ที่เที่ยวเชียงใหม่ หน้าหนาว เชียงใหม่

26 ที่เที่ยวเชียงใหม่ ใกล้ชิดธรรมชาติช่วงหน้าหนาว

รวบรวม 26 ที่เที่ยวเชียงใหม่ มาฝาก เชื่อเถอะว่าไปแล้วดีต่อใจจริง ๆ นะ

Home / TRAVEL / 26 ที่เที่ยวเชียงใหม่ ใกล้ชิดธรรมชาติช่วงหน้าหนาว

เที่ยวเชียงใหม่ช่วงหน้าหนาว สิ่งแรกที่เรานึกถึงก็คือ ไปชมดอกพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย ขึ้นดอยไปชมทะเลหมอกงามๆ นาขั้นบันไดแจ่มๆ วันนี้ Travel.MThai ได้รวบรวม 26 ที่เที่ยวธรรมชาติที่เชียงใหม่ มาฝากกัน เชื่อเถอะว่าไปแล้วดีต่อใจจริง ๆ นะ

ต้องไปให้ได้สักครั้ง! 26 ที่เที่ยวเชียงใหม่ ช่วงหน้าหนาว

1. ชมดอกพญาเสือโคร่ง ณ ขุนช่างเคี่ยน

ชมดอกหญาเสือโคร่ง ณ ขุนช่างเคี่ยน
ขอบคุณรูปภาพ FindThailand.com

สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง สีชมพูสดใส มีอยู่หลายที่ด้วยกัน ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นสถานที่เที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งยอดฮิตของภาคเหนือ โดยจะบานสะพรั่งในช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค. ตั้งอยู่บนเส้นทางเดียวกับทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และดอยปุย ที่นี่มีที่พักคอยให้บริการ แต่ควรสอบถามล่วงหน้าก่อน ที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โทร 053-944053 หรือ 053-222014

อ่านเพิ่มเติม : 10 สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง รับลมหนาว


LUCKY WAY เซตเต็นท์สนามครบชุด

เต้นท์พับสำหรับ 2 คน กันน้ำ น้ำหนักเบา พกพาง่าย เหมาะสำหรับออกทริปปลายฝนต้นหนาว สามารถพกพาไปได้สะดวก ครบชุด พร้อมเที่ยว !!!

ราคา 1,290 บาท


2. ดอยอ่างขาง 

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โครงการหลวงที่ได้รับความนิยม เลื่องชื่อเรื่องพืชพันธุ์ โดดเด่นด้วยนางพญาเสือโคร่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและทัศนียภาพอันสวยงาม เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันมีพันธุ์ไม้ผลกว่า 12 ชนิด ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด และไม้ดอกเมืองหนาวมากกว่า 20 ชนิด สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

เมื่อมาถึงก็สามารถชมแปลงสาธิต ผัก ผลไม้ ต้นนางพญาเสือโคร่งและไม้ดอกเมืองหนาวภายในศูนย์ฯ สามารถขับรถวนเป็นวงกลม ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท ยานพาหนะคันละ 50 บาท หรือเยี่ยมหมู่บ้านหลวง สัมผัสชีวิตชาวจีนฮ่อ เยี่ยมหมู่บ้านนอแล สัมผัสวิถีชีวิตชาวปะหล่อง อดีตชนเผ่าดั้งเดิมของพม่า หรือ เดินป่าระยะสั้น ชมความงามธรรมชาติของผืนป่าปลูกทดแทน มีบริการให้ขี่ล่อ เป็นต้น

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง กับการเดินทางสุดประทับใจ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โทร : 053-450107-9

ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวอ่างขาง โทร : 053-450077

3. สถานีวิจัยเกษตรที่สูงเชียงใหม่ (ขุนวาง)

โครงการหลวงแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมนางพญาเสือโคร่ง สภาพพื้นที่ของโครงการส่วนใหญ่ล้อมด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน มีแอ่งที่ราบระหว่างภูเขาเพียงเล็กน้อย มีแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านคือ แม่น้ำขุนวาง  ประชากรในพื้นที่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้ง รวมทั้งสิ้น 7 หมู่บ้าน ขึ้นอยู่กับตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

มีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ชมแปลงสาธิตไม้ผลเมืองหนาว ชมแปลงปลูกผัก โรงเรือนเห็ดเมืองหนาว แปลงปลูกดอกเบญจมาศหลากสีสัน ชมวิถีชีวิตของชาวเผ่าม้ง และกะเหรี่ยง หรือท่องเที่ยวแบบ เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ (3 กิโลเมตร) ชมทุ่งกุหลาบพันปีสีแดง และ ชมดอกพญาเสือโคร่ง

