ช่วงนี้หลายสถานที่เริ่มกลับมาเปิดให้ใช้บริการชนิดที่เรียกเกือบจะปกติแล้วไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, ร้านคาเฟ่ หรือ โรงภาพยนตร์ ซึ่งแน่นอนว่าการกลับมาเปิดครั้งนี้ก็ต้องมากับ วิถีชีวิตใหม่ คือสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งเพื่อความปลอดภัย และล้างมือเป็นประจำ แต่กระนั้นเชื้อไวรัสก็ยังไม่ได้จากเราไปไหน ยังอาจจะอยู่ในทุกที่ก็เป็นได้ ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสบายใจมากขึ้น เพราะเมื่อสุขภาพเราดีจากข้างในก็สามารถทำให้เราป่วยได้ยากขึ้นเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในอาหารที่ได้รับการยอมรับจากงานวิจัยว่าช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีนั่นก็คือ รังนกแท้ที่มี NANA (นานะ) ที่มีส่วนช่วยในเรื่องนี้
ทำไมรังนกแท้ถึงได้รับการยอมรับ
จากความเชื่อในประโยชน์ด้านต่าง ๆ ของรังนก ทำให้มีการศึกษาองค์ประกอบของรังนกและพบว่า รังนก มีส่วนประกอบหลักเป็นโปรตีนประมาณ 40-60%, คาร์โบไฮเดรต, กรดอะมิโนจำเป็นหลายชนิด ได้แก่ ทรีโอนีน ไลซีน เมไธโอนีน วาลีน ไอโซลูซีน ลูซีน ฟีนิลอะลานีน และ ทริปโตเฟน รวมถึงมีแร่ธาตุที่พบคือ แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และแมงกานีส2,3,7 โปรตีนที่พบในรังนกมีคุณสมบัติพิเศษ เพราะเป็น ไกลโคโปรตีน ที่มี NANA (นานะ)
รู้จัก NANA (นานะ) ในรังนก
สารที่ถูกพูดถึงอย่างมากใน รังนกแท้ คือ ไกลโคโปรตีน ที่มี NANA (นานะ หรือ N-Acetyl-Neuraminic Acid) หรือเรียกว่า กรดไซอะลิค (Sialic Acid) ซึ่งเป็นสารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งพบได้น้อยมากในโปรตีนชนิดอื่น โดยในรังนกจะพบปริมาณ NANA (นานะ) ประมาณ 9% ในเนื้อไก่ และเนื้อเป็ด พบนานะน้อยมากพบเพียง 0.02% และ ในเนื้อปลาแซลมอน พบเพียง 0.01%2,4,8,10,11
จากการศึกษาวิจัย พบว่า สารสำคัญในรังนกมีฤทธิ์ยับยั้งการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ เข้าสู่เซลล์ ด้วยกลไกการจับกับเชื้อไวรัสโดยตรง และการขัดขวางการจับตัวระหว่างเชื้อไวรัสกับเซลล์เม็ดเลือดแดง นักวิจัยพบว่ารังนกที่มีปริมาณ NANA (นานะ) สูงก็จะมีความสามารถในการต้านไวรัสดีขึ้น ดังนั้น NANA (นานะ) จึงอาจเป็นสารสำคัญในการต้านไวรัส นอกจากนี้ยังพบว่าไกลโคโปรตีนในรังนกทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มจำนวน จึงนับได้ว่า รังนก มีส่วนช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
รังนกแท้กับประโยชน์ตามความเชื่อของชาวจีน
ที่มาที่ไปของการทานรังนกนั้น มีจุดเริ่มต้นที่สืบย้อนไปได้หลายพันปีตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ในยุคนั้นรังนกถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่า ถูกยกให้เป็นเครื่องเสวย สำหรับองค์จักรพรรดิ ฮ่องเต้ และ มักใช้มอบเป็นของขวัญให้กับเหล่าเชื้อพระวงศ์ และ ข้าราชการระดับสูงของจีน1,2,3 เพราะในตำรับยาแพทย์จีนโบราณ จัดรังนกมีฤทธิ์กลางๆ ค่อนไปทางเย็น มีสรรพคุณทั้งบำรุงพลังและขับระบายความร้อน จึงกลายเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดีในการฟื้นฟูสุขภาพจากการเจ็บป่วย บำรุงหยินที่ปอด ช่วยให้ปอดชุ่มชื้น ขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ และส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้ ชาวจีน ยังนิยมรับประทานรังนก เพราะเชื่อว่า รังนกเป็นอาหารบำรุงสุขภาพ บำรุงผิวพรรณ การรับประทานรังนกช่วยให้อายุยืน ผิวพรรณดี และชะลอความชรา ซึ่งรังนกนั้นหาได้ยากและมีราคาแพงจึงได้รับฉายาว่า “คาร์เวียร์แห่งโลกตะวันออก” หรือ “ทองคำขาวแห่งท้องทะเล” 1,2,3,4,5,6
รังนกแท้ vs รังนกปลอม?
