ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด–19 ในปัจจุบันทำให้หลายคนจำเป็นต้องทำงานที่บ้าน (Work from home) แต่ทราบหรือไม่ว่าการนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมนานๆ โดยไม่ขยับหรือเปลี่ยนอิริยาบถ รวมถึงการนั่งอย่างที่ไม่เหมาะสม อาจเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดหลังจากการนั่งผิดท่าเป็นระยะเวลานาน และอาจลุกลามจนเป็นออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) ได้โดยไม่รู้ตัว แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมจากสารสกัดธรรมชาติ ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด กภ.บุญญาพร เลิศวัฒนกิตติ มาแนะ “นั่งทำงานอย่างไรให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) พร้อมเทคนิคการนวดผ่อนคลายตัวเองระหว่างการทำงานที่บ้าน” กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างความผ่อนคลาย อาทิ ‘ไทม์ ทู รีเฟรช’ (Time to RefreshTM), ‘ก้านไม้หอม’ (Aroma diffuser), ‘บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์’ (Bath & Massage Oil) และ ‘บอดี้ บัตเตอร์’ (Body Butter) ร่วมกับเซเลบริตี้สาวสวยมาเผยเคล็ดลับการสร้างความผ่อนคลายระหว่างทำงานอยู่ที่บ้านตามแบบฉบับของตนเอง อาทิ ปณิตา ศรไทยเทวา, ศิตา ชุติภาวรกานต์ และ สิรี วงศ์รักมิตร
กภ.บุญญาพร เลิศวัฒนกิตติ ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด ได้แนะนำการจัดท่านั่งทำงานอย่างไรให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม พร้อมเทคนิคการนวดผ่อนคลายตัวเองระหว่างการทำงานที่บ้าน ว่า “ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) คือ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) รวมถึงอาการปวดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อและเอ็น (Tendinitis) และอาการปวดชาจากปลายประสาทที่ถูกกดทับบริเวณหลัง บ่า คอ ศีรษะ แขน และข้อมือ อาการเหล่านี้มักพบได้บ่อยกับกลุ่มคนทำงานออฟฟิศที่นั่งทำงานในท่าเดิมนานเกินไป โดยไม่มีการขยับปรับเปลี่ยนท่าหรืออิริยาบถ ซึ่งอาการในระยะแรกนั้นอาจไม่รุนแรงมากเหมือนเป็นการปวดธรรมดาทั่วไป หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาการอาจรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโรคปวดเรื้อรังได้
การจัดท่านั่งที่ถูกต้องในการทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ
· ศีรษะ ตั้งตรง ไม่ยื่นคอ เก็บคาง ไม่หนีบโทรศัพท์คุย
· ตา อยู่ระดับเดียวกับหนาจอ ห่างประมาณ 45-60 ซม.
