การใช้ไม้เป็นวัสดุก่อสร้าง ไม่ว่าจะเพื่อการตกแต่งบ้าน หรือใช้ทำเฟอร์นิเจอร์นั้นมีความสวยงามเป็นธรรมชาติ แต่ก็มีปัญหาที่ต้องพบเจออย่างแน่นอนคือ หากใช้ไปนานจะเกิดอาการสีลอก สีจาง ทำให้ไม่สวยงาม และส่งผลกระทบต่อพื้นผิวนั้น ๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าปวดหัวอย่างมากมาย ทางแก้ที่สะดวกรวดเร็วคือการใช้สีทาไม้ เพื่อช่วยในการยืดอายุของไม้ให้คงทนยาวนานกว่าเดิม แต่หลายคนก็สงสัยว่าสีทาไม้ มีอยู่หลายชนิด แต่ละชนิดเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จะเลือกใช้งานแบบไหนดี วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบคุณสมบัติ ในการใช้งานด้านต่าง ๆ ของ สีทาไม้ ตัวช่วยที่จะปกป้องไม้ของคุณให้สวยคงทนยาวนาน
มารู้จักกับสีทาไม้กันก่อน
เป็นสีที่ผลิตมาเพื่อใช้งานในการเคลือบเงาไม้โดยเฉพาะ เป็นสีประเภทอัลขิดเรซิน (Alkyd Resin) มีชั้นฟิล์มสีแบบทึบแสงที่จะปกปิดเนื้อไม้ และลายไม้ เนื้อฟิล์มจะมีทั้งแบบเงามันและกึ่งเงา สีทาไม้จะค่อนข้างมีกลิ่นฉุนขณะใช้งาน สีจะแห้งช้า ประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง และจะมีกลิ่นตกค้างนานหลายวัน โดยส่วนใหญ่สีทาไม้จะมีทั้งสูตรน้ำมัน และสูตรน้ำที่เป็น Acrylic Resin กลิ่นจะอ่อนกว่าและแห้งเร็วกว่าแบบน้ำมัน โดยสีทาไม้จะช่วยป้องกันความชื้นจากภายนอกเข้าไปทำลายเนื้อไม้ และยังช่วยรักษาสมดุลของเนื้อไม้เอาไว้ เพื่อไม่ให้ไม้เกิดการแตกร้าว การใช้สีทาไม้ก็ไม่ต่างจากสีประเภทอื่น ๆ คือ จะมีทั้งการทาสีรองพื้นก่อนทาสีจริง
ทำไมต้องใช้สีทาไม้
ไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติ ที่ต้องมีการป้องกันไม่ให้เกิดการผุพัง และเพื่อยืดอายุการใช้งานให้นาน ๆ ด้วยเช่นกัน หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องทาสีไม้ เราจะมาดูสาเหตุกันว่า อาการของเนื้อไม้เกิดความเสียหายจากอะไรได้บ้าง
• เกิดจากแมลงกัดเซาะ สาเหตุหลักที่ความเสียหายให้กับเนื้อไม้ได้มาก ๆ เลยก็คือ สัตว์จำพวกแมลงกัดเซาะทั้งหลาย เช่น ปลวก มอด มด และแมลงกัดเซาะต่าง ๆ ที่คอยเข้ามากินเนื้อไม้ หากไม่ได้มีการป้องกันที่ดี
• เกิดจากสภาพแวดล้อม การใช้งานไม้ทั้งภายในและภายนอก ต้องเจอกับสภาพดินฟ้าอากาศ ความร้อนจากแสงแดด ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหาย ให้กับเนื้อไม้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการใช้งานไม้ภายนอก หากไม่มีการป้องกันไม้ที่ดี ยิ่งจะทำให้เกิดความเสียหายเร็วมากขึ้น
คุณสมบัติของสีทาไม้
การเลือกใช้สีทาไม้ ก็เช่นเดียวกับสีประเภทอื่น คือหากเราเลือกใช้ได้ตรงกับลักษณะงาน ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาเนื้อไม้ได้คงทนยาวนานมากกว่า เช่น สีรองพื้น สีสำหรับทาภายนอกหรือภายใน และการเลือกสีทาไม้ที่ดีนั้น ควรต้องพิจารณาจากปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
1. กันน้ำซึมได้ดี
คุณสมบัติที่สำคัญที่ต้องพิจารณาคือ การกันน้ำโดยเฉพาะกับสีที่ใช้ภายนอก เพราะมีโอกาสเจอน้ำฝนได้ตลอดเวลา หากเลือกสีทาไม้ ที่คุณภาพไม่ดี ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำที่ดี น้ำจะซึมเข้าเนื้อไม้ได้ ทำให้ไม้ผุพัง ขึ้นรา เกิดการบวมหรือพองตัว จนทำให้เกิดความเสียหายได้เร็วมากขึ้น
2. ควรมีความยืดหยุ่นสูง
เนื่องจากสภาพอากาศเมืองไทย มีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา ต้องเจอทั้งความร้อนจากแสงแดด ลมแรง และฝนตก ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบกับเนื้อไม้ทั้งสิ้น เพราะจะทำให้ไม้บิด หด และพองตัวได้ ดังนั้น การเลือกสีทาไม้ที่มีความยืดหยุ่นได้ดี จะช่วยรักษาเนื้อไม้ได้ทุกรูปแบบ โดยไม่เกิดความเสียหาย
3. มีคุณภาพมาตรฐาน
สีทาไม้หลาย ๆ ยี่ห้อ อาจจะมีการระบุว่า ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก แต่การเลือกใช้สีที่ตรงกับลักษณะของการใช้งาน จะตอบโจทย์คุณภาพได้ดีที่สุด จะช่วยรักษาความเงางาม ความสวยสดของสีได้ยาวนาน ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราตะไคร่น้ำ และควรเลือกจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และได้รับความไว้วางใจ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามเกรดและราคา เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทาสีบ่อย ๆ สิ้นเปลืองทั้งเวลาและงบประมาณ
การใช้งานสีทาไม้นั้น ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไร หากมีความเข้าใจในรายละเอียดเบื้องต้นก่อน เพื่อที่จะเลือกชนิดของสีที่จะใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อย่าลืมว่าการใช้สีทาไม้ก็เหมือนวัสดุอื่น ๆ ทั่วไป คือเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรทาสีรองพื้นก่อนเช่นกัน ใครกำลังมองหาสีทาไม้ หรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสีทาบ้านที่หลากหลาย ลองเข้าไปที่ https://www.toagroup.com/ ผู้นำทางผลิตภัณฑ์และบริการด้านสีทาบ้าน ที่ได้รวมสาระความรู้ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ เพื่อการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด