ด้วยความหอมกลมกล่อม และมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของซิงเกิลมอลต์ ทำให้หลายคนยกย่องว่าเป็นวิสกี้แห่งวิสกี้ ที่นักดื่มทั้งหลายควรได้สัมผัสรสชาติสักครั้ง และในรอบปีที่ผ่านมานี้ ก็ต้องบอกเลยว่าวัฒนธรรมการดื่มซิงเกิลมอลต์วิสกี้ กลายเป็นเทรนด์กระแสนิยมขึ้นมาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นงานพรีเมียมปาร์ตี้ หรือการสังสรรค์เจรจาธุรกิจ ด้วยความที่เป็นสกอตวิสกี้ที่มีคาแรกเตอร์ มีเสน่ห์ที่หลากหลาย ได้สร้างให้เกิดวัฒนธรรมการดื่มซิงเกิลมอลต์ ขึ้นมาหลายแบบ เช่น ดื่มแบบ Neat Drop Water On The Rock หรือแม้แต่นำไปผสม Cocktail ต่าง ๆ อย่างเช่น สูตรค็อกเทล orchard ถึงเวลาแล้วที่เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของซิงเกิลมอลต์วิสกี้ วัฒนธรรมแห่งการดื่ม ที่โดดเด่นเหนือใคร
รู้จักกับซิงเกิลมอลต์วิสกี้ Single Malt Whisky
ซิงเกิลมอลต์เป็นวิสกี้จากประเทศสกอตแลนด์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะมีทั้งโรงกลั่นและแหล่งผลิตชั้นดีหลายแห่ง ผ่านกระบวนการผลิตด้วยการบ่มที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้เฉพาะข้าวบาร์เลย์มอลต์ กับน้ำเปล่าเท่านั้น โดยไม่มีธัญพืชอย่างอื่นเจือปน ความพิเศษของวิสกี้ชนิดนี้ คือ การเบลนด์ผสมวิสกี้จากถังบ่มหลายถัง หลายปี กระบวนการทุกอย่างคือกลั่นจากโรงกลั่นโรงเดียว ก่อนจะนำไปบ่มอีกครั้ง จนมีกลิ่นและรสสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อบวกเข้ากับเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งรสชาติที่ซับซ้อน มีความแตกต่างกันไปในแต่ละแหล่งผลิต ระยะเวลาการบ่มเช่น 12, 15 หรือ 18 ปี รวมถึงศิลปะในการดื่มรูปแบบต่าง ๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมซิงเกิลมอลต์วิสกี้ จึงกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยม
แหล่งผลิตซิงเกิลมอลต์วิสกี้ยอดนิยม
อย่างที่บอกไปแล้วว่าเสน่ห์ของซิงเกิลมอลต์ คือ กลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกันออกไปตามแหล่งผลิต หรือตามท้องถิ่น ปัจจัยต่าง ๆ รวมไปถึงสภาพดินฟ้าอากาศ ส่งผลให้ซิงเกิลมอลต์แต่ละแหล่งมีเอกลักษณ์แยกจากกันชัดเจน มาดูกันเลยว่าแหล่งผลิตซิงเกิลมอลต์วิสกี้ ที่ได้รับความนิยมมีที่ใดบ้าง
Highlands
แหล่งผลิตซิงเกิลมอลต์ พื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ มีโรงกลั่นตั้งอยู่มากมาย เพราะมีพื้นที่กว้างใหญ่ ทำให้ซิงเกิลมอลต์จาก Highlands มีรสชาติแยกย่อยออกไป ทางเหนือจะมีรสสัมผัสที่หนักแน่น ทั้งกลิ่นใบไม้ กลิ่นโอ๊ค ส่วนทางด้านใต้รสสัมผัสจะเบากว่า ส่วนพื้นที่ชายฝั่งจะมีกลิ่นอายทะเลและพีต (Peat) แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือจะมีความหวานแบบฟรุตตี้ รวมทั้งมีความเผ็ดเจืออยู่ด้วย
Campbeltown
พื้นที่ที่มีอดีตอันรุ่งเรือง เคยมีโรงกลั่นมากกว่า 30 โรง ถูกยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงของซิงเกิลมอลต์ที่เหล่านักดื่มปรารถนา แต่ปัจจุบันเหลือโรงกลั่นเพียงแค่ 3 โรงเท่านั้น ซิงเกิลมอลต์ในภูมิภาคนี้ จะโดดเด่นเรื่องความ Dry ความเผ็ด มีกลิ่นอายของทะเล กลิ่นผลไม้ กลิ่นหญ้า และกลิ่นพีต
