จุดชมวิวเขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ที่เที่ยวเดือนตุลาคม ทุ่งดอกไม้ป่า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ภูกระดึง ภูลังกา ภูหินร่องกล้า หุบป่าตาด อุทยานภูหินร่องกล้า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เทศกาลบั้งไฟพญานาค เที่ยวหน้าฝน แม่กำปอง

10 ที่เที่ยวเดือนตุลาคม ช่วงปลายฝนต้นหนาว ไปไหนดี

เดือนตุลาคม ช่วงเวลาแห่งปลายฝน จวนเจียนจะเข้าสู่หน้าหนาว Travel.MThai ก็มีสถานที่ท่องเที่ยว 10 แห่ง มาแนะนักเดินทางทุกท่านอีกเช่นเคย ไม่ว่าจะขึ้นเขา เข้าป่า ชมทะเลหมอก ทุ่งดอกไม้ และอีกมากมาย บอกเลยว่าควรหาเวลาไปสักที่สองที่ รับรองไม่มีผิดหวัง 10…

Home / TRAVEL / 10 ที่เที่ยวเดือนตุลาคม ช่วงปลายฝนต้นหนาว ไปไหนดี

เดือนตุลาคม ช่วงเวลาแห่งปลายฝน จวนเจียนจะเข้าสู่หน้าหนาว Travel.MThai ก็มีสถานที่ท่องเที่ยว 10 แห่ง มาแนะนักเดินทางทุกท่านอีกเช่นเคย ไม่ว่าจะขึ้นเขา เข้าป่า ชมทะเลหมอก ทุ่งดอกไม้ และอีกมากมาย บอกเลยว่าควรหาเวลาไปสักที่สองที่ รับรองไม่มีผิดหวัง

10 ที่เที่ยวเดือนตุลาคม
ปลายฝนต้นหนาว ไปไหนดี

1. ภูกระดึง จ.เลย

วันที่ 1 ตุลาคม 2562 นี้  ภูกระดึง พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวขาผจญภัยอีกครั้ง ที่นี่มีระดับความสูงอยู่ระหว่าง 400 – 1,200 เมตร ต้องใช้เวลาในการเดินเท้าขึ้นไป 4-5 ชั่วโมง ผ่านซำ หรือจุดแวะพักต่าง ๆ ตั้งแต่ ปางกกค่า ซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก พร่านพรานแป ซำกกหว้า ซำกกโดน จนถึงซำแคร่ 

บนภูกระดึง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ทั้ง สระอโนดาต ผาหล่มสัก (จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก) ผานกแอ่น (จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น) ผาแดง ผาเหยียบเมฆ น้ำตกสอเหนือ น้ำตกธารสวรรค์ เป็นต้น

2. ทุ่งดอกไม้ป่า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี

ช่วงปลายฝนต้นหนาว ประมาณเดือนตุลาคม บริเวณลานหินเหนือน้ำตกสร้อยสวรรค์ ภายในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จะถูกเติมแต่งสีสันด้วยดอกไม้ป่าที่พร้อมใจกันผลิดอกบานสะพรั่ง เช่น สร้อยสุวรรณ (ดอกหญ้าสีเหลือง) ดุสิตา (หญ้าข้าวก่ำน้อย) มณีเทวา (กระดุมเงิน) สรัสจันทร (หญ้าหนวดเสือ) ทิพเกสร (หญ้าฝอยเล็ก) รวมถึงดอกไม้ป่าอื่นๆ ที่ขึ้นแทรกแซม นับเป็นทุ่งดอกไม้ป่าบนลานหินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย โดยจะมีให้ชมไปจนถึงเดือนมกราคมของทุกปี

3. จุดชมวิวเขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

จุดชมวิวเขาแดง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขาสามร้อยยอดและท้องทะเลอ่าวไทยแบบ 360 องศา ยิ่งถ้าขึ้นไปช่วงเช้าหรือเย็น ๆ จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก การจะเดินขึ้นไปพิชิต จุดชมวิวเขาแดง ซึ่งมีระยะทางประมาณ 725 เมตร ได้นั้นต้องการศัยความอดทนพอควร อาจจะดูเหมือนไม่ไกลมากนัก แต่ใช้เวลาในการเดินจริง ๆ ประมาณ ครึ่งถึงชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะเส้นทางเต็มไปด้วยเนินโขดหินสลับซับซ้อน ควรเดินอย่างระมัดระวัง

4. บ้านจ่าโบ จ.แม่ฮ่องสอน

บ้านจ่าโบ เป็นชุมชนเล็ก ๆ ของชาวมูเซอ ซ่อนตัวอยู่ในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่อนสอน จังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งหุบเขาและสายหมอก บ้านจ่าโบเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักได้ พร้อมสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวเผ่าที่ใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ตกกลางคืนถ้าโชคดีฝนไม่ตกก็จะเห็นดาวส่องประกายทั่วท้องฟ้า ตื่นตอนเช้าก็ฟินกับทะเลหมอกขาวโพลนที่โผล่มาทักทายเราถึงหน้าบ้านพัก หรือถ้ายังไม่จุใจ สามารถติดต่อที่พักให้พาขึ้นไปชมวิวบน ดอยภูผาหมอก ได้ ระยะทางประมาณ 300 เมตร บางจุดต้องปีนโขดหินด้วย บอกเลยว่าถึงเหนื่อยที่เดินขึ้นแต่ก็คุ้มค่า เพราะจากดอยนี้เราจะเห็นหมู่บ้านจ่าโบทั้งหมด และทิวเขาสูงสลับซับซ้อนยาวไกลสุดลูกหูลูกตา

