เมืองบาดาล หรือ วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของตำบลหนองลู อำเภอ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สถานที่แห่งนี้เคยเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ (Unseen Thailand) ที่มีชื่อเสียงทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ
หน้าร้อนเที่ยว เมืองบาดาล ที่สังขละบุรี
ล่องเรือชมโบสถ์เก่ากลางน้ำ สุดอันซีน
สำหรับ “วัดวังก์วิเวการาม” (เก่า) หรือ “วัดหลวงพ่ออุตตมะ” เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ในปี พ.ศ.2496 ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับชายแดนไทย-พม่า ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 220 กิโลเมตร
ในระยะแรกมีเพียงกุฏิและศาลา มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน ในปี พ.ศ.2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอเดิม คืออำเภอวังกะ-สังขละบุรี ซึ่งต่อมาถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอ ก่อนที่จะยกฐานะเป็น อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ.2508
ต่อมาปี พ.ศ. 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำแล้ว น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะเข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย จึงได้ย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมานานนับสิบปี เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดและอาคารบ้านเรือน
ปัจจุบันอุโบสถหลังเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำ ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งเมื่อไหร่ที่น้ำลดระดับลง เมืองบาดาลทั้งเมืองก็จะเผยความงดงามของโบราณสถาน ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้มาเยือนเสมอๆ หากใครที่ยังไม่มีโอกาสมาเยือนเมืองบาดาล แนะนำว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุด ซึ่งจะเห็นเมืองบาดาลได้คือ ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายนที่น้ำในเขื่อนลดลง ต่ำสุด
ส่วนคนที่มาเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่ประมาณตุลาคม – มกราคม อาจจะได้เห็นแค่บางส่วนของตัวโบสถ์ที่โผล่พ้นน้ำ หรือบางทีก็จมน้ำเป็นเมืองบาดาล จะมีให้เห็นก็เพียงแต่ยอดหอระฆังเดิมเท่านั้นที่สูงพ้นน้ำ
สำหรับวัดวังก์วิเวการาม ที่สร้างขึ้นใหม่ ภายในงดงามไปด้วยด้วยศิลปะแบบมอญ มีหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าคนจริงปั้นเป็นรูปหลวงพ่ออุตตมะ นั่งอยู่บนบังลังก์หน้าประสาทหลังใหญ่ 9 ยอดที่ใช้เก็บสังขารของท่าน มีพระพุทธรูปหินอ่อน งาช้างแมมมอธ และเจดีย์พุทธคยาจำลอง ซึ่งจำจำลองแบบจาก เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย โดยเริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2518 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2529
การเดินทาง : จากตัวเมืองกาญจนบุรีไปตามทางหลวงหมายเลข 323 สายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ- สังขละบุรี แล้วเช่าเรือหางยาวท่องเที่ยวในทะเลสาบ รวมทั้งไปเยี่ยมชมเมืองบาดาล
ข้อมูล : travel.thaiza.com / wiki / ceediz
ภาพ : เฟซบุ๊ค สังขละบุรี – Sangklaburi / thai.tourismthailand
เรียบเรียงโดย : Travel MThai