การเดินทาง : ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ 106 กิโลเมตร  ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข  108 (เชียงใหม่-ฮอด) ก่อนถึงอำเภอจอมทอง มีทางแยกขวามือขึ้นดอยอินทนนท์ ตามทางหลวงหมายเลข 1009 ราว หลัก กม. ที่30-31 มีทางแยกทางขวามือผ่านบ้านขุนกลาง จุดกางเต็นท์ป่าสน ตรงไปอีก 16 กิโลเมตร จนถึงบ้านขุนวางสังเกตป้ายโครงการทางขวามือ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : โทร. 053-939-102, 085-717-0399

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : 10 โครงการหลวง น่าเที่ยว ต้อนรับฤดูหนาว

4. แม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆ แสนอบอุ่น ในหุบเขา

แม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆ แสนอบอุ่น ในหุบเขา

ช่วงหลังมานี้ หมู่บ้านเล็กท่ามกลางหุบเขาอย่าง แม่กำปอง ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบโฮมสเตย์ และด้วยความที่มีธรรมชาติแสนงดงามแบบไม่ต้องปรุงแต่ง ความน่ารักจากผู้คนในหมู่บ้าน ได้สัมผัสวิถีชาวบ้าน ทำให้ที่แห่งนี้จึงเป็นจุดมุ่งหมายที่ใครหลายคนก็อยากมาสัมผัส ^^

บ้านแม่กําปอง เชียงใหม่ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน มีพื้นที่หมู่บ้านทั้งหมดประมาณ 6.22 ตารางกิโลเมตร ระยะทางห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 50 กิโลเมตร

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : 

5. ไร่ชาวิวสวยในเมืองไทย

ขอบคุณภาพ คุณ MaCCa www.pixpros.net

อีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ก็คงจะเป็น “ไร่ชา” ในเมืองไทยนั้นมีไร่ชาขึ้นชื่อหลายที่ และแต่ละที่นั้นนอกจากจะได้ถ่ายรูปไร่ชาทอดยาวตามขั้นบันไดแล้ว ก็สามารถชิมชากลิ่นหอมๆ ได้อีกด้วย ซึ่งไร่ชาในจังหวัดเชียงใหม่นั้นมีอยู่หลายที่ เช่น

  • ไร่ชาลุงเดช ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แตง ปลูกชาพันธุ์ดี 2 สายพันธุ์คือ ชาเบอร์ 12 และพันธุ์ก้านอ่อน
  • ไร่ชาระมิงค์ แหล่งกำเนิดชาแรกของไทย ที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 70 ปี ที่นี่ทำไร่ชา และผลิตใบชาในพื้นที่ภูเขาสูง 900-1200 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนดอยเชียงดาว แหล่งต้นน้ำปิง อ. แม่แตง
  • ไร่ชา 2000 หุบเขาเล็กๆ แต่มากความสวยงาม ด้วยทัศนียภาพแห่งทะเลหมอก และไร่ชา ไร่สตรอเบอร์รี ขั้นบันไดตามเนินเขา เป็นภาพที่คุณจะต้องประทับใจ

อ่านเพิ่มเติม : พากันไปฟิน! 10 ไร่ชาวิวสวยในเมืองไทย หนาวนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว

6. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

อุทยานฯ แห่งนี้มีชื่อเสียงในการเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศเลยทีเดียว ที่นี่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย ภูมิประเทศโดยทั่วไป เป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อนที่ภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำลำธารและมีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย

ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ คือ

  • จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก มองเห็นดอยเชียงดาว ทั้งยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมกับความงามอันน่ามหัศจรรย์ของทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ นอกจากนี้ ในช่วงปลายฤดูหนาวจะสะพรั่งไปด้วยดอกไม้ที่มีสีสันสวยงาม
  • ห้วยน้ำรู หรือ ดอยสามหมื่น ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว ซึ่งมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซอ ทัศนียภาพสวยงาม ชมการปลูกกาแฟอาราบิกาและไม้ผลเมืองหนาว
  • สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น น้ำตกห้วยน้ำดัง โป่งน้ำร้อนท่าปาย น้ำตกแม่เย็น เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เอื้องเงิน เป็นต้น

ที่ตั้ง : ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

ค่าเข้าอุทยานฯ : คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท อัตราค่าบริการ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยลด 50 เปอร์เซ็นต์ วันจันทร์-วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

7. ดอยแสนหวาน ซากุระเบ่งบาน ที่ ขุนแม่ยะ

ดอยแสนหวาน ซากุระเบ่งบาน ที่ ขุนแม่ยะ
ขอบคุณภาพขาก Fa The Pooh

หนึ่งใน ดินแดนแห่งดอกซากุระเมืองไทย ณ ดอยขุนแม่ยะ อยู่บนเส้นทางแม่มาลัย-ห้วยน้ำดัง-ปายกึ่งกลาง เป็นดอยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,020 เมตร เป็นพื้นที่บริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ โครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางพระบรมราชินีนาถฯ ทางเข้าอยู่ตรงข้ามกับด่านตรวจสัตว์ของตำรวจ

8. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย เพราะจะขึ้นเหนือทั้งทีต้องไปให้สุด ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่  นอกจากจะไปถ่ายกับป้ายสูงสุดแดนสยามแล้ว ยังมีจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม หรือจะเดินชมความเขียวขจีของผืนป่า ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน และอ่างกา ที่ชวงนี้เปิดให้เข้าไปเดินเล่นในทุ่งหญ้า สูดอากาศรับลมหนาวอย่างเต็มที่

และที่ดอยอินทนนท์ มีจะ พระมหาธาตุเจดีย์ ที่ตั้งคู่กันสององค์ ซึ่งเป็นพระมหาธาตุคู่พระบารมีของรัชกาลที่ 9 และพระราชินี ชื่อว่า พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

อ่านเพิ่มเติม : 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 053 286 728 – 9

9. ผจญผืนป่าจูราสสิก เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์

เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์

เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา หรือ อ่างกาหลวง ดอยดินทนนท์ จ.เชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยพืชนานาพันธุ์ ภายในมีสะพานไม้ให้เดินระยะทางเกือบ 300 เมตร ถึงจะเป็นเส้นทางสั้น ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความสวยงามปนกับความพิศวง ให้อารมณ์ป่าฝน อากาศเย็นสบาย เหล่าบรรดามอส ไล่ขึ้นตามขอบและราวจับของสะพาน เป็นจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจมากทีเดียว และหากมีฝนตกปรอย ๆ บอกเลยว่ายิ่งงดงามมาก

ที่ตั้ง : อ่างกา อยู่บริเวณยอดดอยอินทนนท์ ถ้าเริ่มต้นจากยอดดอยฯ ให้เดินมาทางป้ายสูงสุดแดนสยาม ผ่านสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เดินมาจนถึงจุดวัดอุณหภูมิ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา

อ่านเพิ่มเติม : เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์

10. อำเภอแม่แจ่ม

อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเชียงใหม่ท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี สามารถสัมผัสความงามของทะเลหมอกได้ที่ จุดชมวิวดอยม่อนหมาก โดยไม่ต้องง้อดอยสุดฮิตอื่นๆ

จุดเด่นของอำเภอแม่แจ่มนั้น อยู่ที่ ความสวยงามอลังการของนาขั้นบันได ที่ข้าวเริ่มจะออกรวงสีเหลืองทองในช่วงหน้าหนาว อีกทั้งชมบ้านป่าบงเปียง หมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ให้เราได้อิ่มเอิบ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 053 276 140 – 1

อ่านเพิ่มเติม : จ่าย 900 บาท กับ วิวธรรมชาติที่เห็นแล้วต้องอึ้ง! ณ โกวิทกระท่อมปลายนา

11. นาขั้นบันได

นาขั้นบันได เชียงใหม่
ขอบคุณภาพจาก Namee Be Bear (http://www.thetrippacker.com/th/nameebebear)

นาขั้นบันได นาข้าวที่ปลูกตามไหล่เขา เป็นอีกหนึ่งวิวสวยขั้นเทพ ไฮไลท์ของที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มาชมความงามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหน้าฝนหรือหน้าหนาว การมาเที่ยวชมแนวสันเขาเต็มไปด้วยนาขั้นบันไดสวยงาม สามารถเที่ยวได้ 2 ช่วงด้วยกันคือ ช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือน ก.ย. ก็จะได้เห็นความเขียวขจี และช่วงหน้าหนาว ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค. – พ.ย. ก็จะได้สัมผัสข้าวสีเหลืองทอง ออกรวง

นาขั้นบันไดในจังหวัดเชียงใหม่นั้น มีด้วยกันหลายที่ เช่น

  • นาข้าวขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง อ.แม่แจ่ม
  • นาข้าวขั้นบันไดบ้าน กองกาน อ.แม่แจ่ม
  • นาข้าวขั้นบันได แม่ปาน อ.แม่แจ่ม
  • นาข้าวขั้นบันได บ้านตีนผา อ. แม่แจ่ม
  • นาข้าวขั้นบันได แม่กลางหลวง อ.จอมทอง
  • นาข้าวขั้นบันได บ้านผาหมอน
  •  นาข้าวขั้นบันได โครงการหลวงขุนแปะ อ.จอมทอง
  • นาข้าวขั้นบันได บ้านแม่ระมีดน้อย อ.อมก๋อย

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : ชมวิวขั้นเทพ กับ 10 ที่เที่ยวนาขั้นบันได ในเมืองไทย

12. พระธาตุดอยสุเทพ

pic22

เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา มีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน

13. ดอยม่อนจองเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย

http://thai.tourismthailand.org/

ดอยม่อนจอง ตั้งอยู่ในเขตลึกของป่าอมก๋อย ทิศตะวันออกจรดเขื่อนภูมิพล ทิศตะวันตกติดกับถนนสายอมก๋อย-บ้านแม่ตื่น ทิศเหนือจรดกับพื้นที่อำเภอดอยเต่า ทิศใต้จรดกับลำห้วยแม่ตื่นที่ไหลลงสู่เขื่อนภูมิพล สูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย จุดสูงสุดของ ดอยม่อนจอง เรียกว่า หัวสิงห์ เพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโต

