7 ที่พักสโลว์ไลฟ์ นอนหนาวๆ อิงแอบธรรมชาติ

มันคงจะดีไม่น้อย หากมีนาฬิกาปลุกเป็นแสงอาทิตย์ยามเช้า หรือทะเลหมอกขาวนวล ไม่ใช่เสียงรถราที่วิ่งบนท้องถนนและผู้คนที่พลุกพล่าน ตื่นขึ้นมาก็ได้เห็นวิวทิวทัศน์ของทุ่งหญ้า ทุ่งนา และหุบเขารายล้อม ไม่ใช่ตึกระฟ้าที่ตั้งเบียดเสียดกันแลดูอึดอัด วันนี้ Travel MThai เลยจะพาไปใช้ชีวิตเนิบๆ ช้าๆ กับ 7 ที่พักสโลว์ไลฟ์…

Home / TRAVEL / 7 ที่พักสโลว์ไลฟ์ นอนหนาวๆ อิงแอบธรรมชาติ

มันคงจะดีไม่น้อย หากมีนาฬิกาปลุกเป็นแสงอาทิตย์ยามเช้า หรือทะเลหมอกขาวนวล ไม่ใช่เสียงรถราที่วิ่งบนท้องถนนและผู้คนที่พลุกพล่าน ตื่นขึ้นมาก็ได้เห็นวิวทิวทัศน์ของทุ่งหญ้า ทุ่งนา และหุบเขารายล้อม ไม่ใช่ตึกระฟ้าที่ตั้งเบียดเสียดกันแลดูอึดอัด วันนี้ Travel MThai เลยจะพาไปใช้ชีวิตเนิบๆ ช้าๆ กับ 7 ที่พักสโลว์ไลฟ์ นอนหนาวๆ อิงแอบธรรมชาติ กลางทุ่งนา ป่า เขา ซึ่งอาจดูไม่หรู แต่รับประกันว่าน่าอยู่สุดๆ ถูกอกถูกใจหลายคนที่กำลังมองหาที่พักหน้าหนาวไว้เที่ยวปลายปีแน่นอน

7 ที่พักสโลว์ไลฟ์ นอนหนาวๆ อิงแอบธรรมชาติ

1. ไร่แสงอรุณ รีสอร์ท จ.เชียงราย

ขอบคุณรูปภาพจาก ไร่แสงอรุณ

ไร่แสงอรุณ รีสอร์ท ที่พักหลังน้อยๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ใกล้ชิดกับวิวทิวเขา ติดลำน้ำโขง และทุ่งข้าวรายล้อม ก่อสร้างและตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติ สไตล์ล้านนา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรผสมผสานกับรีสอร์ทเพื่อสุขภาพ โดยรอบๆ ของรีสอร์ท จะมีการปลูกพืช ทำไร่ ทำนา เพื่อนำผลผลิตที่ได้มาประกอบอาหารให้กับแขกที่เข้าพัก ในช่วงฤดูหนาวทางรีสอร์ทจะปลูกสตอรเบอรี่ให้เก็บทานได้สดๆ จากไร่ รวมถึงผลไม้และพืชผักเมืองหนาว นอกจากฟินกับสตรอเบอรี่ลูกโตแล้ว ยังฟินกับทะเลหมอกขาวโพลนที่มาเยือนระเบียงหน้าห้องพักในยามเช้า ใครจะไปพัก ห้ามพลาดมุมไฮไลท์ นั่นคือสะพานทางเดินไม้ พาดผ่านกลางทุ่งนาเป็นระยะทางกว่า 200 เมตร ไปยืนถ่ายรูปชิคๆ ท่ามกลางรวงข้าวสีทองอร่าม ระหว่างปลายพ.ย.– ต้นธ.ค.

