นอกจากจะเป็นเมืองที่ทันสมัย และเป็นเกาะที่มีจำนวนตึกระฟ้ามากที่สุดในโลกแล้ว ฮ่องกง ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการ มูเตลู อีกด้วย ถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของนักศรัทธาเลยก็ว่าได้ เพราะฮ่องกงโดดเด่นในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์และความสมปรารถนา ผู้คนจากทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศไทยนิยมเดินทางไปสักการะบูชาและขอพรเทพเจ้า เมื่อสำเร็จแล้วก็เดินทางกลับไปขอบคุณกันอย่างไม่ขาดสาย
ซึ่งหากเอ่ยถึงวัดและเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ของ ฮ่องกง หลายคนคงรู้จักและคุ้นเคยกันดีจากคำบอกเล่าปากต่อปาก แต่รู้ไหมว่า ฮ่องกงนั้นยังมีวัดอีกหลากหลายที่ ที่นักท่องเที่ยว สายมู หลายคนยังไม่ทราบว่ามีอยู่ หรืออาจจะยังไม่รู้จักเท่าที่ควร รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์ของฮ่องกง ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งท่องเที่ยว แต่ยังช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตของผู้ไปเยือนด้วย
และแน่นอน! ต้อนรับปีมังกรทอง 2567 นี้ Mthai จะขอพาทุกท่านไป เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง ที่ ฮ่องกง กัน มัดรวมวัดดังในแบบฉบับ Unseen ไปพร้อมกูรูสายมูชื่อดัง อาจารย์คฑา ชินบัญชร ที่จะมาเปิดเคล็ดลับสักการะเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแบบที่ถูกต้อง เพราะการมูเตลูที่ถูกหลักและถูกต้อง จะนำพาให้นักท่องเที่ยวสายมูทั้งมือเก่าและมือใหม่ ประสบสมหวังดั่งใจปรารถนากับสิ่งที่ขอ ถ้าพร้อมตามรอยแล้ว ไปลุย EP.1 กันเลย!
EP.1 นองปิง 360 ขึ้นกระเช้า ไหว้พระใหญ่ วัดโป่หลิน : การเดินทางขึ้นที่สูงถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ดังนั้น EP.1 ของทริป ‘เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง’ ที่ฮ่องกง เราจึงเริ่มต้นด้วยการทะยานขึ้นสู่ที่ราบสูง นองปิง ซึ่งถือเป็นไฮไลท์อีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาฮ่องกง หากใครมาฮ่องกงแล้วไม่ขึ้น กระเช้า Ngong Ping 360 เหมือนมาไม่ถึงฮ่องกงก็ว่าได้ นอกจากจะได้นั่งกระเช้าชมวิวทะเลของเกาะลันเตาและอ่าวตุงชุงแล้ว จุดมุ่งหมายสำคัญของการนั่งกระเช้านี้ก็เพื่อเดินทางขึ้นไปสักการะองค์พระใหญ่ วัดโป่หลิน (Po Lin Monastery) วัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 115 ปี วัดโป่หลินที่แปลเป็นไทยความหมายว่า ‘วัดดอกบัวศักดิ์สิทธิ์’ นั่นเอง
โชคดีมากๆ ที่ในทริปนี้ อาจารย์คฑา และไกด์ท้องถิ่น พา Mthai พร้อมเพื่อนร่วมทริปไปกราบนมัสการรองเจ้าอาวาสของวัด ซึ่งท่านเป็นคนไทยที่มีบ้านเกิดอยู่ จ.นครปฐม ท่านให้ข้อมูลว่าเรือนอาคารในวัดแห่งนี้ถูกออกแบบได้อย่างถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย และจะสร้างให้ไม่ติดกันเพื่อถ่ายเทอากาศ รวมถึงป้องกันการลุกลามหากเกิดเหตุไฟไหม้ มีอุโบสถหลัก (Main Shrine Hall of Buddha) ตั้งอยู่ใจกลางวัด เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธเจ้า 3 องค์ในนิกายมหายาน นั่นคือ 1.พระศากยมุนี ผู้มอบสติปัญญาให้กับมนุษย์ 2.พระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุฯ ประทานพรด้านสุขภาพ ให้หายป่วยในเร็ววัน 3.พระอมิตาภพุทธะ ประทานพรให้จิตใจสงบสุขผ่องใส
และต้องเรียกว่าพิเศษสุดๆ กับทริป ‘เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง’ ที่ฮ่องกง ในครั้งนี้ เพราะหลายคนยังไม่รู้ว่าบริเวณด้านหลังอุโบสถหลักของวัดโป่หลิน ยังมีอาคารอีกหนึ่งหลังที่ชื่อว่า Grand Hall of Ten Thousand Buddhas อาคารสำหรับจัดนิทรรศการ กุฏิของเจ้าอาวาส และหอพระไตรปิฎก ซึ่งปกติไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม อาคารนี้เป็นสถานที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก 4 ชุดสุดท้ายแห่งราชวงศ์ฉิง นับว่าเป็นจังหวะที่ดีของ Mthai และเพื่อนร่วมทริปที่ได้รับการอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมชม โดยมีรองเจ้าอาวาส, อาจารย์คฑา และไกด์ท้องถิ่นช่วยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ที่สัมผัสได้อีกหนึ่งความพิเศษของอาคารนี้ นั่นคือหากมองจากระเบียงอาคารในชั้นหอพระไตรปิฎก จะเห็นวิวองค์พระใหญ่ได้อย่างเต็มตา งดงามและน่าประทับใจที่สุด