ยิ่งในช่วงฤดูหนาว ต้นกุหลาบพันปีจะออกดอกสีแดงสะพรั่งดึงดูดนกสวยงามนานาชนิดให้มาลิ้มรสน้ำหวาน กลายเป็นของแถมให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดตาเพลินใจไม่น้อย

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : เพลินลมหนาว หาวเป็นไอ ดอยม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่


14. ดอยหลวงเชียงดาวทัศนียภาพ 360 องศา ที่ต้องสัมผัส

ดอยหลวงเชียงดาว ทัศนียภาพ 360 องศา ที่ต้องสัมผัส
ขอบคุณรูปภาพจากคุณ Popumon Papulop (facebook.com/thaipapulop)

ดอยเชียงดาว อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว มีลักษณะเป็นเทือกเขา ภูเขาหินปูน ประกอบไปด้วยยอดเขาสูงหลายยอด ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ “ดอยหลวงเชียงดาว” สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของบ้านเรา สูงพอจะทำให้ “น้ำ” ท้อใจ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,225 เมตร รองจากดอยอินทนนท์ และดอยผ้าห่มปก

เป็นที่ตั้งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว อุณหภูมิตามปกติจะถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกตลอดปีโดยเฉพาะในฤดูหนาวและฤดูฝน อากาศหนาวเย็นตลอดฤดูหนาวและฤดูฝนอากาศชุ่มชื้นมาก เป็นแหล่งที่มีพืชพรรณหลากหลายและมีหลายชนิดที่เป็นพืชถิ่นเดียวไม่พบในส่วนอื่น ๆ ของประเทศไทย มีทั้งพืชเขตร้อน, กึ่งเขตร้อนและพืชเขตอบอุ่น จึงเป็นสถานที่ ๆ พบความหลากหลายทางชีวภาพมาก เป็นแหล่งนิยมสำหรับการดูนก มีนกอาศัยอยู่ที่นี่มากกว่า 300 ชนิด รวมถึงสัตว์ป่าชนิดอื่นที่หายาก เช่น ผีเสื้อสมิงเชียงดาว, ไก่ฟ้าหางลายขวาง, กวางผา รวมถึงเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน เป็นต้น

อ่านและดูภาพเพิ่มเติม : งามเกินห้ามใจ! ดอยหลวงเชียงดาว พร่างพราวดั่งสรวงสวรรค์

15. อุทยานหลวงราชพฤกษ์

การได้ไปเที่ยวชมความงามของธรรมชาติและดอกไม้งามๆ หลากหลายสายพันธุ์ ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ นั้นบอกเลยว่า ไปครั้งเดียวก็ไม่พอ ไปครั้งเดียวก็เที่ยวไม่หมด! ตั้งอยู่ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง เคยใช้เป็นสถานที่ที่ใช้จัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 และ มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ที่มีดอกไม้งามหลากหลายสายพันธุ์ ชูช่อ เบ่งบานนับแสนนับล้านดอก

มีการจัดแสดงพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด การจัดแสดงนิทรรศการด้านการเกษตรและอื่น ๆ เพื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อการศึกษางานวิจัย และเป็นแหล่งพบปะกันในกลุ่มเกษตรกร ภายในพื้นที่มีการจัดภูมิสถาปัตย์อย่างสวยงาม

ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด! คือ

  • หอคำหลวง
  • สวนองค์กรเฉลิมพระเกียรติ
  • สวนนานาชาติ
  • สวนไทย
  • อาคารโลกแมลง (Bug World) เป็นต้น

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : เที่ยว “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” เชียงใหม่ ชมดอกไม้บาน ต้อนรับลมหนาว

16. กิ่วแม่ปาน

กิ่วแม่ปาน
ขอบคุณภาพจาก emaginfo.com

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน เป็นหนึ่งในมุมชมวิวทิวทัศน์บนขุนเขาของเชียงใหม่ ที่ยังคงสมบูรณ์และหาดูได้ยากในประเทศไทย แม้กิ่วแม่ปานจะไม่มีอะไรมาก แต่ที่นี่ก็คือจุดรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มาแรงเช่นกัน

เส้นทางสู่กิ่วแม่ปาน คือเส้นทางของถนนจอมทอง ที่มุ่งสู่ดอยอินทนนท์ เพียงแต่อยู่ตรงกิโลเมตรที่ 42 ณ จุดนี้ เรากำลังจะเริ่มต้นเดินเท้าเข้าไปใน “เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน-ดอยอินทนนท์” ทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะอยู่ริมถนนพอดี เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน มีระยะทางการเดิน 3 กิโลเมตร มีทั้งเดินในป่าและสันดอย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : กิ่วแม่ปาน สำหรับนักเดินป่ามือใหม่

17. หน้าผาจูบกัน อุทยานแห่งชาติออบหลวง

หน้าผาจูบกัน อุทยานแห่งชาติออบหลวง

ก็เป็นอีกแห่งที่น่าสนใจ และยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ คุณจะได้เห็นทัศนียภาพอันแปลกตา ของภูผา ป่าไม้ สายน้ำ และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ในที่เดียวกัน

ออบหลวง เป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามและน่าเกรงขามไว้ในที่เดียวกัน เป็นเพราะว่าลักษณะทางภูมิศาสตร์ของออบหลวงที่เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาด ซึ่งช่องเขานี้มีลักษณะเป็นผาสูงชัน และแคบมาก บีบทางน้ำไหลให้แคบเข้า ดังนั้นแม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เกิดเสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่นโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีสะพานเชื่อมช่องเขาขาดสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของออบหลวง อีกทั้งมีบริการบ้านพัก สถานที่กางเต็นท์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : หน้าผาจูบกัน อุทยานแห่งชาติออบหลวง จ.เชียงใหม่

ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติออบหลวง : คนไทย ผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 40 บาท และเด็กจะอยู่ที่ 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

สอบถามเพิ่มเติมที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง โทร. 0 5-322-9272 หรือสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2-562-0760 หรือสำรองที่พักด้วยตนเองที่เว็ปไซต์ www.dnp.go.th

18. เที่ยวป่าสนสลับสี โครงการหลวงวัดจันทร์

เที่ยวป่าสนสลับสี โครงการหลวงวัดจันทร์
ขอบคุณภาพจากคุณ Jiratraveler (http://pantip.com/topic/32228309)

เมื่อลมหนาวเดินทางมาถึง ป่าสนของ อ.กัลยาณิวัฒนา อำเภอลำดับ 878 ของประเทศไทย จะเริ่มผลัดใบรับฤดูหนาวเปลี่ยนสีเขียวของป่าที่ได้รับน้ำตลอดฤดูฝนให้เป็นสีสันตระการตา ไล่สีตั้งแต่เหลืองและน้ำตาลของต้นสนแดงและส้มของต้นเมเปิล ภาพที่เห็นคล้ายผืนผ้าใบไร้ขอบเขต ที่ถูกละเลงสีด้วยพู่กันธรรมชาติ และความที่แต่ละต้นมีการไล่ลำดับสีแตกต่างกัน ยิ่งทำให้ความสวยงามของเฉดสียิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ สนสองใบและสนสามใบของที่นี่เป็นป่าสนธรรมชาติผืนใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

จากหมู่บ้านที่ต้องเผชิญความลำบากก่อน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงโปรดเกล้าให้พัฒนาจนกลายเป็น “โครงการหลวงหมู่บ้านวัดจันทร์” เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของราษฏรกระทั่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกในปัจจุบัน

ไฮไลท์อยู่ที่ สัมผัสความอลังการของป่าสนใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพลิดเพลินกับหลากสีสันของใบไม้งามตามธรรมชาติ เช่น ใบเมเปิ้ลสีแดงส้ม ที่พร้อมใจผลัดใบในช่วงเดือนมกราคม –กุมภาพันธ์ของทุกปี ใกล้กันมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่หากมาเยือนในยามเช้าจะได้ยลสายหมอกแห่งความหนาวจับกลุ่มลอยฟุ้งเหนือผิวน้ำ ปกคลุมทิวสนจนกลายเป็นวิวสุดงดงามและยังมีจักรยานให้ปั่นดื่มด่ำอากาศบริสุทธิ์, เดินศึกษาป่าสนหรือคลุกคลีไมตรีจิตจากชาวบ้านปากะญอได้ตามอัธยาศัย หรือ ปั่นจักรยานชมเส้นทางธรรมชาต ที่สวยมากใครมียกใส่รถไปได้เลย

การเดินทาง : จากเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่อ.แม่ริม เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1095 ที่มุ่งหน้าสู่อ.ปายก่อนเข้าอ.ปายประมาณ 13 กิโลเมตรจะมีทางแยกซ้ายเข้าถนนหมายเลข 1265 ไปอีกประมาณ 40กิโลเมตรทางค่อนข้างคดเคี้ยวแต่เป็นถนนลาดยางตลอดทางมีรถโดยสารสองแถวสีเหลือง(เชียงใหม่–สะเมิง–วัดจันทร์) ทุกวันจากสถานีขนส่งช้างเผือกอ.เมืองเชียงใหม่หรือสามารถเลือกต่อรถจากอ.ปายจ.แม่ฮ่องสอนแต่ควรตรวจสอบเวลารถก่อนเดินทาง