· หลัง นั่งหลังตรง พิงพนักเล็กน้อย
· ต้นขาและสะโพก นั่งบนเบาะให้เต็มก้น และขนานกับพื้น
· ข้อมือและแขน อยู่ระนาบเดียวกกับแป้นพิมพ์ หากใช้เม้าส์ควรมีที่รองข้อมือ
· ข้อศอก แนบลำตัว งอศอกทำมุม 90-120 องศา
· ไหล่ ไม่ยกและปล่อยแขนช่วงบนตามธรรมชาติ
· หัวเข่า ควรอยู่ระดับเดียวกับสะโพก ให้ปลายเท้าวางล้ำไปข้างหน้าเล็กน้อย
· เท้า วางแนบพื้น หากความสูงของโต๊ะไม่พอดี ควรใช้กล่องหรือที่รองมาไว้วางเท้า
คนส่วนใหญ่ที่นั่งทำงานทั้งวันมักมีอาการปวดหลังส่วนบนและส่วนล่างตามมา สาเหตุจากท่านั่งที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการนั่งท่าใดท่าหนึ่งนานจนเกินไป ดังนั้นควรแก้ด้วยการเปลี่ยนอิริยาบททุก 1 ชั่วโมงด้วยท่าที่เหมาะสม ได้แก่
ผสานมือทั้ง 2 ข้างเหยียดตรงขึ้นไปเหนือศีรษะ ยืดตัวค้างไว้ 10 วินาที ทำติดต่อกัน 5 ครั้ง จะช่วยฝึกยืดตัวระหว่างนั่งทำงาน
· นำมือทั้ง 2 ข้างท้าวเอวแล้วหมุนสะโพกไปข้างหลัง สลับกันซ้าย-ขวา ทำซ้ำ 20 ครั้ง จะช่วยให้กระดูกสันหลังยืดยุ่นตัวมากขึ้น ช่วยลดอาการปวดหลังได้
· เก็บคางเข้าหาแนวกลางลำตัวค้างไว้ 5 วินาที ทํา 10 ครั้ง จะช่วยลดภาวะคอยื่นไปข้างหน้า
นอกจากนี้ยังมีวิธีผ่อนคลายส่วนต่างๆ ของร่างกายจากอาการเมื่อยล้า โดยสามารทำได้ดังนี้
· ยืนตัวตรงชิดกําแพง พยายามให้ศีรษะ ไหล่ และหลัง ชิดติดกําแพงให้มากที่สุด ยกแขนขึ้นทํามุมตั้งฉาก ผ่อนบ่าสบายๆ ให้รู้สึกเกร็งบริเวณสะบักด้านหลังค้างไว้ 10 วินาที ทําซํ้า 10 ครั้ง จะช่วยลดการเกร็งของคอ บ่าและไหล่
· ยืนก้มตัวหันหน้าเข้าหากำแพงในระยะห่างที่พอดี โน้มตัวไปข้างหน้าโดยใช้มือยันกําแพงไว้ และปล่อยตัวลง ค้างไว้ 10 วินาที ทําซํ้า 5-6 ครั้ง จะช่วยยืดกล้ามเนื้อด้านหน้า และลดภาวะหลังค่อม
· นั่งไขว้ขาข้างขวาเหมือนท่านั่งไขว่ห้าง แล้วหมุนลําตัวด้านบนไปทางขวาค้างไว้ 10 วินาที ทํา 5-6 ครั้งแล้วสลับข้าง จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยหลังและสะโพก
· นั่งไขว้ขาข้างขวาเป็นเลข 4 แล้วก้มตัวลงไปด้านหน้าค้างไว้ 10 วินาที ทํา 5-6 ครั้งแล้วสลับข้าง จะช่วยลดอาการปวดหลัง, สะโพกและก้น
ภาวะออฟฟิศซินโดรมนั้น นอกจากจะมีสาเหตุหลักมาจากการนั่งทำงานด้วยท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานานแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยร่วม คือ “ความเครียด” จากการทำงาน ดังนั้นจึงควรหาเวลาผ่อนคลายทางด้านอารมณ์ระหว่างการทำงานด้วยการใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) จากน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ อาทิ ไทม์ ทู รีเฟรช และ ก้านไม้หอม นอกจากนี้การทำสปาด้วยตัวเองที่บ้านด้วยการแช่ตัวในน้ำอุ่นที่ผสมบาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ หรือการนวดตัวด้วยบอดี้ บัตเตอร์ ร่วมกับท่านวดเพื่อความผ่อนคลาย นอกจากจะช่วยคลายกล้ามเนื้อและความเครียดแล้ว ยังสามารถบำรุงผิวให้เนียนุ่มชุ่มชื้นไปพร้อมกันได้”
ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 19 ปีที่ผ่านมา ‘ธัญ’ (THANN) มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม และครั้งนี้แบรนด์ ‘ธัญ’ (THANN) ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีจำหน่ายในร้านและเคาน์เตอร์ ‘ธัญ’ (THANN) กว่า 100 สาขาในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป
ไทม์ ทู รีเฟรช (Time to RefreshTM) ขนาด 15 มล. ราคา 410 บาท เติมความสดชื่นระหว่างวัน ด้วยส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) 8 ชนิด อาทิ เกล็ดสาระแหน่ (Menthol), ยูคาลิปตัส (Eucalyptus), เปปเปอร์มินท์ (Peppermint), เลมอน (Lemon peel oil), โรสแมรี่ (Rosemary ), กานพลู (Clove), พริกไทยดำ (Black Pepper ) และจันทน์เทศ (Nutmeg) เนื้อเจลบางเบา สูตรเย็น มอบคุณค่าการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วย ออแกนิค เชียร์บัตเตอร์ (Organic shea butter), ออแกนิค โกโก้บัตเตอร์ (Organic cocoa butter), ออแกนิค โจโจ้บา ออยล์ (Organic jojoba oil) และออแกนิค อาร์แกน ออยล์ (Organic argan oil)
‘ก้านไม้หอม’ (Aroma diffuser) ขนาด 150 มล. ราคา 1,450 บาท มอบกลิ่นหอมนุ่มนวลจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ตกแต่ง และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน หรือห้องนอน มีให้เลือก 5 กลิ่น อาทิ อะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), อีสเทิร์น ออร์ชาร์ด (Eastern Orchard), อีเดน บรีซ (Eden Breeze) และ เอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion)
‘บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์’ (Bath & Massage Oil) ขนาด 295 มล. ราคา 990 บาท เติมเต็มความชุ่มชื้น คืนชีวิตชีวา สู่ผิว ด้วยคุณค่าการบำรุงของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ อาทิ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil), น้ำมันอโวคาโดออแกนิค (Organic Avocado oil), น้ำมันดาวอินคาออแกนิค (Organic Inca Inchi oil) และน้ำมันมะกอก (Olive oil) มอบความชุ่มชื้นสู่ผิวได้ยาวนาน พร้อมมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพ สูตรบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตันรูขมุขน พร้อมกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ มีให้เลือก 6 กลิ่น คือ กลิ่นอะโรมาติก วูด (Aromatic Wood) เติมเต็มความเบิกบาน มีชีวิตชีวาด้วยส่วนผสมของ ส้ม จันทน์เทศ ส้มแทงเจอรีน และไม้จันทน์, กลิ่นโอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence) สดชื่นเบาสบายด้วยกลิ่นอายแห่งโลกตะวันออกด้วยส่วนผสมของตะไคร้และมะกรูด, กลิ่นอีเดน บรีซ (Eden Breeze) ให้ความสงบสมดุล แฝงความอบอุ่นอ่อนหวานด้วยส่วนผสมของดอกมะลิและดอกกุหลาบ, กลิ่นอีสเทิร์น ออร์เชิร์ด (Eastern Orchard) สดชื่นรื่นรมย์ด้วยส่วนผสมของส้มยูซุ มะนาว น้ำมันหอมระเหย และดอกมะลิ, กลิ่นสปริง ฟอเรสต์ (Spring Forest) สะอาด สดชื่น มีชีวิตชีวาด้วยส่วนผสมของหญ้าแฝก เมล็ดถั่ว และเจอราเนียม และกลิ่นลาเวนเดอร์โรสแมรี่ (Lavender & Rosemary) ที่มอบความผ่อนคลายด้วยส่วนผสมของดอกลาเวนเดอร์และดอกโรสแมรี่