คำถามที่ทุกคนอาจจะสงสัยอยู่คือเราจะแยกแยะรังนกที่ดีมีคุณสมบัติอย่างไร? โดยรังนกที่ได้รับการยอมรับที่สุดนั้น คือ รังนกขาว – เป็นรังนกที่พบส่วนใหญ่ตามธรรมชาติ รังนกคุณภาพดีมีเส้นยาว ขาว สะอาด และมีขนาดใหญ่ จึงถือเป็นรังนกที่มีความบริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งปลอมปน
ศาสตราจารย์ ลี และคณะ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ประเทศสิงค์โปร์ ได้ทำการศึกษาวิจัยโครงสร้างทางเคมีต่อการเปลี่ยนแปลงของสีของรังนก พบว่า รังนกสีขาวตามธรรมชาติ จะสามารถเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีอื่นๆได้นั้น เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีของรังนกกับอากาศในถ้ำรังนก หรือในบ้านรังนกที่มีความชื้นและมีก๊าซไนโตรเจนสูง โดยไกลโคโปรตีนในรังนกจะทำปฎิกริยากับสารกลุ่มไนเตรตทำให้เกิดสีขึ้น ทำให้รังนกไม่บริสุทธิ์ และอาจมีผลเสียต่อสุขภาพ15
จึงทำให้รังนกแท้ปัจจุบันในมีราคาแพงมาก จนเกิดการผลิตรังนกปลอมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมากจนไม่สามารถแยกได้ด้วยการมองด้วยตาเปล่า ลักษณะของรังนกปลอมส่วนใหญ่จะผลิตจากยางไม้ชนิดหนึ่ง คือ ยางคารายา ซึ่งมีลักษณะสีขาว หรือ สีเหลืองอมชมพูจนถึงสีนํ้าตาลเข้ม ไม่ละลายนํ้า แต่สามารถดูดนํ้าทำให้พองตัวคล้ายวุ้น ขุ่นเล็กน้อย เมื่อนำมาต้มจะคล้ายรังนกแต่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
เพื่อให้สามารถแยกความแตกต่างระหว่างรังนกแท้ และรังนกปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีการนำเทคนิคอินฟราเรดสเปคโตรสโคปี (Infrared spectroscopy: FTIR) ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับเครื่องตรวจเพชรมาใช้ในกระบวนการตรวจสอบ โดยรังนกแท้จะมีรูปแบบของอินฟราเรดสเปคตรัม (Infrared spectrum) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรังนกแท้ จึงสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นรังนกแท้หรือรังนกปลอม16
ดังนั้นในการเลือกซื้อรังนกจึงควรพิจารณาจากผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือในกระบวนการตรวจสอบวัตถุดิบรังนกที่ใช้ในการผลิต และได้รับการรับรองมาอย่างยาวนาน เพื่อให้เราได้ของที่มีคุณภาพ
1. Thorburn C. 2014. The Edible Birds’ Nest Boom in Indonesia and South-east Asia. Food culture society. Vol.17, Issue 4; 535-554.
https://www.researchgate.net/publication/269941850_The_Edible_Birds’_Nest_Boom_in_Indonesia_and_South-east_Asia_A_Nested_Political_Ecology
2. Chua L.S. and Zukefl S.N. 2016. A comprehensive review of edible bird nests and swiftlet farming. Journal of Integrative Medicine. Vol. 14, No.6; 415-428.
http://dx.doi.org/10.1016/S2095-4964(16)60282-0 https://www.academia.edu/36861320/A_comprehensive_review_of_edible_bird_nests_and_2016_Journal_of_Integrative
3. Tai S.K., Koh R.Y., Ng K.Y. and Chye S. M. 2017. A Mini Review on Medicinal Effects of Edible Bird’s Nest. Lett Health Biol Sci. Vol. 2, Issue 1; 65-67. DOI: 10.15436/2475-6245.17.016.