19. ดอยผ้าห่มปก หรือ อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก

ขอบคุณภาพจาก http://thai.tourismthailand.org/

อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก  หรือชื่อเดิมคือ ดอยผ้าห่มปก ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อนของทิวเขาผีปันน้ำ สภาพป่าส่วนใหญ่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เชิงเขาเป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ ริมลำธารเป็นป่าดิบแล้ง ส่วนบนยอดเขาสูงจะเป็นป่าสน เป็นต้นน้ำของแม่น้ำฝาง มีความสูงตั้งแต่ 400 – 2,285 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีหมอกปกคลุมจัดและมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

มีดอยสำคัญได้แก่ ดอยฟ้าห่มปก ดอยปู่หมื่น ดอยแหลม และดอยอ่างขาง สภาพป่าทั่วไปมีความอุดมสมบูรณ์และเป็นป่าต้นน้ำแห่งแม่น้ำฝาง สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากตั้งแค้มป์พักแรม ต้องไปที่ กิ่วลม เท่านั้น เนื่องจากทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้พักแรมบนยอด ดอยฟ้าห่มปก เพราะเป็นหน้าผาสูงชัน อาจเกิดอันตรายได้ง่าย

สถานที่น่าสนใจ :

  • โป่งน้ำร้อนฝาง มีน้ำแร่ทั้งปี เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00-20.00 น.
  • น้ำตกโป่งน้ำดัง น้ำตกหินปูนขนาดเล็ก แต่มีเสน่ห์ไม่แพ้น้ำตกขนาดใหญ่ มีถ้ำเล็กๆ ให้เข้าไปรับความชุ่มฉ่ำ
  • ถ้ำห้วยบอน เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ลึกประมาณ 300 เมตร เมื่อเข้าไปกลางถ้ำจะพบโถงถ้ำใหญ่ ซึ่งจุคนได้ประมาณ 40-50 คน สภาพแวดล้อมภายในเต็มไปด้วยเสาหินและหินงอกหินย้อยขนาดต่างๆ ให้ความตื่นตาไม่น้อย

การเดินทาง : จากเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ถึงตัวเมืองฝางตรงไปจนพบสามแยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายไป 9 กิโลเมตร มีป้ายบอกทางชัดเจนตลอดทาง เป็นถนนลาดยาง จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติฯ จะมีรถรับจ้างคอยบริการรับส่งสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก อีกประมาณ 10 กม.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก โทร. 053 453 517-8 ต่อ 104หรือติดต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 หรือสำรองที่พักด้วยตนเองที่  www.dnp.go.th

20. อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ทะเลเชียงใหม่

อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ทะเลเชียงใหม่
ขอบคุณภาพจาก http://thai.tourismthailand.org/

ขึ้นเหนือก็เที่ยวทะเลได้! ห้วยตึงเฒ่า เป็นทะเลสาบน้ำจืด เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง เป็นโครงการหมู่บ้านตัวอย่างตามพระราชดำริ และได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ในพื้นที่เขตทหาร โดยอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ใช้ในศูนย์เกษตรกรรมทหารฯ และราษฎรบริเวณใกล้เคียง

จุดเด่นของที่นี่ คือ ทิวทัศน์อันงดงามของอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ และบริเวณอ่างเก็บน้ำยังมีหาดทรายคล้ายชายทะเล ที่ทุกคนสามารถเล่นน้ำได้ ทั้งยังมีบริการห่วงยาง เรือพาย จักรยานน้ำให้เช่าในราคาย่อมเยา ส่วนใครที่ชอบตกปลา ก็มีซุ้มแพสำหรับตกปลาบริเวณสันเขื่อน ขณะเดียวกันหลายคนยังจะได้สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ กิจกรรมกระโดดหอ เกมโซน เพ้นท์บอล รถเอทีวี และเครื่องเล่นต่างๆ ภายในบริเวณอ่างเก็บน้ำอีกด้วย

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ที่ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางโดยจากตัวเมือง เริ่มต้นจากสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เลียบคลองชลประทานผ่านโรงเรียนนวมินทร์ ฯ – มูลนิธิขาเทียม – กรมทางหลวง – ททบ.5 – สถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ และเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานคลองชลประทาน เข้าสู่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า

ค่าธรรมเนียมเข้าอ่างเก็บน้ำ : คนละ 20 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า มณฑลทหารบกที่ 33 โทร.0 5312 1119 หรือเว็บไซต์ www.rta.mi.th/hueytuengtao

วันเปิดทำการ : วันจันทร์ – วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 17.00

21. สวนสนบ่อแก้ว นามิเมืองไทย 

สวนสนบ่อแก้ว นามิเมืองไทย ไม่ต้องบินไปถึงเกาหลี

แหล่งท่องเที่ยวที่ยังมีความเป็นอันซีนของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอฮอด จ.เชียงใหม่ บนเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง กม.ที่ 36 อยู่เลยอุทยานแห่งชาติออบหลวงไปประมาณ 22 กม. เป็นพื้นที่ทดลองปลูกสนภูเขาชนิดต่าง ๆ ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ นำพันธุ์มาจากต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และไต้หวัน เพื่อทดลองหาพันธุ์ที่เหมาะสมมาเป็นไม้เบิกนำ เพื่อปลูกบนป่าเสื่อมโทรมบนดอยทางภาคเหนือ ต้นสนที่นำมาปลูกมีอายุกว่า 40 ปี เพราะปลูกในช่วงปี พ.ศ.2509-2510 จำนวนหลายพันต้น เรียงรายเป็นระเบียบบนลานโล่งเตียนด้านหน้า

