เที่ยวมะละกา เที่ยวมาเลเซีย

ตะลุยเที่ยวมะละกา เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ชวนให้หลง(รัก)

มะละกาเมืองท่ามรดกโลก ที่ชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมความงดงามของสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือนสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ศึกษาประวัติศาสตร์ เดินเที่ยวชิมของอร่อยถนนสายวัฒนธรรม ยองเกอร์ สตรีท (Jonker Street) หรือจะขึ้นรถสามล้อริกชอว์ เที่ยวชมรอบเมืองก็น่าสนใจไม่น้อย ใครชอบล่องเรือชมแม่น้ำมะละกา เมืองท่าที่ยิ่งใหญ่ในอดีตอย่าง “ช่องแคบมะละกา” ก็เป็นรูทน่าไป…

Home / TRAVEL / ตะลุยเที่ยวมะละกา เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ชวนให้หลง(รัก)

มะละกาเมืองท่ามรดกโลก ที่ชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมความงดงามของสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือนสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ศึกษาประวัติศาสตร์ เดินเที่ยวชิมของอร่อยถนนสายวัฒนธรรม ยองเกอร์ สตรีท (Jonker Street) หรือจะขึ้นรถสามล้อริกชอว์ เที่ยวชมรอบเมืองก็น่าสนใจไม่น้อย ใครชอบล่องเรือชมแม่น้ำมะละกา เมืองท่าที่ยิ่งใหญ่ในอดีตอย่าง “ช่องแคบมะละกา” ก็เป็นรูทน่าไป หรือ หากอยากถ่ายรูปชิคๆเก๋ๆ ในย่าน Street Art ที่นี่ก็มีให้ครบ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปตะลุยมะละกาด้วยกัน

ตะลุยเที่ยวมะละกา เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ชวนให้หลง(รัก)

1.Dutch Square (จัตุรัสแดง)

หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญ ใจกลางเมืองมะละกา คือ ดัตช์สแควร์ หรือจัตุรัสแดง โบสถ์คริสต์สีแดงอิฐ สถาปัตยกรรมแบบชาวดัตช์หรือเนเธอแลนด์ที่เคยเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ ทำให้จัตุรัสแดงแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่อยู่คู่เมืองมะละกา นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศที่ได้มาเยือน ก็จะนิยมมาถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆที่หน้าตึกแดงแห่งนี้ อีกทั้งยังสามารถเดินเที่ยวไปยังโบสถ์ (นิกายโปรเตสแตนต์) หอนาฬิกา และกังหันฮอลันดา ที่อยู่ไม่ห่างกันนัก หรือใครอยากจะนั่งรถสามล้อริกชอว์ที่ตกแต่งหลากสีสันเที่ยวรอบเมืองเมืองมะละกาที่นี่ก็มีให้บริหารค่ะ

1.Dutch Square (จัตุรัสแดง)

พิกัด : Dutch Square (จัตุรัสแดง)
ที่อยู่ : Banda Hilir, 75200 Melaka, Malaysia
เวลา เปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชม.

2.ยองเกอร์ สตรีท (Jonker Street)

2.ยองเกอร์ สตรีท (Jonker Street)

ยองเกอร์ สตรีท (Jonker Street) ถนนสายวัฒนธรรม แหล่งรวม กิจกรรม ช้อป ชิม ชิลล์ ที่นี่เปรียบเสมือนไชน่าทาวน์มะละกา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของอาคารบ้านเรือน สไตล์ชิโน-โปรตุกีส สีสันสดใส บางจุดผนังอาคารจะตกแต่งแนวสตรีทอาร์ต ภาพวาด จิตกรรมฝาผนัง สีสันสวยงาม เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของที่นี่ เราสามารถแวะถ่ายภาพ ดื่มด่ำกับบรรยากาศของถนนสายวัฒนธรรมเส้นนี้ได้อย่างไม่รู้เบื่อ หรือจะหาของอร่อยๆกิน ที่นี่ก็มีร้านให้เลือกซื้อมากมาย

2.ยองเกอร์ สตรีท (Jonker Street)

โดยถนนยองเกอร์ สตรีท (Jonker Street) เป็นเหมือนไนท์มาร์เก็ตของไทย เปิดทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ สามารถมาเดินชิลล์ หรือจะนั่งเรือในแม่น้ำมะละกา ชมวิวทิวทัศน์อาคารร้านค้าบ้านเรือนตลอดสองข้างทางได้ค่ะ
พิกัด : ยองเกอร์ สตรีท (Jonker Street)
ที่อยู่ : Jalan Hang Jebat, 75200 Melaka, Malaysia
เวลา เปิด-ปิด : วันศุกร์-วันอาทิต์ 18.00-00.00 น.

