Toyota Motor ประกาศเปิดตัว All-New bZ4X ยนตรกรรมเอสยูวีไฟฟ้า 100% บนแพลตฟอร์ม e-TNGA ใหม่ล่าสุด ชูประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่วิ่งได้ไกลถึง 500 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ครอบคลุมทั้ง FWD กับ AWD และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่มากมาย พร้อมวางจำหน่ายเต็มรูปแบบกลางปี 2022 เป็นต้นไป
โดย Toyota bZ4X ยังคงรูปแบบจากรถคอนเซ็ปต์ ที่ยลโฉมไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมถึง Subaru Solterra ที่จะใช้แพลตฟอร์มร่วมกัน ซึ่งไฮไลท์สำคัญของการเผยโฉมครั้งนี้คือการนำเสนอข้อมูลเทคโนโลยี และระบบขับเคลื่อนที่ได้บรรจุใน bZ4X รุ่นนี้
เริ่มจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 355 โวลต์ ความจุ 71.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง วางอยู่ใต้พื้นรถและมีระบบควบคุมอุณหภูมิเพื่อประสิทธิภาพ ด้วยความจุเต็ม 100% สามารถวิ่งได้ไกลถึง 500 กม. สำหรับรุ่น FWD และ 460 กม. สำหรับรุ่น AWD ที่หนักกว่า (WLTP) แบตเตอรี่รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) สูงสุด 6.6 kW และชาร์จกระแสตรง (DC) สูงสุด 150 kW หรือสามารถชาร์จ 80%ใน 30 นาที
ประกอบกับความทนทานของแบตเตอรี่ ด้วยความจุจะยังคงอยู่ที่ 90% หลังจากใช้งานมา 10 ปีหรือ 240,000 กม. ประกอบกับประสิทธิภาพความปลอดภัยของเซลล์แบตเตอรี่ในระดับสูง ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบแรงดันไฟแบตเตอรี่ กระแสไฟ และอุณหภูมิแบตเตอรี่ซ้ำซ้อน การกำจัดสิ่งปนเปื้อนและสารหล่อเย็นที่มีความต้านทานสูง ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความทนทานเมื่อถูกชน
ด้านสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้า เริ่มจากรุ่น FWD มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า 204 แรงม้า (PS) อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.4 วินาที
ส่วนรุ่น AWD จะได้รับมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาล้อหน้า-หลัง รวม 2 ตัว ตัวละ 109 แรงม้า (PS) รวมสูงสุด 218 แรงม้า (PS) ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AWD จาก Subaru มาใช้ใน X-Mode และ Grip-Control แม้จะส่งผลให้ตัวรถน้ำหนักมากถึง 2,005 กก. หรือเพิ่มขึ้น 85 กก. แต่สามารถมอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่สั้นกว่าใน 7.7 วินาที
อีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดในรถรุ่นนี้คือการออกแบบแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า e-TNGA ที่ใช้ในการรองรับพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีความแข็งแรง จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาให้ออกแบบได้อย่างหลากหลายตามแต่ละเซ็กเมนต์ แต่สำหรับกลุ่มรถ SUV จะมีการยกระดับสมรรถนะแบบออฟโรดที่จำเป็น ประสิทธิภาพการบังคับพวงมาลัยที่ราบรื่น
ช่วงล่าง เริ่มจากระบบกันสะเทือนล้อหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบดับเบิลวิชโบน พร้อมสปริงลวด
มิติตัวถัง bZ4X มีความยาว 4,690 มม. ความกว้าง 1,860 มม. และความสูง 1,650 มม. ซึ่งยาวกว่า RAV4 เล็กน้อย
รวมถึงระยะฐานล้อ 2,850 มม. เท่ากับ Highlander ส่งผลให้มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้าง ด้วยความยาวของภายใน 1,940 มม. ความกว้าง 1,515 มม. และความสูงในห้องโดยสาร 1,160 มม. และทำให้มีพื้นที่วางขาทั้งเบาะหน้าและเบาะหลังที่กว้างขวาง นั่งสบาย
ด้านฟีเจอร์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ปรากฎรายละเอียดภายในก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น การเสริมวัสดุดูดซับเสียงเพื่อลดเสียเข้าห้องโดยสาร, ระบบอัปเดทซอร์ฟแวร์รถยนต์แบบ Over-the-Air พร้อมการนำทางบนคลาวด์และการจดจำเสียงที่ดียิ่งขึ้น, หลังคาพาโนรามิครูฟที่เป็นออพชั่นเสริม ขณะเดียวกันก็สามารถเลือกเป็นหลังคาโซล่าเซลล์เพื่อช่วยเพิ่มการผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับเพิ่มระยะการเดินทางได้ไกลถึง 1,800 กม./ปี, พรมพร้อมระบบฮีทเตอร์อุ่นเท้าที่ใช้พลังงานจากปั๊มความร้อน
สำหรับระบบความปลอดภัยจะได้รับ Toyota Safety Sense รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมระบบ ADAS กับ Toyota Advanced Park ควบคู่กับอุปกรณ์กล้องหน้า คลื่นเรดาร์ และเซ็นเซอร์ ที่มีระยะการตรวจจับกว้างขึ้น
รวมถึงระบบปลั๊กไฟฟ้ากระแสตรง สำหรับจ่ายไฟแก่อุปกรณ์ภายนอกทั้งการสันทนาการ ทำงานกลางแจ้ง หรือช่วยประสบภัยพิบัติ โดยจะนำร่องในสเปคญี่ปุ่นก่อน
Toyota bZ4X จะเปิดตัวทั่วโลกในกลางปี 2022 และจะมีการเปิดรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 รุ่น ภายในปี 2025
เครดิตข้อมูลจาก global.toyot