ทั้งนี้ สวนสน ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษและเป็นแปลงทดลองปลูกพืชจำนวนสนสามใบ และยูคาลิปตัส ในเนื้อที่ทั้งหมด 2,072 ไร่ อากาศของที่นี่ชื้นและเย็นตลอดปี

วันเปิดทำการ  :  วันจันทร์ – วันอาทิตย์  เวลา 08.00 น. – 17.00 น.
ติดต่อสอบถาม  :  โทร. 0 5324 8604  ,  0 5324 8607

22.  ดอยค้ำฟ้า

 ดอยค้ำฟ้า
ขอบคุณภาพจาก www.ilovetogo.com

 ดอยค้ำฟ้า หรือ กิ่วใจหาย แหล่งท่องเที่ยวอันซีนเชิงอนุรักษ์ ที่มีผืนป่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ตั้งอยู่ที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่งาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่  มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,834 เมตร ไฮไลท์สำคัญคือการชมทะเลหมอก ที่เบื้องหลังคือยอดดอยหลวงเชียงดาว มันช่างงดงามยิ่งนัก

เหมาะสำหรับผู้มีใจรักธรรมชาติ พักแรมแบบกางเต็นท์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบปิด ก่อนขึ้นไปต้องโทรแจ้ง หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่งายก่อน เนื่องจากถนนเป็นเส้นทางลำลอง หน้าฝนต้องใช้ 4×4 หน้าหนาว 4×2 ผ่านได้

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ดอยค้ำฟ้า ฟ้าอยู่ค้ำคน คนไม่อยู่ค้ำฟ้า

การเดินทาง

จากเชียงใหม่-เชียงดาว และใช้เส้นทาง เชียงดาว-เวียงแหง ขับไปจนถึง สะพานข้าม ห้วยน้ำกัด ขวามือจะมีป้ายดอยค้ำฟ้า บอกชัดเจนประมาณหลัก ก.ม ที่ 26-27 ดอยค้ำฟ้าจะอยู่ก่อนหน่วยจัดการต้นน้ำขุนคอง ถ้าถึงหน่วยจัดการต้นน้ำขุนคอง ถือว่าเลยไปแล้ว ให้กลับรถ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : หน่วยจัดการต้นน้ำแม่งาย  โทร. 081 992 7346

23. อุทยานผาช่อ

dsc_8417-2-e1439873458224

เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติสุด UNSEEN ของเชียงใหม่ ผาช่อ เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของลมฝน จนทำให้แผ่นดินที่เชื่อกันว่าเมื่อหลายร้อยปี หรือพันปีก่อนบริเวณแห่งนี้ เคยเป็นทางเดินของแม่น้ำปิง ตะกอนแม่น้ำปิงก่อตัวทับถมกันเป็นชั้นๆ ผ่านกลายเวลาและถูกกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผาและเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตา คล้ายกับที่แพะเมืองผีในจังหวัดแพร่ หรือฝั่งต้าในจังหวัดพะเยา มีลวดลายที่สวยงามและมีขนาดใหญ่มีความสูงราว 30 เมตร สูง เทียบเรือนยอดไม้ ครอบคลุมพื้นที่อาณาบริเวณกว้าง

การเดินทาง : ตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นไกด์นำทางพาเดินเข้าไปชมผาช่อ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เที่ยวได้ครบ

24. น้ำตกรักจัง หรือ น้ำตกผาดอกเสี้ยว
ดอยอินทนนท์

น้ำตกรักจัง หรือ น้ำตกผาดอกเสี้ยว ดอยอินทนนท์
ขอบคุณรูปภาพจากคุณ Manus Tagsri (www.facebook.com/moomor)

น้ำตกผาดอกเสี้ยว หรือน้ำตกรักจัง ตั้งอยู่บ้านแม่กลางหลวง ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์น้ำตกผาดอกเสี้ยวนั้นมีทั้งหมด 10 ชั้น แต่ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเยือนคือชั้นที่ 7 เพราะสายน้ำจากน้ำตกชั้นบนไหลตกลงมากระทบชั้นล่าง มีความสูงราว 20 เมตร สวยงามตระการตา ส่วนที่มาของชื่อน้ำตกผาดอกเสี้ยวก็มาจากชื่อต้นเสี้ยวซึ่งเป็นไม้เด่นบริเวณน้ำตกนั้นเอง

