ปีมังกรทอง มูเตลู วัดเจ้าแม่ทับทิม วัดโยนส้ม ฮ่องกง เทพเจ้าห้ามังกร

เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง EP.2 สักการะ เทพเจ้าห้ามังกร – โยนส้มขอพร วัดเจ้าแม่ทับทิม UNSEEN ขั้นสุด! ตำนานเล่าขาน

เริ่มต้นปีมังกรทองด้วยการทะยานขึ้นสู่ที่ราบสูง ‘นองปิง’ ไหว้พระใหญ่ วัดโป่หลิน เป็นการเริ่มทริป เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง ที่ฮ่องกง กันไปแล้วใน EP.1 วันนี้ Mthai จะพาทุกท่านไปต่อกันที่ EP.2 คอนเฟิร์มว่าสายเที่ยว-สายมู ทั้งในระดับเซียนและมือใหม่ ต้องประทับใจอย่างแน่นอน

Home / TRAVEL / เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง EP.2 สักการะ เทพเจ้าห้ามังกร – โยนส้มขอพร วัดเจ้าแม่ทับทิม UNSEEN ขั้นสุด! ตำนานเล่าขาน

เริ่มต้น ปีมังกรทอง ด้วยการทะยานขึ้นสู่ที่ราบสูง ‘นองปิง’ ไหว้พระใหญ่ วัดโป่หลิน เป็นการเริ่มทริป เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง ที่ฮ่องกง กันไปแล้วใน EP.1 วันนี้ Mthai จะพาทุกท่านไปต่อกันที่ EP.2 คอนเฟิร์มว่าสายเที่ยว-สายมู ทั้งในระดับเซียนและมือใหม่ ต้องประทับใจอย่างแน่นอน

และใน EP. นี้ อาจารย์คฑา ชินบัญชร กูรูชื่อดังผู้เชี่ยวชาญด้านมูเตลู จะยังคงอยู่กับเราตลอดทริป คอยแนะนำสถานที่ขอพรสุด Unseen ในฮ่องกง ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ พร้อมเผยเคล็ดลับสักการะเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแบบที่ถูกต้อง อาจารย์ย้ำว่าหากเราขอพรอย่างถูกต้อง จะนำพาให้เราประสบพบเจอกับความสมหวังตามคำขอ เอาล่ะ! พร้อมกันหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วทำจิตใจให้นิ่ง แล้วตามไปเปิดเส้นทางสายมูรับปีมังกรทองกันได้เลย

EP.2 สักการะ เจ้าแม่ทับทิม – เทพเจ้าห้ามังกร : สายมูมือใหม่คงจะเซอร์ไพรส์เป็นพิเศษ เพราะ Mthai พาทุกท่านไปมูเตลูยังวัดเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองและย่านเศรษฐกิจของฮ่องกง นั่นคือ ‘เจ้าแม่ทับทิมย่านนัมชุง’ (Nam Chung Tin Hau Temple) เรียกว่าเป็นวัดที่ Unseen สุดๆ เลยก็ว่าได้ เพราะนักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่จะรู้ ข้อมูลจากอาจารย์คฑาเผยว่า มีคนไทยเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่ได้มาสักการะขอพร ณ ที่แห่งนี้ สัมผัสแรกที่มาถึงคือความเงียบสงบร่มรื่น เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยาน Pat Sin Leng Country Park ริมอ่าว Starling Inlet ซึ่งบริเวณนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเซินเจิ้นได้ด้วย

การเดินทางมายังวัด เนื่องจากถนนโดยรอบมีลักษณะแคบและคดเคี้ยว จึงอนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถมินิบัสเข้าได้เท่านั้น แต่สายมูไม่ต้องกังวลหากจำเป็นต้องเดินเท้า เพราะสามารถเดินไปได้สบายๆ โดยใช้เวลาราว 10-15 นาที และวิธีนี้จะทำให้ทุกท่านได้ชื่นชมธรรมชาติและเก็บภาพได้อย่างเต็มที่อีกด้วย ความมหัศจรรย์ของวัดจะมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีความเป็นสิริมงคล บริเวณริมอ่าวมีเกาะขนาดเล็กตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเทพเจ้ามังกร เกาะนี้จึงเปรียบเสมือนไข่มุกที่ปากมังกรนั่นเอง

ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่ทับทิมและเทพเจ้าห้ามังกร สัญลักษณ์ของโชคลาภ ความสุข และอายุยืนยาวในปีมหามังกร ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันว่า เด็กหญิงคนหนึ่งบังเอิญไปพบไข่ปริศนาห้าฟอง เธอเก็บไข่ทั้งห้ามาฟูมฟัก แต่เมื่อไข่ฟักออกมากลับกลายเป็นตัวอ่อนของสิ่งมีชีวิตประหลาด เป็นที่รังเกียจของคนทั่วไป แต่เด็กหญิงยังดูแลสิ่งมีชีวิตทั้งห้าเป็นอย่างดี จนเติบโตเป็นเจ้าพญามังกรทั้งห้าองค์ ประจำทะเลทั้ง 4 ทิศ และดินแดนสวรรค์

