กรุงเทพฯ – 2 ธันวาคม 2564 – เกรท วอลล์ มอเตอร์ โชว์ศักยภาพการลงทุนของประเทศไทย นำทัพนักลงทุนชาวจีนจากอุตสาหกรรมต่างๆ เข้าร่วมคาราวานรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV มุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมแวะเช็คอินสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระหว่างทางทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ตาก ลำปาง และเชียงใหม่ ที่มีความสวยงามและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ตลอด 4 วัน 3 คืน ยืนยันความพร้อมและศักยภาพสำหรับการลงทุน เพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและหนุนนักลงทุนเพิ่มเม็ดเงินการลงทุนในประเทศ มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจไทยหลังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
มร. เอลเลียต จาง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน เราตระหนักถึงศักยภาพและความพร้อมของไทยที่ยังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางความท้าทายที่นานาประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ เราพร้อมสนับสนุนและจัดกิจกรรมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ เราจึงได้จัดคาราวานยานยนต์ขึ้น โดยนำคณะนักลงทุนชาวจีนจากอุตสาหกรรมชั้นนำหลากหลายประเภท ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของไทย และได้พาคณะเดินทางแวะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่ง เพื่อให้นักลงทุนได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของไทยตลอดเส้นทางและเห็นโอกาสลงทุนอีกมากมายในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับภาคประชาชน”
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เชื่อมั่นว่าประเทศไทย มีความพร้อมทั้งระบบสาธารณูปโภคที่ครอบคลุม มีการพัฒนาแรงงานให้มีทักษะพร้อมรองรับอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ อยู่เสมอ รวมไปถึงตำแหน่งที่ตั้งของประเทศซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของภูมิภาค นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคมอย่างแน่นแฟ้น การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงให้ทั่วโลกเห็นถึงความพยายามในการต่อสู้กับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และช่วยเสริมจุดแข็งในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจมายังประเทศไทย ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้การลงทุนในไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อไปในอนาคต
สำหรับการจัดกิจกรรมคาราวานยานยนต์ในครั้งนี้ มีนักธุรกิจและนักลงทุนจากประเทศจีนเข้าร่วมกว่า 18 ราย จากหน่วยงานและบริษัทต่างๆ อาทิ สมาคมพันธมิตรกฎหมายไทย – จีน บลูโอเชี่ยน นิว เอ็นเนอร์จี ไฮเออร์ อีเล็คทริค ประเทศไทย ไชน่า ยูนิคอม โอปอเรชั่นส์(ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น โดยคณะนักธุรกิจและนักลงทุน ได้ร่วมเดินทางใช้รถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV เดินทางจากกรุงเทพมหานครผ่านเส้นทางในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ อยุธยา นครสวรรค์ ตาก ลำปาง และเชียงใหม่ เพื่อชมทัศนียภาพระหว่างทาง รวมไปถึงการแวะพูดคุยกับหน่วยงานธุรกิจ รวมถึงศึกษาดูงานในจังหวัดต่างๆ ระหว่างทาง อาทิ หอการค้าจังหวัดตาก กลุ่มเศรษฐกิจชายแดนพม่า-ไทย หอการค้าจากจังหวัดเชียงใหม่ โรงงานเซรามิคในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
นอกจากนี้ คณะนักธุรกิจและนักลงทุนยังมีโอกาสได้แวะพักผ่อนและเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารเลิศรสในจังหวัดต่างๆ เช่น พระธาตุดอยสุเทพ รวมถึงรับชมการแสดงพื้นเมืองล้านนา กิจกรรมลอยกระทง รวมไปถึงการเยี่ยมชม GWM Partner Store ที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วยเช่นกัน
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพทั้งทางความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการลงทุน ทั้งนี้ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง แต่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศจีนซึ่งถือเป็นกลุ่มหลักที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไทย โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (Economic Intelligence Center: EIC) เผยทิศทางการลงทุนของนักลงทุนจีนในประเทศไทยหลังโควิด-19 พบว่า นักลงทุนจีนกว่า 2 ใน 3 จาก 170 รายให้ความสนใจที่จะขยายการลงทุนมายังไทยในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ราว 60% ยังเป็นกลุ่มที่ไม่เคยลงทุนหรือทำธุรกิจในประเทศไทยมาก่อน การจัดกิจกรรมคาราวานยานยนต์ในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสใหม่ที่สำคัญในการเรียกความเชื่อมั่นและแสดงศักยภาพของประเทศไทยให้กับกลุ่มนักลงทุนชาวจีน ในฐานะตลาดที่มีศักยภาพและอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่พร้อมเป็นศูนย์กลางของอาเซียนให้กับจีนในอนาคต โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างการลงทุนในไทยจากอุตสาหกรรมที่ใช้เงินลงทุนสูงสู่การลงทุนขนาดเล็กลง เล็งเจาะภาคอุตสาหกรรมบริการ เทคโนโลยี สาธารณูปโภค และโลจิสติกส์
ในขณะที่ KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2565 โต 3.9% โดยเศรษฐกิจจะยังอยู่ต่ำกว่าระดับก่อนโควิด-19 จนถึงปี 2023 อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะเริ่มฟื้นตัว หลังดำเนินนโยบาย “อยู่ร่วมกับโควิด” (Living with Covid) พร้อมเปิดเศรษฐกิจและเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และมีอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) ดำเนินกิจการภายใต้กลยุทธ์ที่มุ่งเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV Leader) ซึ่งพร้อมยืนหยัดเคียงข้างผู้บริโภคและสังคมไทยเพื่อก้าวผ่านสถานการณ์อันท้าทายนี้ไปด้วยกัน พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
เกี่ยวกับเกรท วอลล์ มอเตอร์
เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM ผู้ผลิตรถเอสยูวีและรถกระบะระดับโลก จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2546 และตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2554 มีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นมากกว่า 80 บริษัทและมีพนักงานกว่า 70,000 คน ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำยอดขายได้กว่าหนึ่งล้านคันต่อปี เป็นเวลาห้าปีติดต่อกัน ซึ่งนอกจากในประเทศจีน เกรท วอลล์ มอเตอร์
ยังส่งมอบรถยนต์คุณภาพไปให้กว่า 60 ประเทศและภูมิภาค และมีเครือข่ายในต่างประเทศกว่า 500 แห่งอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ :
Facebook : GWM Thailand
Instagram : GWM Thailand
Website : www.gwm.co.th
Twitter : GWM Thailand
YouTube : GWM Thailand
Line Official : GWM Thailand