วัดพระธรรมกาย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง อุภินนมัตถจรกถา

วัดพระธรรมกาย ร่วมกับ อบต.คลองสาม จัดพิธีทำบุญ และฟังเทศน์ “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา พระครูสังฆรักษ์รังสฤษดิ์ อิทธิจินฺตโก เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เมตตาเป็นประธานสงฆ์ และแสดงธรรมในพิธีทำบุญ และฟังเทศน์ บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน "อุภินนมัตถจรกถา" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

Home / PR NEWS / วัดพระธรรมกาย ร่วมกับ อบต.คลองสาม จัดพิธีทำบุญ และฟังเทศน์ “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา พระครูสังฆรักษ์รังสฤษดิ์ อิทธิจินฺตโก เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เมตตาเป็นประธานสงฆ์ และแสดงธรรมในพิธีทำบุญ และฟังเทศน์ บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ณ อาคารปลูกศรัทธา วัดพระธรรมกาย ได้รับเกียรติจาก ผศ.(พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยเจ้าหน้าจากส่วนงานราชการ และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมพิธี จัดโดย วัดพระธรรมกาย ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม และองค์กรภาคีเครือข่ายโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข

วัดพระธรรมกาย

พิธีเริ่มเวลา 09.00 น. โดย ผศ.(พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล ฯ พิธีกร นำอาราธนาศีล 5 ประธานฝ่ายฆราวาสจุดเทียนส่องธรรม หน้าธรรมมาสน์ และอาราธนาธรรม ต่อด้วย พระครูสังฆรักษ์รังสฤษดิ์ อิทธิจินฺตโก เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แสดงพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระธรรมบารมี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้น พิธีกรนำกล่าวคำถวายจตุปัจจัยไทยธรรม นำกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน คณะสงฆ์ อนุโมทนา และให้พร เป็นอันเสร็จพิธี

วัดพระธรรมกาย

บทแสดงธรรมตอนหนึ่งว่า “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงบริบูรณ์ด้วยพระราชธรรมจริยาอันปรากฏให้มหาชนทั่วหน้าได้ประจักษ์ว่า ทรงพรั่งพร้อมด้วย “ศีลธรรม” คือ ทรงเป็นผู้มีศีล มีปัญญา และมีสุตะ ครบถ้วนทั้งสามสถาน จึงทรงแน่วแน่ในพระราชปณิธาน ที่จะเอื้ออำนวยประโยชน์สุขให้บังเกิดแก่ประชานิกรตลอดมา ทรงตรากตรำบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่องเนิ่นนานมาจนพระชนมายุลุเขตชรา อย่างมิเห็นแก่ความลำบากพระวรกาย เป็นดั่ง “ศีล” หรือปรกติแห่งพระองค์ผู้ทรงเป็นมารดาประชาชาติไทย ทรงพระวิจารณปัญญาสอดส่องเห็นการณ์ไกลตามวิสัยแห่งอัจฉริยนารี พระราชทานประทีปนำทางปัญญาด้วยพระราชมธุรวาจาอันอ่อนหวานละมุนละม่อม ถึงพร้อมด้วยปรัชญาและสารัตถประโยชน์ ช่วยชุบชีวิตผู้คน สรรพสัตว์ และพืชพรรณ ให้ผ่านพ้นพิบัติภัยจนได้รับความผาสุกสวัสดี ทั้งนี้ก็ด้วยวิถีแห่ง “ปัญญา” ซึ่งล้วนเกิดขึ้นด้วยพระราชวิริยอุตสาหะอันแรงกล้าในทาง “สุตะ” คือความใฝ่พระราชหฤทัยศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม นำให้พระองค์ทรงสำเร็จประโยชน์ส่วนพระองค์และประโยชน์ส่วนมหาชนโดยครบถ้วนทุกประการ สถิตเสถียรในพระราชสถานะ “คุรุฐานียะ” คือครูผู้ประเสริฐ และทรงเป็น “ปูชนียะ”
คือ บุคคลที่พึงเคารพบูชาสำหรับปวงประชาชาติไทยได้อย่างแท้จริง ซึ่งเราชาวไทยทั้งหลาย พึงปฏิญาณใจน้อมนำพระราชธรรมจริยาสัมมาปฏิบัติ ที่เป็นนิทัศน์นำทางอย่างประเสริฐ ไปเทิดเกล้าสวมจิต สร้างเนติต้นแบบการประพฤติปฏิบัติตน จนกระทั่งเป็นผู้ถึงพร้อมสมบูรณ์ด้วยศีล ปัญญา และสุตะ ตามนัยแห่งพระพุทธานุศาสนี และตามทางพระราชกุศลธรรมวิธีสืบไป”