https://www.researchgate.net/publication/317858316_A_Mini_Review_on_Medicinal_Effects_of_Edible_Bird’s_Nest
4. Hamzah Z., Ibrahim N.H., J S., Hussin K., Hashim O. and Lee B.B. 2013. Nutritional properties of edible bird nest. Journal of Asian Scientific Research. 3(6); 600-607.
https://www.researchgate.net/publication/225300617_Preliminary_Study_of_the_Nutritional_Content_of_Malaysian_Edible_Bird’s_Nest
5. Zhao R., Li G., Kong X.J., Huang X.Y., Li W., Zeng Y.Y. and Lai X.P. 2016. The improvement effects of edible bird’s nest on proliferation and activation of B lymphocyte and its antagonistic effects on immunosuppression induced by Drug Design, Development and Therapy. 10; 371-381.
https://www.dovepress.com/front_end/cr_data/cache/pdf/download_1598601931_5f48bacb9c0ce/DDDT-88193-in-vitro-and-in-vivo-immune-enhancing-effects-of-edible-bird_012116.pdf
6. Marcone M.F. 2005. Characterization of the Edible Bird’s Nest the “Caviar of the East”. Food Research International. 38, 1125-1134. http://dx.doi.org/10.1016/j.foodres.2005.02.008
7. Daud N.A., Yusop S.M., Babji A.S., Lim S.J., Sarbini S.R. and Yan T.H. 2019. Edible Bird’s Nest: Physicochemical Properties, Production, and Application of Bioactive Extracts and Glycopeptides. Food Reviews International. 1-19.
https://doi.org/10.1080/87559129.2019.1696359
https://www.researchgate.net/publication/337710013_Edible_Bird’s_Nest_Physicochemical_Properties_Production_and_Application_of_Bioactive_Extracts_and_Glycopeptides
8. Li H. and Fan X. 2014. Quantitative analysis of sialic acids in Chinese conventional foods by HPLC-FLD. Open Journal of Preventive Medicine. 4(2); 57-63.
https://www.scirp.org/journal/PaperInformation.aspx?PaperID=42604
9. Fucui M. and Daicheng L. 2012. Sketch of the edible bird’s nest and its important bioactivities. Food Research International. 48(2); 559–567.
https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0963996912001895
10. Chan K., Zheng K.Y., Zhu K.Y., Dong T.T. and Tsim K.W. 2013. Determination of free N-acetylneuraminic acid in edible bird nest: A development of chemical marker for quality control. The Journal of Ethnobiology and Traditional Medicine. 120; 620-628.
https://www.researchgate.net/publication/272683219_Determination_of_free_N-acetylneuraminic_acid_in_edible_bird_nest_A_development_of_chemical_marker_for_quality_control
11. Lun Chan G.K., Fai Wong Z.C., Ching Lam K.Y., Wai Cheng L.K., Zhang L.M., Lin H., et al. 2015_ Edible Bird’s Nest, an Asian Health Food Supplement, Possesses Skin Lightening Activities: Identification of N-Acetylneuraminic Acid as Active Ingredient. Journal of Cosmetics, Dermatological Sciences and Applications. 5; 262-274.
https://www.researchgate.net/publication/284785696_Edible_Bird’s_Nest_an_Asian_Health_Food_Supplement_Possesses_Skin_Lightening_Activities_Identification_of_N-Acetylneuraminic_Acid_as_Active_Ingredient
12. Guo C.T., Takahashi T., Bukawa W., Takahashi N., Yagi H., Kato K. et al. 2006. Edible bird’s nest extract inhibits influenza virus infection. Antiviral Research. 70; 140–146.
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16581142
13. Kong Y.C., , K H Chan K.H. and Ng M.H., et al. 1986. Potentiation of mitogenic response by extract of the swiftlet’s (Collocalia) nest. Biochem Intern. 13;521-531. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/3790144/
14. Kong Y.C., Keung W. M., Yip T.T., Ko K.M., Tsao S.W., Nget M.H. 1987. Evidence that Epidermal Growth Factor is present in swiflet’s (Collocalia) nest. Comp. Biochem. Physiol. 87B(2);221-226. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/3497769
15. Shim, E. K-S; Lee, S-Y. 2018. Nitration of Tyrosine in the Mucin Glycoprotein of Edible Bird’s Nest Change Its color from White to Red. J. Agri. Food Chem. 66; 5654-5662.
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/29783841
16. ประมวลสารสนเทศพร้อมใช้เรื่อง รังนก สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2559