อัปเดต พายุ หว่ามก๋อ – 13 พ.ย. / ประกาศเตือน ฉบับที่ 6

◾️อุตุฯ ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 6 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือน “พายุโซนร้อนกำลังแรง “หว่ามก๋อ” (พายุระดับ 4)” ฉบับที่ 6 เมื่อช่วงเวลา 17.00 น.…

Home / NEWS / อัปเดต พายุ หว่ามก๋อ – 13 พ.ย. / ประกาศเตือน ฉบับที่ 6

ประเด็นน่าสนใจ

  • อุตุฯ ออกประกาศแจ้งเตือน พายุโซนร้อนหว่ามก๋อ ฉบับที่ 5 คาดขึ้นฝั่งเวียดนาม 15 พ.ย. และจะอ่อนกำลังลง เมื่อเวลา 17.00 น.
  • ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังพายุหว่ามก๋อ พัดผ่าน เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ จนท.ต้องเร่งช่วยเหลือผู้ติดค้าง มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย บาดเจ็บ 20 ราย และสูญหาย 15 ราย
  • พายุไต้ฝุ่นหว่ามก๋อ แม้ว่าอ่อนกำลังลงไปเป็นพายุโซนร้อนแล้ว แต่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงอีกครั้ง ก่อนเริ่มอ่อนกำลังลงเป็นรอบที่ 2 ก่อนพัดขึ้นฝั่งเวียดนาม 15 พ.ย.นี้
  • ส่วนผลกระทบต่อประเทศไทยยังคงต้องติดตาม เนื่องจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงกำลังแรงจากจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน

◾️อุตุฯ ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 6

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือน “พายุโซนร้อนกำลังแรง “หว่ามก๋อ” (พายุระดับ 4)” ฉบับที่ 6 เมื่อช่วงเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมาโดยระบุว่า

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (13 พฤศจิกายน 2563) พายุโซนร้อนกำลังแรง “หว่ามก๋อ” (พายุระดับ 4) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น (พายุระดับ 5) แล้ว มีศูนย์กลางอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ประมาณ 600 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 15.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.9 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้น และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามประมาณวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ

ซึ่งจะส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเกิดขึ้นได้ในช่วงวันที่ 15-16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ขอให้เกษตรกรบริเวณดังกล่าวเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ซึ่งในส่วนของจังหวัดที่จะได้รับผลกระทบนั้น จะทำให้มีเมฆเพิ่มขึ้น มีฝนเล้กน้อยถึงปานกลาง และมีลมแรง ในพื้นที่

  • ภาคอีสานตอนบน และฝั่งตะวันออก บริเวณมุกดาหาร นครพนม สกลนคร บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู
  • ภาคเหนือด้านตะวันออก บริเวณอุตรดิตถ์ น่าน เชียงราย

◾️พายุหว่ามก๋อ ถล่มฟิลิปปินส์

ประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นหว่ามก๋อที่พัดถล่มบริเวณเกาะลูซอน ตั้งวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยพายุหว่ามก๋อได้ทวีความรุนแรงขึ้นจากพายุโซนร้อนเป็นพายุไต้ฝุ่น พัดขึ้นฝั่งบริเวณเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นบริเวณกล้เคียงกับเดียวกับที่พายุไต้ฝุ่นโคนี เพิ่งพัดผ่านไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

ซึ่งทำให้เกิดฝนตกอย่างหนัก และมีน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีลมแรง พัดต้นไม้ และสิ่งปลูกสร้างหักโค่น รวมถึงมีคลื่นซัดฝั่งอย่างรุนแรง

ประชาชนบางส่วนที่คิดค้างอยู่ในยางจุด ทางการฟิลิปปินส์ต้องนำเฮลิคอปเตอร์เข้าไปช่วยเหลือลำเลียงออกมา เนื่องจากเส้นทางทั้งหมดถูกตัดขาด และกระแสน้ำแรงจนไม่สามารถใช้เรือเข้าไปได้

ซึ่งอีกหลายพื้นที่ได้มีการใช้เรือยาง รถ GMCของทหาร เข้าไปช่วยเหลือในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม โดยในขณะนี้ ทางการฟิลิปปินส์ ต้องอพยพประชาชนกว่า 3.5 แสนรายออกจากพื้นที่ที่พายุพัดผ่าน และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 ราย จากทั้งที่ถูกน้ำพัดพา ดินถล่ม นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหาย 15 ราย ที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังพยายามเร่งค้นหาอยู่

(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนเดินฝ่าน้ำท่วมจากไต้ฝุ่นหว่ามก๋อ ในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ วันที่ 12 พ.ย. 2020)
((แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนขนสิ่งของอพยพหนีน้ำท่วมจากไต้ฝุ่นหว่ามก๋อ ในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ วันที่ 12 พ.ย. 2020)
(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุน้ำท่วมจากไต้ฝุ่นหว่ามก๋อ ในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ วันที่ 12 พ.ย. 2020)
(แฟ้มภาพซินหัว : หน่วยกู้ภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์อพยพผู้ประสบเหตุน้ำท่วมจากไต้ฝุ่นหว่ามก๋อ ในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ วันที่ 12 พ.ย. 2020)

◾️อ่อนกำลังลง แต่ยังไม่สลาย

หลังจากที่พายุไต้ฝุ่นหว่ามก๋อ พัดผ่านฟิลิปปินส์แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง นอกชายฝั่งประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพัดขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 15 พ.ย. นี้

หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นดีเปรสชั่นบริเวณทางตอนบนกลางของ สปป.ลาว

ส่วนผลกระทบต่อประเทศไทยนั้นยังคงต้องติดตามความคืบหน้าต่อไปอีกระยะ เนื่องจากสภาพอากาศเย็นในประเทศไทย จากความกดอากาศสูงกำลังแรงจากจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ยังคงมีอิทธิพลต่อพายุหว่ามก๋อ ซึ่งอาจจะทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ไม่มากนัก