3.แม่น้ำมะละกา (Melaka River)

3.แม่น้ำมะละกา (Melaka River)

อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของมะละกาที่ใครได้มาเยือนต้องตกหลุมรักในบรรยากาศอันงดงามของ แม่น้ำมะละกา ซึ่งถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญของประเทศมาเลเซีย และเป็นต้นกำเนิดของมะละกา ในอดีตที่แห่งนี้เคยเป็นเมืองท่า ในการติดต่อซื้อขายสินค้ากับต่างชาติ ทั้งแถบเอเชียและยุโรป ที่เรารู้จักกันในนาม “ช่องแคบมะละกา” แม้ในปัจจุบันที่แห่งนี้ไม่ใช่เมืองท่าที่รุ่งเรืองเหมือนในอดีต แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างเอเชียและฝั่งตะวันตกเอาไว้อย่างลงตัว

3.แม่น้ำมะละกา (Melaka River)

การล่องเรือในแม่น้ำมะละกาเป็นที่นิยมมาก นอกจากจะได้มาสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ตลอดสองข้างทาง ยังได้เที่ยวชมแม่น้ำสายสำคัญที่เคยเป็นเมืองท่าที่โด่งดังในอดีต นักท่องเที่ยวที่สนใจมาล่องเรือมะน้ำมะละกาสามารถมาได้ทั้งตอนกลางวัน และกลางคืน ซึ่งจะให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ตอนกลางวันจะเห็นตึกอาคารบ้านเรือน ความสวยงามของศิลปะที่ถูกตกแต่งไว้อย่างงดงามไม่เหมือนที่ไหน ส่วนกลางคืนจะมีการเปิดไฟตลอดสองข้างทาง ให้บรรยากาศอีกแบบ ซึ่งโรแมนติกมากค่ะ โดยค่าใช้จ่ายในการล่องเรืออยู่ที่ประมาณ 30 ริงกิต ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 30 นาที

พิกัด : Melaka River Cruise Jeti Taman Rempah
ที่อยู่ : Jalan Persisiran Bunga Raya, 75100 Melaka, Malaysia
เวลา เปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 9.00-23.00 น.

4.หอคอยทามิงซารี Taming Sari Tower (Melaka Tower)

4.หอคอยทามิงซารี Taming Sari Tower (Melaka Tower)

อีกหนึ่งจุดที่ต้องมาเช็กอิน ขึ้นไปชมความงดงามของเมืองมะละกา แบบวิว 360 องศา คือ หอคอยทามิงซารี สูง 24 ชั้น 110 เมตร เป็นหอคอยไจโรแห่งแรกและสูงที่สุดในมาเลเซีย เริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 โดยหอคอยแห่งนี้ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2551 ใครที่ชอบชมวิวแบบพาโนราม่า ไม่ตื่นเต้นกับความสูง แนะนำให้มาเที่ยวหอคอยทามิงซารี โดยมีค่าใช้จ่ายในการขึ้นหอคอยประมาณ 23 ริงกิต (ค่าเงินบาทขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ไปเที่ยว)

4.หอคอยทามิงซารี Taming Sari Tower (Melaka Tower)

พิกัด: หอคอยทามิงซารี Taming Sari Tower (Melaka Tower)
ที่อยู่ : Jln Merdeka, Banda Hilir, 75000 Melaka, Malaysia
เวลา เปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-23.00 น.

5.Melaka Street Art

5.Melaka Street Art

Melaka Street Art ศิลปะจิตกรรมฝาผนังสามมิติ ที่ถือเป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ และสีสันของมะละกาที่ไม่ควรพลาด บริเวณตัวอาคารในย่านนี้จะถูกแต่งแต้มทาด้วยสีสันสดใส เป็นภาพกราฟฟิกลายต่างๆ สายอาร์ต สายชิลล์ สายสตรีท มาเก็บภาพชิคๆคูลๆบนถนนเส้นนี้ ไปลง IG, Facebook ได้ตามใจชอบ โดยจะอยู่เชื่อมต่อกับถนนยองเกอร์สตรีท และดัซต์สแควร์ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้เราเพลิดเพลินอย่างไม่รู้เบื่อ

5.Melaka Street Art
5.Melaka Street Art

พิกัด : Melaka Steet Art
ที่อยู่ : Jalan Tukang Besi, 75200 Melaka, Malaysia
เวลา เปิด-ปิด : สามารถเข้ามาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศได้ทุกเวลา

6.Queen Victoria's Fountain

6.Queen Victoria’s Fountain

หนึ่งแลนด์มาร์กใจกลางเมืองมะละกา ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ น้ำพุของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย (Queen Victoria’s Fountain) ตั้งอยู่ด้านหน้าของ Dutch Square (จัตุรัสแดง) สร้างขึ้นในปี 1904 เพื่อเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษกของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย โครงสร้างและการออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษ ทำจากหันอ่อน เมื่อถึงเวลากลางคืนจะเปิดไฟส่องสว่างมายังน้ำพุสวยงามมากค่ะ

6. Queen Victoria's Fountain


พิกัด : Queen Victoria’s Fountain
ที่อยู่ : Jalan Gereja, Banda Hilir, 75000 Melaka, Malaysia
เวลา เปิด-ปิด : ทุกวันตลอด 24 ชม.