
    (สาเหตุ – กฎหมายไม่ได้กำหนดโทษไว้ มีเพียงระบุความผิดไว้เท่านั้น)
  4. ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
    (สาเหตุ – นายธานี ทุมมาศ สมอ้างเป็นผู้ล่าสัตว์โดยที่นายเปรมชัย และคนอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้อง)
  5. ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร
    (สาเหตุ – สัตว์ตาม พ.ร.บ.ทารุณสัตว์ฯ ไม่ได้กำหนดขอบเขตไว้ถึงสัตว์ป่า จึงไม่เข้าข้อกฎหมายนี้)

ซึ่งใน 5 ข้อหาที่ตั้งมา ทางอัยการพิจารณาแล้ว มีความไม่ชัดเจน หรือไม่มีข้อกฎหมายรองรับ จึงเห็นว่าควรเปลี่ยนข้อกล่าวหา/ตัดออก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในชั้นศาล


ที่มา :
มอบตัวแล้ว! ผู้ต้องหาขับรถสปอร์ตชนตำรวจ
ทายาทบิ๊กกระทิงแดง อ้างตำรวจขับปาดหน้า หลบไม่ทันก่อนชน
ทายาทกระทิงแดง เข้าขอขมา ศพ ดต. วิเชียร แล้ว
ผบช.น. ยันฟันขั้นเด็ดขาด สารวัตรทองหล่อ จับแพะคดีเฟอร์รารี่ชนตำรวจ
ผลสอบแอลกอฮอล์ทายาทบิ๊กกระทิงแดง พบเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ให้ออกจากราชการ! สวป.ทองหล่อ ปั้นแพะให้ทายาทบิ๊กกระทิงแดง
เล็งออกหมายจับ ทายาทกระทิงแดง หลังหายเงียบ! ไม่ติดต่อตำรวจ
ฮือฮาข้อหา เมาหลังขับ พนักงานสอบสวนแจ้งจับ ทายาทกระทิงแดง
อินเตอร์โพล เผยแพร่หมายจับ บอส วรยุทธ ในเว็บไซต์แล้ว
บอส อยู่วิทยา เลื่อนฟังคำสั่งคดีชนตร. อัยการสูงสุดจ่อขอหมายจับหลังเบี้ยวพบ
ศาลอนุมัติออกหมายจับ ‘บอส’ กระทิงแดง ด้าน อสส. จ่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน