ในปีนี้ กระแสของการใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือ (AI) นำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหรือการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยการประมวลผลของปัญญาประดิษฐ์หรือ (AI)กำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของยุคเทคโนโลยีใหม่ AI ยิ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยมีผลต่อทุกสิ่งตั้งแต่การค้นหาข้อมูลการสร้างสรรค์ผลงาน ไปจนถึงการเล่นเกม
การจินตนาการถึงโลกที่แล็ปท็อปของคุณไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นคู่หูที่ทรงพลังซึ่งสามารถคาดเดาความต้องการของคุณได้ ช่วยให้การทำงานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น และยังเปิดความคิดสร้างสรรค์ที่ซ่อนอยู่ในคุณอีกด้วย แล็ปท็อป AI กำลังเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกได้อย่างมาก และ ปี 2024 เป็นปีที่ทั้งประสิทธิภาพปละการประมวลผลแม่นยำโดดเด่นเป็นอย่างมาก
พลังการเปลี่ยนแปลง: ขอบเขตการประมวลผลของ AI
ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ตั้งแต่ซอฟต์แวร์แก้ไขภาพ ไปจนถึงผู้ช่วยเสียงที่สามารถแปลภาษาได้แบบเรียลไทม์ แต่ความก้าวหน้าเหล่านี้มักพึ่งพาการประมวลผลบนคลาวด์ ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าบางครั้งไม่ทันต่อความต้องการ และที่สำคัญคือปัญหาด้านความปลอดภัย
“การเติบโตของบริการและแอปพลิเคชัน AI นั้นน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะมันกำลังเปลี่ยนจากโมเดลที่ใช้คลาวด์เพียงอย่างเดียวไปสู่แนวทาง ‘cloud-plus-edge’ ”
นี่หมายความว่าพลังการประมวลผลไม่ได้ถูกมุ่งเน้นอยู่ที่ศูนย์กลางข้อมูลขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่กำลังย้ายไปยังขอบของเครือข่ายมากขึ้น ซึ่งก็คือแล็ปท็อปของคุณนั้นเอง
ผลบวกสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้
- ลดความล่าช้า: การประมวลผลข้อมูลในเครื่อง ช่วยให้แอปพลิเคชัน AI บนแล็ปท็อปของคุณให้มีความล่าช้าน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับการพึ่งพาคลาวด์เพียงอย่างเดียว นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับงานที่ต้องการการตอบสนองแบบเรียลไทม์ เช่น การจำใบหน้าหรือการแปลเสียง
- ความเร็วที่เร็วขึ้น: ไม่ต้องรอข้อมูลที่จะเดินทางไปกลับจากคลาวด์อีกต่อไป AIที่อยู่บนแล็ปท็อปช่วยให้การคำนวณเร็วขึ้นและประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น ตัวอย่างเช่น “MSI AI Artist” ของ MSI ซึ่งออกแบบมาสำหรับการสร้างภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะประมวลผลการคำนวณทั้งหมดโดยตรงบนแล็ปท็อป ส่งผลให้ความเร็วในการสร้างภาพเร็วขึ้นถึงเจ็ดเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับการประมวลผลที่ใช้คลาวด์แบบดั้งเดิม
- ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น: ข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัยสูงจะยังคงอยู่ในอุปกรณ์ของคุณ ลดความเสี่ยงจากการละเมิดความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการส่งข้อมูลผ่านคลาวด์
“บริการและแอปพลิเคชัน AI กำลังย้ายไปยังขอบของเครือข่าย ซึ่งก็คือแล็ปท็อปของคุณ Derek Chen รองประธานฝ่ายธุรกิจและการตลาดของแล็ปท็อป MSI กล่าวไว้”
ผู้ใช้งานสังเกตเห็นได้ว่าไม่เพียงแค่ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้น แต่ยังรวมถึงระยะเวลาในการใช้งานที่ยาวนานขึ้นด้วย
อีกทั้งแล็ปท็อปที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมหน่วยประมวลผลเฉพาะสำหรับ AI ช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น แล็ปท็อปที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ MSI ใช้พลังงานน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อใช้งานฟังก์ชันเบลอพื้นหลังที่ใช้บ่อยในวิดีโอประชุม ความมีประสิทธิภาพนี้ส่งผลให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
แนวโน้มนี้ชัดเจนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับอินเทอร์เฟซ AI ที่อยู่โดยตรงบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน เช่น แล็ปท๊อป ในความเป็นจริง นี่ได้ส่งผลให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วของแอปพลิเคชัน AI บนคอมพิวเตอร์ โดยจำนวนของแอปพลิเคชันเหล่านี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอัตราที่เร็วขึ้น บริษัทต่าง ๆ เช่น Microsoft, Intel, Adobe (และอีกมากมาย) กำลังทำการรวม AI เข้ากับแอปพลิเคชันที่มีอยู่ โดยตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้ใช้และความต้องการในการเข้าถึงความสามารถของ AI ที่ทรงพลังในมือผู้ใช้งาน Intelคาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีซอฟต์แวร์และฟีเจอร์ใหม่มากกว่า 60% ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ตัวอย่างเช่น มีแอปพลิเคชัน AI มากกว่า 500 ตัวที่ถูกปรับแต่งสำหรับโปรเซสเซอร์ Lunar Lake รุ่นล่าสุดของIntel