ไฮไลท์! มาเที่ยวที่นี่แล้วอย่าลืมไปทานก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ นั่งทานแบบ open air รับลมธรรมชาติแบบ 360 องศา ราคาไม่ถึง 50 บาท แต่บรรยากาศหลักล้านไปเลย

5. เทศกาลบั้งไฟพญานาค หนองคาย 

วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ช่วงเทศกาลออกพรรษาของทุกปี จะมีประเพณีที่ยิ่งใหญ่ในภาคอีสาน นั่นคือ งานบุญบั้งไฟพญานาค ลักษณะบั้งไฟพญานาค จะเป็นดวงไฟขนาดเล็ก สีแดงอมส้ม ซึ่งพวยพุ่งขึ้นมาจากลำน้ำโขงทะยานสู่ฟากฟ้า ค้างอยู่หลายวินาที ก่อนจะหายลับไปกับตา สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้คนที่ไปรอชมอยู่ริมฝั่งโขง 

สำหรับงานบุญบั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคาย ปีนี้จัดขึ้นที่ เทศบาลเมืองหนองคาย ณ ลานวัฒนธรรม หน้าวัดลำดวน ระหว่างวันที่ 10 – 16 ตุลาคม 2562 และอีกที่คือ อำเภอโพนพิสัย (งานโพนพิสัยบั้งไฟพญานาคโลก) ระหว่างวันที่ 12- 21 ตุลาคม 2562

6. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ช่วงปลายต้นฝนต้นหนาว เหมาะกับการมาเที่ยว ภูทับเบิก ที่สุด เพราะอากาศกำลังเย็นสบาย ไม่ร้อนและหนาวจนเกินไป อีกยังมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกขาวโพลนลอยละล่องเหนือยอดเขาเกือบตลอดทั้งวัน รวมถึง ไร่กะหล่ำปลีอันกว้างใหญ่ ที่เรียงรายสลับซับซ้อนกันไปตามแนวระลอกเนินเขา ซึ่งกะหล่ำเหล่านี้จะโตช่วงแรกคือ เดือน มิถุนายน-สิงหาคม และช่วง 2 คือ เดือนตุลาคม-กลางธันวาคม

7. แม่กำปอง จ.เชียงใหม่

แม่กำปองเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าเขาลำเนาไพร มีลำธารใสเย็นไหลพาดผ่าน เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ และอยากจะหลีกหนีความวุ่นวาย มาฝากตัวฝากใจสักคืนสองคืน ตื่นเช้ามาดื่มด่ำบรรยากาศดี ๆ รับอากาศบริสุทธิ์ มาเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในหมู่บ้าน ในแบบที่หาดูได้ยากจากสังคมเมือง

8. ภูลังกา จ.พะเยา

วนอุทยานภูลังกา หรือ ภูลังกา ตั้งอยู่ที่ อำเภอเชียงคำ และอำเภอปง จังหวัดพะเยา มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง แต่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “ภูเทวดา” เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในเทือกเขาสันปันน้ำ ไทย-ลาว และชมทะเลหมอกได้สวยที่สุดอีกด้วย

นอกจากนี้ยังตื่นตาไปกับ ทุ่งดอกโคลงเคลง ซึ่งจะบานราวเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม ของทุกปี

9. อุทยานภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

อุทยานภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บนพื้นที่รอยต่อของ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เลย และเพชรบูรณ์ สภาพอากาศที่นี่เย็นสบายตลอดปี ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่ใคร ๆ ก็อยากจะมาสัมผัสอากาศดี ๆ บริสุทธิ์

ภายในอุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวหลายทั้งทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนการเมืองการทหาร, น้ำตกร่มเกล้า-ภราดาดร, น้ำตกหมันแดง, ลานหินปุ่ม, ผาชูธง ลานหินแตก ตลอดจนจุดชมวิวริมหน้าผา อย่างผาบอกรัก  ผาพบรัก ผาคู่รัก ผารักยืนยง และ ผาสลัดรัก ที่เราสามารถขึ้นไปยืนรับลมชมทิวทัศน์ผืนป่าอันเขียวชอุ่ม

10. หุบป่าตาด จ.อุทัยธานี

หุบป่าตาด มีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ด้านในเต็มไปด้วย ต้นตาด จำนวนมาก บรรยากาศคล้ายกับดินแดนจูราสสิคเลยทีเดียว

ที่นี่อยู่ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าถ้ำประทุน มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 700 เมตร นอกจากพันธ์ุไม้หายากแล้ว ยังมี “กิ้งกือมังกรสีชมพู” สัตว์ป่าดึกดำบรรพ์ ที่สามารถพบได้ช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี

ขอบคุณรูปภาพจาก : หมู่บ้านโฮมสเตย์แม่กำปอง ,TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง, cbtbaanjabo