Islay
พื้นที่ที่มีความผูกพันกับซิงเกิลมอลต์มาอย่างยาวนาน เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีโรงกลั่นตั้งอยู่จำนวนมาก ซิงเกิลมอลต์จาก Islay จะโดดเด่นเรื่องกลิ่นพีต กลิ่นควัน รวมถึงสัมผัสอ่อน ๆ จากกลิ่นไอเกลือของน้ำทะเลและสาหร่าย โรงกลั่นที่มีชื่อเสียงมาก ๆ คือ Lagavulin ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1816
Speyside
ความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งผลิตใกล้แม่น้ำ Spey อันอุดมสมบูรณ์ ทำให้รสชาติและรสสัมผัสของซิงเกิลมอลต์จากที่นี่ เป็นเอกลักษณ์มาก ๆ จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทั้งในเรื่องของความหอมหวาน กลิ่นพีตจาง ๆ ควบคู่ไปกับกลิ่นหอมของดอกไม้ น้ำผึ้ง ผลไม้ และเครื่องเทศ
Island
เป็นแหล่งที่มีโรงกลั่นไม่มากนัก ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ตามเกาะต่าง ๆ ซิงเกิลมอลต์จากที่นี่ได้รับความนิยม เพราะมีกลิ่นอายของน้ำทะเล และกลิ่นพีตจาง ๆ โรงกลั่นที่มีชื่อเสียง คือ Talisker โรงกลั่นเก่าแก่ ก่อตั้งในปี 1930 ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Skye
Lowland
แหล่งผลิตจากพื้นที่ราบลุ่ม ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่โรง ซิงเกิลมอลต์ของที่นี่จะเบาและแห้งกว่าเขต Highland แต่จะมีกลิ่นหอมของดอกสายน้ำผึ้ง ชินนามอน และกลิ่นอายความสดชื่นจากแถบ Lowland จัดว่าเป็นซิงเกิลมอลต์ที่ดื่มง่ายพอควรเลย
แนะนำ Cocktail จากซิงเกิลมอลต์วิสกี้
ถึงแม้จะเป็นวิสกี้ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับความนิยมในการดื่มแบบละเลียดเพื่อให้รสชาติที่ชัดเจน แต่ซิงเกิลมอลต์วิสกี้ ก็นำมาผสมเป็นค็อกเทลได้อย่างลงตัวเช่นกัน
สูตรค็อกเทล Highball
ใครที่ไปตามร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารสไตล์อิซากายะ หรือผับบาร์บ่อย ๆ คงคุ้นเคยกับค็อกเทลสูตรนี้เป็นอย่างดี เป็นเมนูเครื่องดื่มรสชาติดี ที่ทำเองได้ง่ายมาก ๆ
ส่วนผสม
• The Singleton ซิงเกิลมอลต์วิสกี้ 30 ml
• โซดา หรือน้ำเปล่า 50 ml
• Ginger Ale หากชอบหวาน 50 ml
• มะนาวฝาน
สูตรค็อกเทล orchard
ส่วนใครที่ชอบความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า จากความซ่าของโซดา และความหอมของผลไม้อย่างแอปเปิล บวกกับรสชาติละมุนละไมของซิงเกิลมอลต์วิสกี้ ต้องไม่พลาดสูตรนี้
ส่วนผสม
• The Singleton ซิงเกิลมอลต์ 12 ปี 50 ml
• โซดา 50 ml
• น้ำแอปเปิล 50 ml
• ใบมิ้นต์ สำหรับตกแต่ง
กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของซิงเกิลมอลต์วิสกี้ นอกจากสามารถนำไปผสมเป็นสูตรค็อกเทล orchard ได้แล้ว ก็ยังผสมสูตรค็อกเทลต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ใครอยากสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ กับสกอตวิสกี้ระดับพรีเมียมที่ครองใจคนมาแล้วทั่วโลก ขอแนะนำให้ลอง Single Malt Whisky คุณภาพระดับโลกอย่าง The Singleton (เดอะ ซิงเกิลตัน) สกอตวิสกี้รสชาติกลมกล่อม ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 120 ปี พร้อมจะเปิดโลกนักดื่มของคุณให้โดดเด่นและแตกต่างเหนือใคร