CPHI CPHI South East Asia 2024 ศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพเอเซีย

‘CPHI South East Asia 2024’ โชว์แกร่งอุตสาหกรรมยาไทย ประกาศความพร้อมก้าวสู่ศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพของเอเชีย

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ฯ จุดพลุสร้างสถิติใหม่สุดยิ่งใหญ่ “ซีพีเอชไอ เซาท์อีส เอเชีย 2024” (CPHI South East Asia 2024) ผลักดันระบบสุขภาพและการแพทย์เพื่อยกระดับมาตรฐานไปสู่ “ฮับอุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์” สร้างความมั่นคงทางการยาของประเทศไทยในระยะยาว…

Home / PR NEWS / ‘CPHI South East Asia 2024’ โชว์แกร่งอุตสาหกรรมยาไทย ประกาศความพร้อมก้าวสู่ศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพของเอเชีย

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ฯ จุดพลุสร้างสถิติใหม่สุดยิ่งใหญ่ “ซีพีเอชไอ เซาท์อีส เอเชีย 2024” (CPHI South East Asia 2024) ผลักดันระบบสุขภาพและการแพทย์เพื่อยกระดับมาตรฐานไปสู่ “ฮับอุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์” สร้างความมั่นคงทางการยาของประเทศไทยในระยะยาว ระดมบริษัทเครื่องมือแพทย์และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ชั้นนำกว่า 400 บริษัทจาก 50 ประเทศร่วมโชว์ศักยภาพ เปิดไฮไลต์โซนพาวิลเลี่ยนนานาชาติ ส่องเทรนด์นวัตกรรมจากประเทศเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ โปแลนด์ จีน เกาหลี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา บราซิล สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย พร้อมพื้นที่เจรจาธุรกิจ อัปเดตความรู้ด้านวิชาการกว่า 60 หัวข้อ ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 8,000 คนจากทั่วโลก เตรียมคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ ระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2567 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาเก็ตส์ และผู้จัดการทั่วไป – ฟิลิปปินส์ ในฐานะผู้จัดงาน ซีพีเอชไอ เซาธ์ อีสต์ เอเชีย 2024 (CPHI South East Asia 2024) งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี นวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมยาแห่งเอเชีย เปิดเผยว่า การจัดงาน “ซีพีเอชไอ เซาท์อีส เอเชีย 2024” (CPHI South East Asia 2024) งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี นวัตกรรมที่มีเป้าหมายสำคัญคือ การร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางการยาของประเทศไทย เพื่อช่วยขับเคลื่อนสุขภาพและเศรษฐกิจให้ก้าวไปสู่การเป็นเมดิคัลฮับ (Medical Hub) ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมาตรฐานการผลิตยาที่ได้มาตรฐานในระดับสากล และพร้อมแข่งขันในการเป็นผู้ผลิตยาสู่ตลาดต่างประเทศ รวมทั้งจุดเด่นด้านบริการทางการแพทย์ที่มีข้อได้เปรียบเรื่องราคา การบริการที่ดี ตลอดจนคุณภาพของบุคลากร ส่งผลให้อุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยสามารถยกระดับการให้บริการที่ครบวงจร

สำหรับภาพรวมประเทศไทยในปัจจุบันยังมีความจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 65% ของตลาดยาโดยรวม มูลค่าประมาณ 2.25 แสนล้านบาท และมีเพียง 35% เท่านั้นที่เป็นการผลิตยาในไทย ส่วนใหญ่แล้วเป็นอุตสาหกรรมยาสำเร็จรูปหรือขั้นปลายน้ำ หรือเป็นการผลิตยาสามัญ โดยเป็นการผลิตลอกเลียนสูตรยาต้นตำรับหรือยาต้นแบบจากต่างประเทศที่หมดสิทธิบัตรไปแล้ว ซึ่งการยกระดับมาตรฐาน และแสดงผลงานนวัตกรรมด้านเภสัชภัณฑ์ รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในงาน “ซีพีเอชไอ เซาท์อีส เอเชีย 2024” นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของภาคอุตสาหกรรมยาในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภญ.ลลนา เสตสุบรรณ นายกสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน เปิดเผยว่า สมาคมฯ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนการยกมาตรฐานของอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบันและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบันในประเทศไทยให้เพียงพอแก่ความต้องการของประเทศ ซึ่งการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน “ซีพีเอชไอ เซาท์อีส เอเชีย 2024” เป็นการให้สมาชิกได้มีโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งสามารถสร้างโอกาสในการขยายตลาดใหม่ ๆ จากนักลงทุนที่ให้ความสนใจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

ภก.สุรชัย เรืองสุขศิลป์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชุมชนเภสัชกรรม จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ กล่าวว่า อุตสาหกรรมยาในไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในการพัฒนาสูตรผลิตยาโมเลกุลใหม่ๆ ที่ให้ผลการรักษาดี มีความปลอดภัยสูง และกำลังจะหมดสิทธิบัตรลง เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงยาได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ป่วยสูงวัย ที่ปัจจุบันมีจำนวนเกิน 14% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ และคาดการร์ว่าจะเพิ่มเป็น 28% ในอีก 6 ปีข้างหน้า ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้ยาโรคเรื้อรังชนิดไม่ติดต่อ (Non communicable diseases – NCDs) เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง

ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยาไทยให้เป็นเมดิคัล ฮัล (Medical Hub) ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต ซึ่งการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน “ซีพีเอชไอ เซาท์อีส เอเชีย 2024” เป็นหนึ่งในการนำเสนอศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนายา โดยเตรียมนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดคือ Apixaban 2.5mg และ Apixaban 5 mg ที่เป็นยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดในระบบไหลเวียน โดยเฉพาะที่หลอดเลือดสมอง โดยเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่สามารถผลิตยาชนิดนี้ขึ้นเองภายในประเทศ

ภญ.ปาริชาติ แคล้วปลอดทุกข์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ภาพรวมในประเทศไทยผลิตยาใช้เองค่อนข้างน้อย ในขณะที่ผู้ผลิตยาภายในประเทศมีการผลิตที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้เป็นเพราะการผลิตยาส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ซึ่งในอนาคตหากอุตสาหกรรมยามีการด้านวางแผนด้านความมั่นคงทางการยาได้ดีจะส่งผลให้พึ่งพิงการนำเข้าลดลง และเพิ่มขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเองให้มากขึ้นด้วยวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่ม Biopharmaceutical

งาน “ซีพีเอชไอ เซาท์อีส เอเชีย 2024” (CPHI South East Asia 2024) งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านเภสัชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดขึ้นในวันที่ 10 – 12 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมงาน ลงทะเบียนได้ที่ www.cphi.com/sea