แล็ปท็อป AI คาดว่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 30% ในปี 2025
นี่คือจุดที่แล็ปท็อป AI เข้ามามีการออกแบบมาเพื่อจัดการกับงาน AI ที่ซับซ้อนโดยตรงบนอุปกรณ์ของคุณ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับคลาวด์ตลอดเวลา IDC, Canalys, Gartner, Digitimes และสถาบันวิจัยอุตสาหกรรมอื่นๆ คาดการณ์ว่าแล็ปท็อป AI จะมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 30% ในปี 2025 ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตจะเป็นคอมพิวเตอร์แห่งโลกอัจฉริยะ
มุมมองการณ์ไกลในการใช้ AI: MSI ใช้ AI เพื่อปรับให้เหมาะกับผู้ใช้งานแล็ปท็อปโดยเฉพาะ
แล็ปท็อป MSI เป็นคู่หู AI ที่สมบูรณ์แบบ! MSI ไม่ใช่แค่ชื่อในวงการแล็ปท็อปแต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยีล้ำสมัย ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม และคุณภาพที่เชื่อถือได้ MSI ได้รับการยกย่องให้เป็นแบรนด์แล็ปท็อปอันดับหนึ่งในผลสำรวจของผู้ใช้งานประจำปีของ PCMag ติดต่อกันเป็นระยะเวลา4ปี ซึ่งยืนยันชื่อเสียงของแบรนด์ในตลาดแล็ปท็อประดับไฮเอนด์ MSI ยังคงโดดเด่นในด้านประสิทธิภาพ นวัตกรรม บริการ และความสะดวกในการใช้งาน ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการออกแบบและด้านการผลิตแล็ปท็อปคุณภาพ MSIเต็มไปด้วยนวัตกรรมยุคใหม่ของ AI ประสิทธิภาพ คุณภาพ และนวัตกรรมที่มีความสำคัญมากกว่าที่เคยมีมา และ MSI ยังคงเป็นผู้นำในความก้าวหน้าเหล่านี้ MSI คาดการณ์อนาคตโดยมีการลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา AI ตั้งแต่ปี 2018 และปี 2022 MSI ได้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับ “เทคโนโลยีซิงกูลาร์ลิตี้” ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงการปฏิวัติทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ ในปี 2023 MSI ได้เปลี่ยนวิสัยทัศน์นี้ให้เป็นจริงด้วยการเปิดตัวแล็ปท็อป AI รุ่นแรกของMSI ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ในวงการคอมพิวเตอร์ ภายในปี 2024 MSI ได้ก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญสู่ตลาด AI PC โดยเปิดตัวแล็ปท็อป AI ระดับสูงที่น่าทึ่ง ซึ่งเป็นการตั้งมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม
” MSI เริ่มลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา AI มานานก่อนที่แนวคิดนี้จะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย” Derek Chen กล่าว “วิสัยทัศน์เริ่มต้นของเรานั้นเรียบง่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแล็ปท็อปได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องตั้งค่าที่ซับซ้อน” MSI ใช้เวลากว่าหลายปีในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ชาญฉลาดขับเคลื่อนด้วย AI สร้างซอฟต์แวร์และฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าเกมเมอร์ นักออกแบบสร้างสรรค์ผลงาน หรือนักธุรกิจ เทคโนโลยี AI ของเราปรับตัวโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้งาน ในด้านการเล่นเกม การประชุม และความบันเทิงออนไลน์ โดยการร่วมมือกับบริษัท NVIDIA และใช้เทคโนโลยีล่าสุด โดยต่อยอดจากประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมา ด้วยความมุ่งมั่นนี้ทำให้เราได้ก้าวขึ้นนำในด้านการพัฒนา AI อย่างมีนัยสำคัญ
ด้วยซอฟต์แวร์และการตั้งค่าที่ซับซ้อน ผู้ใช้งานอาจรู้สึกไม่มั่นใจในการใช้งานหรืออาจไม่ทราบถึงการมีอยู่ของฟีเจอร์ต่างๆ MSI แก้ปัญหานี้ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ล่าสุดเพื่อทำให้กระบวนการง่ายขึ้น ช่วยให้ระบบสามารถปรับและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยอัตโนมัติ นี่คือสิ่งอัศจรรย์ของ “MSI AI Engine!” ระบบอัจฉริยะที่ทำงานเบื้องหลังได้อย่างราบรื่นและเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานและความต้องการในขณะใช้งาน AI ทำการปรับตั้งค่าได้อย่างชาญฉลาด เช่น ประสิทธิภาพ เสียง ภาพ และแม้กระทั่งไฟแบ็คไลท์ของแป้นพิมพ์และอุปกรณ์ต่างๆ
ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเริ่มการประชุมวิดีโอ MSI AI Engine จะเปิดฟีเจอร์ “MSI AI Noise Cancellation Pro” โดยอัตโนมัติ ช่วยปรับปรุงคุณภาพวิดีโอและเสียงของผู้ใช้ อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงคุณภาพภาพจากกล้องในที่แสงน้อย ตัดเสียงรบกวนจากทั้งสองด้าน และทำให้เสียงของผู้พูดชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วย “MSI AI Engine” ให้ทุกอย่างทำงานได้อย่างราบรื่นและปรับตั้งค่าซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต่างๆ เพื่อให้แล็ปท็อปของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการปรับแต่งฟีเจอร์หรือความรู้ทางเทคนิค ระบบ AI จะจัดการทุกอย่างให้ผู้ใช้งานเอง
ทุกท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน AI เหล่านี้ได้ที่นี่: https://msi.gm/ai_pc