อาจารย์คฑาแนะนำว่าเมื่อมาถึงวัด ให้เริ่มต้นสักกระองค์พระประธานและศาลเจ้าแม่ทับทิมก่อน โดยเจ้าแม่ทับทิมเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่คนฮ่องกงศรัทธา เพราะบันดาลความสงบแก่ชีวิตผู้กราบไหว้ เป็นเทพเจ้าที่คนในพื้นที่แถบริมทะเลและชาวประมงให้ความนับถือ เนื่องจากคอยคุ้มครองให้การเดินเรือปลอดภัย จบจากสักการะองค์พระประธานและศาลเจ้าแม่ทับทิม ค่อยลงไปสักการะองค์เทพเจ้ามังกรทั้งห้าที่อยู่ด้านล่าง ด้วยธูปและผลไม้ห้าชนิดได้แก่ แอปเปิ้ล ส้ม ส้มโอ องุ่น และ กล้วย เทพเจ้าห้ามังกรจะดลบันดาลให้ผู้ขอพรประสบความสำเร็จ ระหว่างไหว้แนะนำให้นึกถึงพระคุณของแม่ เฉกเช่นพญามังกรที่สำนึกในบุญคุณของเด็กหญิงที่เปรียบเสมือนมารดาผู้ให้กำเนิด และอาจารย์คฑาย้ำว่า เอ่ยชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และพรที่อยากได้ให้ชัดเจน เผื่อผลลัพท์ที่น่าพอใจ

ต้นไม้ขอพร โยนส้มเสี่ยงทายดวงชะตา : ฮ่องกงเป็นเกาะที่มีจำนวนตึกระฟ้ามากที่สุดในโลก รวมถึงมีประเพณีทางวัฒนธรรมอันงดงามด้วย ‘ต้นไม้ขอพรหลัมซุน’ (Lam Tsuen Wishing Trees) ก็เช่นกัน เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนฮ่องกงมักจะมาขอพร ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่า สามีภรรยาคู่หนึ่ง ฝ่ายชายต้องเดินทางไกลเพื่อเข้าเมือง ก่อนแยกกันทั้งสองได้อธิษฐานจิตใต้ต้นส้มและโยนส้มขึ้นไปบนต้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปสามีกลับมีเหตุให้หลงลืมภรรยา ทำให้ภรรยาเสียใจไปร้องไห้ที่ต้นส้มต้นเดิม ทันใดนั้นลมได้พัดเอากระดาษขอพรที่สามีได้ไปขอพรกับผู้หญิงคนใหม่ตกลงมาให้เห็นต่อหน้า ภรรยาจึงตั้งจิตอธิษฐานกับต้นส้มอีกครั้ง วอนขอให้สามีกลับมาหาตน เมื่อสามีมีโอกาสกลับมาที่ต้นส้มอีกครั้ง กระดาษขอพรของภรรยาเก่าก็ตกลงมา ทำให้เขาจำภรรยาได้อีกครั้ง จากตำนานทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการขอพรเรื่องความรัก โดยปัจจุบันทุกช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งถือเป็นปีใหม่ ผู้คนจะหลั่งไหลมาขอพรเพื่อเริ่มต้นปีอย่างเป็นมงคล แต่ต้นส้มที่ใช้โยนส้มขอพรในปัจจุบัน เป็นต้นส้มที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนไม่ให้ต้นส้มของจริงเกิดการบอบช้ำจากการโยนส้มขอพร

ในส่วนของขั้นตอนการอธิษฐาน เริ่มจากการเขียนคำขอลงบนแผ่นกระดาษขอพร มัดกระดาษด้วยเชือกสีแดงที่ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งถ่วงน้ำหนักด้วยลูกส้ม ตั้งจิตอธิษฐานโดยแนะนำให้ขอเพียงหนึ่งข้อเท่านั้น จึงจะได้ผล 100% หากขอหลายข้อผลลัพธ์จะเฉลี่ยกันไป เมื่ออธิษฐานจบให้โยนเชือกขึ้น ให้กระดาษพ่วงส้มไปติดกับกิ่งไม้ให้สำเร็จ คำอธิษฐานนั้นจึงจะเป็นจริง หากกระดาษและส้มหล่นลงมา ต้องโยนใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะติดกับกิ่งไม้ อาจารย์คฑาเผยเคล็ดลับว่า หากเราขอพรหลายๆ เรื่อง จิตเราจะฟุ้งซ่าน ไม่จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ขอเพียงหนึ่งเดียว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนจึงไม่สมหวังเวลาขอพร

อิ่มท้องด้วยสตรีทฟู้ด ถนนคนเดิน-ตลาดกลางคืน Temple Street Night Market : ว่ากันว่าการได้กินของดีของอร่อยก็เป็นมงคลแก่ชีวิต ดังนั้นเราจึงปิดจบ EP.2 อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการกลับเข้าตัวเมือง เดินเที่ยวถนนคนเดินยามค่ำคืนย่าน Temple Street เนื่องจากวัดเคยเป็นแหล่งรวมตัวพบปะสังสรรค์ของคนฮ่องกงในสมัยก่อน เมื่อจบกิจกรรมในวัด ผู้คนมักจะออกมาสังสรรค์ต่อด้านนอก จึงทำให้พื้นที่รอบวัดคึกคักไปด้วยแผงขายของ ของเหล่าพ่อค้าแม่ขายจนกลายเป็นถนนคนเดินเฉกเช่นปัจจุบัน ซึ่ง Temple Street Night Market มีทั้งอาหารคาวและขนมหวานสไตล์ฮ่องกงที่ได้รับรางวัลมิชลินไกด์ พิเศษด้วยสองข้างทางของ Temple Street ประดับประดาด้วยงานศิลปะ Installation ไฟนีออน ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพจำของฮ่องกงที่มีมายาวนาน ให้นักท่องเที่ยวได้ตามถ่ายรูปกันหลายจุด โดยจะจัดตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2567 เรียกว่าอิ่มใจไปกับการมู และอิ่มปากไปกับของอร่อยแห่งเกาะฮ่องกง EP. หน้าจะเป็น EP. สุดท้ายของทริป ‘เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง’ ฮ่องกงจะมีอะไรพิเศษรอนักท่องเที่ยวสายมูอยู่ รอติดตามกันใน EP.3 ได้เลย

เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง EP.1 https://mthai.com/travel/359093.html

เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง EP.3 https://mthai.com/travel/359265.html