การเดินทาง : เริ่มต้นที่การเดินทางมายัง บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่ซ้ายมือบริเวณกิโลเมตรที่ 26 ของเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ จากนั้นให้เข้าไปที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อติดต่อมัคคุเทศก์นำทาง เป็นชาวบ้านท้องถิ่นที่จะพาเราลัดเลาะไปตามลำธารและป่าดง เส้นทางเดินป่ามีทั้งทางราบและทางชัน ที่จะทำให้คนไม่ค่อยออกกำลังกายได้ขาสั่น ด้วยระยะทาง 3 กิโลเมตร เป้าหมายอยู่ที่น้ำตกชั้นที่ 7 ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุด และเป็นชั้นที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์รักจังนั่นเอง

อ่านและดูภาพเพิ่มเติม : ฟังเสียงลำธาร วิมานแห่งความสุข ต้อง… น้ำตกรักจัง

25. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

เดิมทีมีชื่อว่า “สวนพฤกษศาสตร์แม่สา” ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ประจำภาคเหนือของประเทศไทย ต่อมาองค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า “สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” ที่นี่มีสภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบและที่สูงสลับกันเป็นชั้นๆ ในระดับ 300-970 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะการจัดสวนจะแบ่งพันธุ์ไม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ รวบรวมพันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้นานาชนิดได้เข้าไป ศึกษาหาความรู้

ไฮไลท์ : อาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนลานเนินเขาที่สวยงาม, เรือนกล้วยไม้ไทย,  เส้นทางศึกษาธรรมชาติ 4 เส้นทาง (เส้นทางน้ำตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนรวมพันธุ์กล้วยไม้ไทย (Waterfall Trail) ระยะทาง 300 เมตร, เส้นทางสวนรุกชาติ (Arboretum Trail) ระยะทาง 600 เมตร, เส้นทางวลัยชาติ (Climber Trail) ระยะทาง 2 กิโลเมตร, เส้นทางพันธุ์ไม้ประจำจังหวัด ระยะทาง 800 เมตร)

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณชายเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ทางเข้าอยู่ด้านซ้ายมือบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 12 สายแม่ริม-สะเมิง

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 8.30-17.00 น.
ค่าธรรมเนียม : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
มีรถบริการนำชมภายในสวน : ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10
สอบถามเพิ่มเติม : โทร.0 5384 1234 โทรสาร 0 5329 8177, 0 5329 9754 อีเมล์ bgo@qsbg.org เว็บไซต์ www.qsbg.org

26. อุทยานแห่งชาติศรีลานนา

อุทยานแห่งชาติศรีลานนา

อุทยานแห่งชาติศรีลานนาครอบคลุมพื้นที่อำเภอพร้าว อำเภอแม่แตง และอำเภอเชียงดาว (ป่าแม่งัด ป่าแม่แตง และป่าเชียงดาว) โดยรวมเนื้อที่ได้ 652,000 ไร่ มีสภาพโดยทั่วไปเป็นป่าดิบเขา ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูง สลับซับซ้อนทอดตัวเป็นแนวเหนือใต้ เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง และเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด

ไฮไลท์แห่งอุทยานฯ 

  • น้ำตกม่อนหินไหล เป็นน้ำตก 9 ชั้น มีลักษณะเป็นตาดหินลาดเขา ที่นี่มีน้ำไหลตลอดปี แต่ละชั้นมีลักษณะเด่นที่ต่างออกไป
  • จุดชมวิวที่พลาดไม่ได้  คือ ยอดดอยม่อนหินไหลบนน้ำตกชั้นที่ 9 ซึ่งเป็นจุดชมวิวมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอพร้าว *อุทยานแห่งชาติจะทำการปิดน้ำตกม่อนหินไหล ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายนของทุกปี
  • อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ในส่วนตัวโครงการชลประเทานเขื่อนแม่งัด – สมบูรณ์ชลนั้น ที่นี่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม น่าชมตลอดทั้งปี พร้อมกับแพพักพร้อมอาหารของเอกชนให้บริการ
  • สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น น้ำตกห้วยแม่ระงอง น้ำตกห้วยป่าพลู ถ้ำผาแดง เทือกเขาหินปูน เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบริเวณดอยแม่วะ เป็นต้น

การเดินทางไปยังจุดชมวิว ยอดดอยม่อนหินไหล :  ตั้งอยู่บริเวณป่าแม่งัด อำเภอพร้าว ใช้เส้นทางเชียงใหม่ – พร้าว ประมาณ 85 กิโลเมตร เลี้ยวแยกซ้ายเข้าน้ำตก 14 กิโลเมต ที่เป็นทางลูกรัง จึงต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น

การเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล : ตั้งอยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 41 บนเส้นทางสายเชียงใหม่ – ฝาง แล้วเลี้ยวขลาเข้าไปประมาณ 11 กิโลเมตร

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเป้า อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 5347 9090, 0 5347 9079
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760
สำรองที่พักด้วยตนเองที่ http://www.dnp.go.th


ขอบคุณข้อมูล http://thai.tourismthailand.org/

เรียบเรียง Travel.mthai.com