ในส่วนขององค์พระใหญ่ แน่นอนว่านักท่องเที่ยวสายมูนั่งกระเช้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาก็เพื่อขอพรจากองค์พระท่าน พระพุทธรูปปางประทานพร (Tian Tan Buddha) ความสูงรวมส่วนฐาน 34 เมตร ขั้นตอนการสักการะนั้นจะเริ่มต้นจากจุดรับพลังที่ด้านล่างหน้าองค์พระ โดยเริ่มจากการเอ่ยชื่อตนเอง ทำความเคารพฟ้าดินและทิศต่างๆ ซึ่ง อาจารย์คฑา เผยเคล็ดลับว่า คำขอพรต้องระบุเป้าหมาย สิ่งที่อยากได้ และระยะเวลาให้ชัดเจน ชื่อของผู้ขอก็เช่นกัน เอ่ยชัดๆ ทั้งชื่อจริง นามสกุล ที่อยู่อาศัย เทพเจ้าจะได้มองเห็นชัดเจนว่าใครขอ พร้อมกล่าวจบด้วยคำว่า ‘หมื่นคำอธิษฐานสมปรารถนา’ ถ้าทำได้เป๊ะแบบนี้ล่ะก็ คำขอบังเกิดผลแน่
จากนั้นเมื่อเดินขึ้นบันได 268 ขั้น ไปที่ฐานองค์พระ อาคารด้านในส่วนฐานเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระสารีริกธาตุ ส่วนฐานออกแบบภายนอกเป็นรูปดอกบัวมาจากชื่อของ Po Lin ที่แปลว่าดอกบัวอันล้ำค่า โดยกลีบดอกแต่ละกลีบจะสลักชื่อของผู้บริจาคของวัด มีเพียงกลีบเดียวที่สลักชื่อของพระพุทธเจ้าศากยมุนี และถ้ามองจากจุดนี้ก็จะได้สบตากับองค์พระใหญ่ตรงๆ ถือเป็นจุด Unseen เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะได้รับชมวิวภูเขาและหมู่บ้านนองปิงที่สวยงาม ในวันที่ Mthai เดินทางไปนั้น บรรยากาศเต็มไปด้วยไอหมอก งดงามน่าประทับใจมิรู้ลืม
นอกจากนี้ Mthai ยังมีโอกาสได้รำลึกถึง เหมย เยี่ยนฟาง หรือ แอนนิต้า มุย นักร้องและนักแสดงหญิงชาวฮ่องกงที่โด่งดังมาก ผู้ที่ได้รับสมญานามว่า ‘มาดอนน่าแห่งเอเชีย’ โดยเธอจากโลกนี้ไปเมื่อปี 2546 ด้วยโรคมะเร็ง และสถานที่ฝังศพของเธอคือวัดโป่หลินแห่งนี้นั่นเอง ในส่วนของผู้ที่มากราบไหว้ขอพรกับองค์พระใหญ่ หากสมหวังและกลับมาขอบคุณ บางท่านมักเลือกกลับมาด้วยการเดินวิบากซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขาจากด้านล่างมายังนองปิง นอกจากจะกลับมาแสดงความขอบคุณแล้ว ยังถือโอกาสเลือกเส้นทางนี้เพื่อสัมผัสกับวิวธรรมชาติอันงดงามของฮ่องกงอีกด้วย
อีกหนึ่งจุด Unseen ของที่นี่คือ ‘ทางเดินเท้าแห่งจิตศรัทธาในนองปิง’ หรือ Wisdom Path ผลงานศิลปะจัดวางกลางแจ้งขนาดใหญ่ชื่อว่า Heart Sutra ที่ตัวอักษรจีนแกะสลักอยู่บนเสาไม้ขนาดยักษ์ สูง 8-10 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่ที่เชิงเขาลันเตา มีการจัดเรียงเป็นลักษณะรูปเลข 8 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความไม่มีที่สิ้นสุด และสื่อถึงหลักธรรมเทศนาเรื่อง ‘การไม่ยึดติดและการไม่ปิดกั้นทางจิตใจ’ เป็นตัวอย่างของการผสมผสานหลักปรัชญาเข้ากับศิลปะได้อย่างลงตัว
ส่วนนักท่องเที่ยวสายมูที่ควบตำแหน่งสายกิน Mthai ขอแนะนำว่า ก่อนกลับให้แวะฝากท้องที่โถงรับประทานอาหารของวัดโป่หลิน ที่นี่เสิร์ฟเมนูมังสวิรัติรสชาติดีหลากหลายเมนู ถูกใจคนกินมังสวิรัติแน่นอน แต่ขอเตือนว่าหากใครจะเดินทางมาขอพรองค์พระใหญ่ เช็คข้อมูลกันสักนิดก่อนกดจองตั๋ว เพราะกระเช้านองปิง Ngong Ping 360 มีการปิดปรับปรุงชั่วคราวทุกปี โดยในปีมังกร 2567 นี้ ทำการปิดตั้งแต่วันที่ 11-21 มี.ค. เช็คกันสักหน่อยเพื่อทริปที่ยอดเยี่ยม แล้วพบกันกับ ‘เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง’ ที่ฮ่องกง ใน EP. ถัดไป
เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง EP.2 https://mthai.com/travel/359150.html
เปิดเส้นทางสายมูเตลู ฉบับปีมังกรทอง EP.3 https://mthai.com/travel/359265.html