2. บ้านกกกอด จ.กาญจนบุรี

ขอบคุณรูปภาพจาก บ้านกกกอด กาญจนบุรี

หนีความวุ่นวายเมืองกรุง มาใช้ชีวิต slow life ที่บ้านกกกอด จ.กาญจนบุรี … ที่นี่ไร้แสงสีเสียง ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น มีเพียงภูเขา สายลม แสงแดด สายน้ำ และแสงดาวบนฟากฟ้า ห้องพักมีทั้งแบบพัดลม และแอร์ มีห้องน้ำในตัวและห้องน้ำรวม ทุกหลังมีระเบียงหน้าบ้านไว้ออกมานั่งดูดาวรับลมเย็นๆ ยามค่ำคืน

ที่พักติดริมน้ำ ไม่เล่นน้ำคงไม่ได้! ใครที่เบื่อๆเหงาๆ ไม่อยากอยู่ห้อง ก็ออกมากระโดดน้ำเล่นบริเวณแพริมน้ำด้านหน้า นั่งอ่านหนังสือเพลินๆ สักเล่ม หรือจะฝึกกำลังแขนด้วยการพายเรือคายัคชมวิวเขื่อน ท้องฟ้า และภูเขาลูกเขียวๆ ก็ตามแต่สะดวก หรือจะไปเดินทอดน่องช้าๆ บนสะพานไม้ไผ่ ที่ทอดยาวสู่ริมน้ำ ก็จะได้อีกฟิลลิ่งหนึ่งที่ต่างกันไป

3. ตูบนาโฮมสเตย์ จ.น่าน

ขอบคูณรูปภาพจาก ตูบนาโฮมสเตย์ 

ตูบนาโฮมสเตย์ ที่พักริมทุ่ง ในอำเภอปัว จังหวัดน่าน เหมาะกับใครที่กำลังมองหาความสงบสุขและเป็นส่วนตัว เพราะที่นี่มีบริการห้องพักเพียง 4 ห้องเท่านั้น หากห้องพักเต็ม หรือใครอยากนอนแนบชิดธรรมชาติ ที่ตูบนาก็มีลานกางเต๊นท์ไว้บริการ นอกจากนี้บ้านพักบางหลังก็มีดาดฟ้าสำหรับขึ้นไปชมดาวในบรรยากาศสุดโรแมนติก และอิ่มอร่อยกับขันโตกมื้อเย็นบริเวณลานกว้างหน้าบ้านพัก หากมาหน้าหนาวซึ่งเป็นฤดูที่เก็บเกี่ยวข้าวไปแล้ว คงไม่เห็นทุ่งนาเขียวขจี แต่ยังมีทัศนียภาพของทิวเขาที่โอบกอดทั่วทั้งตูบนาโฮมสเตย์

4. สายชล โฮมสเตย์ แม่กำปอง จ.เชียงใหม่

ขอบคุณรูปภาพจาก สายชลโฮมสเตย์

มานอนฟังเสียงลำธารไหลเอื่อยๆ บรรยากาศชิลล์ๆ เย็นสบาย ที่สายชล โฮมสเตย์ … ที่นี่เป็นบัานไม้สองชั้น และมีชั้นใต้ดินอีกหนึ่งชั้น ห้อมล้อมด้วยแมกไม้และป่าเขา ด้านหลังติดกับลำธารเล็กๆ ที่ไหลมาจากน้ำตกแม่กำปอง มีบริการทั้งห้องพัก และเต๊นท์ ในส่วนของเต๊นท์ ทางที่พักจะกางเต๊นท์รอแขกผู้เข้าพักไว้บนชั้น 1 และชั้นใต้ดิน ขณะเดียวกันชั้น 1 ยังมีพื้นที่ส่วนกลาง ไว้นั่งพูดคุย ทานข้าว และมีห้องครัวด้วย สำหรับชั้นบนสุดเป็นห้องพักที่มีเพียงฟูกพร้อมเครื่องนอนเท่านั้น ผู้เข้าพักสามารถไปเดินเล่นที่ลำธารด้านหลังที่พักได้ หรือนั่งบนโขดหินแล้วเอาเท้าจุ่มน้ำ ก็ฟินไปอีกแบบ พอตกเย็นก็มีอาหารพื้นบ้านรสชาติเลอค่า ให้เติมได้ไม่อั้น นั่งกินแบบขันโตกตามสไตล์ชาวเหนือ ใครมาเข้าพักบอกได้เลยว่า คุณจะได้รับการดูแลอย่างดี และการบริการที่น่ารัก เป็นกันเองจากเจ้าของ จนรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่กับคนในครอบครัวเลยล่ะ