‘บอดี้ บัตเตอร์’ (Body Butter) ขนาด 350 มล. ราคา 1,550 บาท ผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายสูตรเสริมประสิทธิภาพที่ให้มากกว่าความชุ่มชื้น คืนความเรียบเนียนสู่ผิว ผิวเรียบเนียนขึ้น 19%, ความชุ่มชื้นของผิวเพิ่มขึ้น 22.9%* แม้เวลาผ่านไป 6 ชั่วโมง รวมถึง 90% ของผู้ทดสอบผิวมีความกระจ่างใสขึ้น*** ด้วยส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ สารสกัดอานุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ (Nano shiso extract), สารสกัดจากจมูกข้าวบาร์เลย์ (Barley extract), เมล็ดเชียบัตเตอร์ออแกนิค (Organic Shea Butter), โจโจ้บา ออยล์ ออแกนิค (Organic Jojoba oil), น้ำมันมะพร้าวออแกนิค (Organic Coconut oil), น้ำมันรำข้าว (Rice bran oil), สารสกัดอานุภาคขนาดเล็กจากบุทเชอร์บรูม (Butcher]s broom extract), สารสกัดมิลค์ทิสเทิล (Milk Thistel extract), สารสกัดจากสนหางม้า (Horsetail extract), สารสกัดจากสาหร่ายทะเล (Bladderwrack extract), สารสกัดจากสาหร่ายเคลป์ (Kelp extract), สารสกัดจากใบไอวี่ (Ivy extract) และ สารสกัดจากรากชะเอมเทศ (Licorice extract) โดยแนะนำให้ใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายจะช่วยให้ผิวกระชับและเรียบเนียนน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น
(* ทดสอบโดยสถาบันผิวหนัง Dermscan Asia กับผู้หญิงเอเชีย อายุ 37 – 58 ปี จำนวน 21 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์ 4 สัปดาห์
** ทดสอบด้วยวิธี Corneometry โดย Spincontrol Asia Co., Ltd (France) กับผู้หญิงเอเชีย 22 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์เป็นระยะเวลา 6 ชั่วโมง
*** ทดสอบด้วยวิธี Chromametry โดย Spincontrol Asia Co., Ltd (France) กับผู้หญิงเอเชีย 22 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์)
เทคนิคการสร้างความผ่อนคลายง่ายๆ ระหว่างวันด้วยผลิตภัณฑ์ Time to Refresh
ท่านวดผ่อนคลายสำหรับนวดให้คนในครอบครัว
ด้านเซเลบริตี้ต่างร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเคล็ดลับการสร้างความผ่อนคลายระหว่างทำงานอยู่ที่บ้านตามแบบฉบับของตนเอง เริ่มที่ ปณิตา ศรไทยเทวา เล่าว่า “การเวิร์คฟอร์มโฮมก็มีข้อดีตรงที่ช่วยให้เราประหยัดเวลาในการเดินทาง สามารถมีเวลาทำงานเยอะขึ้น เราจึงจัดสถานที่สำหรับนั่งทำงานที่บ้านโดยเลือกห้องที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง สามารถมองเห็นท้องฟ้าหรือต้นไม้ได้ เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างการทำงาน โดยไม่ควรนั่งทำงานในท่าเดิมเกิน 1-2 ชั่วโมง และหมั่นขยับร่างกายเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ สลับกับการลุกเดินประมาณ 5-10 นาที เนื่องจากหากเรานั่งนานๆ ก็จะทำให้ปวดหลัง ส่วนเคล็ดลับการสร้างความผ่อนคลายระหว่างการทำงาน หรือเวลาที่คิดงานไม่ออก เราจะมีตัวช่วยอย่างการนวดขมับด้วยไทม์ ทู รีเฟรช รวมถึงการสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายด้วยก้านไม้หอมซึ่งเราจะวางไว้ทุกห้อง ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นด้วยกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ พอหมดวันก็จะผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำอุ่นที่ผสมบาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ กลิ่นลาเวนเดอร์โรสแมรี่ นอกจากจะได้ผ่อนคลายจากกลิ่นหอมแล้ว ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวเราได้เป็นอย่างดี เพราะการแช่น้ำอุ่นนานๆ ผิวอาจสูญเสียความชุ่มชื้นและทำให้ผิวแห้งได้ง่าย หลังจากอาบน้ำเสร็จก็จะบำรุงผิวด้วยบอดี้ บัตเตอร์ ทุกครั้ง เพื่อผิวจะได้ไม่แห้งกร้านและยังคงความชุ่มชื้นอย่างมีสุขภาพดี”
