ปู่เสือรามอินทรา
กับตำนานความศักดิ์สิทธิ์ศาลเจ้าพ่อเสือ
หากกล่าวถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา คงหนีไม่พ้นศาลเจ้าพ่อเสือ น้อยคนนักที่ไม่รู้จัก และน้อยคนนักที่จะไม่รู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของปู่เสือสมิงพราย ที่เมตตาบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ผู้ที่เดือดร้อนมาแล้วนับไม่ถ้วน
คุณป้ากัญญา คงสมบุญ ผู้ดูแลศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ไม่ทราบว่ามีผู้ใดเอาศาลเสือมาทิ้ง ภายในศาลมีสีเทาติดมาด้วยหนึ่งตัว คนในบ้านตระกูลนกแก้วจึงเก็บมาตั้งไว้ในบริเวณริมทางหน้าสถานที่เก็บซากรถยนต์จากอุบัติเหตุชนกัน ด้วยเป็นพื้นที่รกร้างจึงไม่มีคนเดินเข้าออก จึงปล่อยให้พื้นที่นี้รกร้างเรื่อยมา
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2539-2540 คนในบ้านตระกูลนกแก้วอยากจะทำวินรถมอเตอร์ไซต์ พื้นที่ตรงนี้เปลี่ยว ช่วงกลางคืนโดยเฉพาะวันโกน วันพระ มักจะมีผู้พบเห็นวิญญาณออกมาอยู่บ่อยครั้ง จากคำบอกเล่าของชาวบ้านที่พบเห็นบอกว่าเป็นหญิงสาว เป็นกุมาร เป็นสัตว์ตัวสีดำๆ แต่พอเดินมาดูใกล้ๆ ก็เห็นเป็นรูปเสือบ้าง และยังเห็นเป็นอะไรอีกหลายๆ อย่าง
เมื่อก่อนสี่แยกนี้เกิดอุบัติเหตุรถชนตายกันบ่อย และมีสุสานรถยนต์จึงน่าจะมีวิญญาณแฝงอยู่แถวนี้เป็นจำนวนมาก และมักจะพรางตาทำให้ผู้ที่ขับรถผ่านไปมา เห็นว่ามีรถขับผ่าน เร็วบ้าง ช้าบ้าง จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เหมือนวิญญาณต้องการตัวแทน !!
ต่อมาพวกวินมอเตอร์ไซต์จะทำวินขึ้นมา ถัดจากตรงนี้ไปหน่อย ก็จะพบศาล มีเสือสองตัว ซึ่งปู่พรหมมาท่านได้ทำไว้ให้ตรงนี้ พวกวินมอเตอร์ไซต์ก็จุดธูปไหว้สักการบูชา พอผ่านไปสามเดือนก็มีคนมาเล่าว่า “ปู่เสือไปเข้าฝัน ปู่เสือมาอยู่ตรงนี้แล้ว” และยังบอกต่อว่า “ปู่เสือจะให้โชคลาภทุกคนที่มาสักการะบูชาท่าน” คนจึงเริ่มพูดกันปากต่อปากช่วงเวลานั้น ใครมาขอปู่เสือก็ได้หมด สมความปรารถนาทุกคน และคนนิยมบนปู่เสือด้วยเสือ
คุณป้ากัญญา คงสมบุญ ยังเล่าถึงปู่พรหมมาว่า ปู่พรหมมาท่านเป็นร่างทรง โดยอัญเชิญท่านปู่เสือสมิงพรายมาอยู่ที่ศาลนี้ เพราะว่าเสือเป็นสัตว์ที่มีอำนาจน่าเกรงขาม เลยใช้อำนาจเสือมาคุ้มกัน ผีจะต้องเกรงกลัวอำนาจเสือ และรองรับวิญญาณไม่ให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันอีก ส่วนท่านปู่สมิงพราย ท่านไม่ใช่เสือ ท่านเป็นมนุษย์เหมือนเรา แต่ท่านเรียนวิชามาก ท่านก็เปลี่ยนไปอยู่ในดงเสือ ก็เลยกลายเป็นเสือสมิงพรายไป สมิงพรายในสมัยก่อนเป็นเสือที่กินคนแล้วแปลงกายได้ แต่ท่านเป็นฤาษีมีเมตตาจิต โอบอ้อมอารี ช่วยเหลือทุกคน
ปี พ.ศ. 2542 ปู่พรหมมาไปนั่งวิปัสสนาเจอ ดร.สมิทเป็นร่างทรงพ่อศิวะ อยู่ที่วัดแขก คล้ายกับนอนฝันแล้วเจอกัน ปู่พรมหมมารบกวนให้มาช่วยทำศาลให้หน่อย แต่ไม่ได้บอกว่าศาลอยู่ที่ไหน ช่วงเวลานั้นบังเอิญถนนบางเขนขุดอุโมงค์รถ ดร.สมิทจึงต้องเลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 48 แต่แล้วรถก็ไม่สามารถไปต่อได้ ท่านจึงเดินออกมาแล้วสำรวจบริเวณนั้น จึงพบกับศาลปู่เสือ เป็นศาลเล็กๆ ที่ตั้งอยู่
ดร.สมิท จึงใช้เงินทำศาลใหญ่ขึ้นมาในราคา 30,000 บาท จากนั้นก็มี คุณอรวรรณ และชาวบ้านมาเรี่ยไรเงินช่วยกันสร้างศาลขึ้นมา ทำให้ศาลแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด นับแต่นั้นมาก็ไม่มีวิญญาณมาหลอกหลอนคน แม้จะมีรถชนกันบ้าง แต่ก็ไม่ถึงตายแบบเมื่อก่อน
ศาลปู่เสือสมิงพรายนี้ ของที่นำมาสักการบูชาถวายท่านจะเป็นของสด เพราะเสือจริงๆ ชอบเนื้อสัตว์ทุกชนิด หรือจะเป็นปลาก็ได้ นอกจากนี้ังสามารถถวายผลไม้ให้ท่านได้อีกด้วย เพราะศาลแห่งนี้เป็นที่ตั้งของภาคมนุษย์ ก็สามารถกินได้เหมือนมนุษย์ทั่วไป
วันที่ 16 มกราคมของทุกปี ที่ศาลแห่งนี้จะมีงานประจำปีทำบุญเลี้ยงพระ กลางคืนก็จะมีงานมหรสพต่างๆ ประชาชนจะมาร่วมกันทำบุญ หากตรงกับวันเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะมาก
กิตติศัพท์ของปู่เสือสมิงพราย จะเน้นไปทางเมตตา ช่วยเหลือมนุษย์ หากมีผู้เดือดร้อนมาขอพึ่งพาบารมีปู่เสือให้ท่านช่วยเหลือ ทั้งเรื่องการงาน การเรียน หรือการทำธุรกิจ ก็จะมาบนบานท่านไว้ให้ประสบผลสำเร็จ ซึ่งส่วนมากก็จะสมหวัง ผ่านไปได้ด้วยดี สำหรับปู่แล้ว ปู่ชอบคนทำงาน ทำข้าราชการ นักเรียน แต่พวกเล่นหวยปู่จะไม่ชอบ ปู่จะบอกว่าแล้วแต่โชคลาภของเราเอง …
ที่มาจาก : Horo Life Publishing