5. ฐิโนทัย โฮมสเตย์ อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

ขอบคุณรูปภาพจาก ฐิโนทัย โฮมสเตย์

พาเดินเลียบคลองอัมพวา เข้าเช็คอินที่ฐิโนทัย โฮมสเตย์ บ้านไม้ 2 ชั้น อยู่ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาเพียง 500 เมตร บ้านพักมีสองบรรยากาศ คือบ้านวิวสวนผลไม้ จำนวน 5 หลัง และบ้านหลังใหญ่ริมคลอง จำนวน 1 หลัง เหมาะกับการมาพักผ่อนกับครอบครัว สังสรรค์กับเพื่อน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตักบาตรพระทางเรือตอนเช้าตรู่ เล่นน้ำ ตกปลา ล่องเรือชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน หรือขี่จักรยานของทางที่พักไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา พร้อมของกิน ของฝากกลับมาเต็มตระกร้ารถ

6. Pino Latte Resort & Cafe
เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

อ่านรีวิวเพิ่มเติมที่ Pino Latte เขาค้อ 

ใครชอบถ่ายภาพ อยากลิ้มลองเบเกอรี่อร่อยๆ พร้อมดูวิวทะเลหมอกแบบพาโนรามา ที่ Pino Latte Resort & Cafe ตอบโจทย์ครบ ซึ่งเป็นหนึ่งในที่พักและคาเฟ่ยอดฮิตสำหรับคนที่เดินทางมาเที่ยว เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ด้านบนเป็นร้านคาเฟ่ฮิปๆ ดัดแปลงมาจากตู้คอนเทนเนอร์ มีเมนูทั้งของคาว ของหวาน เบรคฟาสต์ และเครื่องดื่มหลากรสชาติ จุดเด่นคือด้านหน้าร้าน เป็นจุดชมวิววัดผาซ่อนแก้วที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเขา พร้อมทัศนียภาพที่สวยงาม 360 องศา ส่วนที่พักจะอยู่ด้านล่าง ตกแต่งสไตล์ Boutique Resort มีห้องพักเพียง 5 ห้องเท่านั้น เน้นความเรียบง่ายแต่ดูหรู ตื่นเช้ามาไม่ต้องลุกจากเตียง เราก็สามารถเห็นหมอกยามเช้าได้แบบเต็มสองตา เหมาะกับเป็นที่พักหน้าหนาวสำหรับปลายปีนี้เสียจริง

7. ภูลังกา บ้านสวน จ.พะเยา

อ่านรีวิวเพิ่มเติมที่ ภูลังกา รีสอร์ท ที่พักหลักร้อย

 ภูลังกาบ้านสวน อีกหนึ่งที่พักหน้าหนาว ยืนดูทะเลหมอกชิลๆ หน้าห้องพัก หรือชื่อเดิมที่หลายคนคุ้นหูดีคือ ภูลังการีสอร์ท บ้านพักขนาดกระทัดรัด ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา บนเขาภูลังกา ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของจังหวัดพะเยา ห้องพักตกแต่งสไตล์เรียบง่าย มีวิวด้านล่างเป็นแอ่งกระทะ และเขาหินปูนเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายสลับกัน ไฮไลค์ของการมาพักผ่อนคือการตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นหน้ารีสอร์ท ที่ส่องแสงกระทบกับทะเลหมอกในแอ่ง เกิดภาพสวยงามเกินจินตนาการ