ถัดมาที่ ศิตา ชุติภาวรกานต์ เล่าว่า “ตั้งแต่ที่ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานมาเป็นเวิร์คฟอร์มโฮม ทำให้เราต้องนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่าอยู่ที่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นการประชุม ตรวจงาน รวมถึงให้คำปรึกษากับพนักงานที่มีข้อสงสัยหรือต้องส่งงานให้กับเราตลอดทั้งวัน ดังนั้นเราจึงเน้นให้ความสำคัญกับการจัดท่านั่งให้เหมาะสม หากเรานั่งในท่าที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้เกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังได้ พอหมดวันมีหลายครั้งที่รู้สึกปวดเมื่อย อ่อนล้าทั้งหลังและสายตา เราก็จะใช้วิธีนวดกดเบาๆ ตามจุดต่างๆ แต่การนวดเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถทำให้ความเครียดและความเหนื่อยล้าหายไปได้ เราจึงต้องมีตัวช่วยอย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการผ่อนคลายร่วมด้วย อย่างวันไหนที่ต้องประชุมหลายงานติดต่อกันก็มักจะเติมความสดชื่นระหว่างวันด้วยไทม์ ทู รีเฟรช ซึ่งสะดวกและง่ายต่อการพกพา สามารถหยิบใช้งานได้ตลอดวัน รวมถึงสร้างบรรยากาศความหอมภายในห้องด้วยก้านไม้หอม พอหมดวันก็จะแช่ตัวในน้ำอุ่นที่ผสมบาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์ เพื่อคืนความมีชีวิตชีวาด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักทั้งวันได้”
ปิดท้ายที่ สิรี วงศ์รักมิตร เผยว่า “มิ้งทำงานเป็นหมอเฉพาะทางด้านโภชนาการ พอเลิกจากงานประจำก็ต้องกลับมาเวิร์คฟอร์มโฮมต่อ เพราะต้องเตรียมพรีเซ้นต์งานควบคู่กับการทำงานวิจัย ซึ่งเวลาส่วนใหญ่แต่ละวันจึงหมดไปกับการทำงาน ดังนั้นห้องทำงานของมิ้งที่บ้านก็จะจัดบรรยากาศให้เหมาะสมกับการทำงาน เช่น การจัดแสงสว่างให้เพียงพอ เปิดเพลงคลอเบาๆ พร้อมกับเปิดเครื่องกระจายกลิ่นหอม รวมถึงวางก้านไม้หอมไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างการทำงาน พยายามจัดสรรเวลานั่งทำงานให้ไม่เกินรอบละ 1 ชั่วโมง สลับกับการหยุดพัก 5-10 นาที เพื่อไม่ให้ร่างอ่อนล้าจนเกินไป ที่สำคัญคือต้องจัดท่านั่งอย่างเหมาะสม ส่วนเวลาที่มิ้งรู้สึกเครียดก็มักจะใช้ไทม์ ทู รีเฟรช ควบคู่กับการนวดบริเวณขมับทั้ง 2 ข้าง ก็จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที แต่หากวันไหนที่เหนื่อยล้ามากๆ ก็มักจะใช้หินกัวซานวดคอ บ่า ไหล่ระหว่างอาบน้ำ และไม่ลืมที่จะบำรุงผิวด้วยบอดี้บัตเตอร์ หลังการอาบน้ำทุกครั้ง เพื่อช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นตลอดวัน”
สัมผัสความผ่อนคลายกับผลิตภัณฑ์ ‘ธัญ’ (THANN) อาทิ ‘ไทม์ ทู รีเฟรช’ (Time to RefreshTM), ‘ก้านไม้หอม’ (Aroma diffuser), ‘บอดี้ บัตเตอร์’ (Body Butter) และ ‘บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์’ (Bath & Massage Oil) ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์ www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต และ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น จ.พระนครศรีอยุธยา