ประเด็นน่าสนใจ
- ข่าวฆ่ายกครัวนายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ เกิดเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 2560 หลังบังฟัตผู้ก่อเหตุกับพวกสวมเครื่องลายพลางคล้ายทหารเข้าก่อเหตุ เพื่อเบี่ยงเบน และอำนวยความสะดวกเวลาเดินทางผ่านด่านตรวจ
- สำหรับพฤติการ การสังหารบังฟัตกับพวกใช้อาวุธปืนยิงคนในบ้านทั้งหมดไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กและผู้หญิง
- หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้วางแผยไว้แยบยล ก่อนได้หลบหนีไปกบดานที่ จ.ภูเก็ต แต่ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมได้ในที่สุด
จากกรณีที่ นายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41 ปี พร้อมพวกรวม 8 คน ก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ บุกไปสังหารนายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัติ สังหลัง อายุ 46 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านเขางาม หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมลูกเมียและญาติ เสียชีวิต รวม 8 ศพ
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค.60 หลังเกิดเหตุ 5 วัน เจ้าหน้าที่ก็สามรถติดตามจับกุมตัวได้ทั้งหมด โดยบังฟัตให้การรับสารภาพว่าเป็นคนวางแผนและลงมือก่อเหตุยิงคนในบ้านจนเสียชีวิต สาเหตุมาจากเรื่องขัดแย้งที่ดิน 2 แปลง ที่นายวรยุทธ นำไปขายฝากบังฟัต แต่บังฟัตนำที่ดินไปจำนองธนาคารอีกทอดหนึ่ง ไม่สามรถนำหลักฐานมาคืนให้ได้จึงเป็นชนวนเหตุความขัดแย้งและก่อคดีสะเทือนขวัญขึ้น
ทั้งนี้ศาลชั้นต้นได้ตัดสินประหารชีวิต บังฟัติ และจำเลยรวม 6 คน ส่วนจำเลยอีก 2 คน คือ นางชลิดา สังข์โชติ ภรรยาบังฟัต รับโทษจำคุก 12 เดือน และนายธวัชชัย บุญคง จำคุก 1 ปี 9เดือน ล่าสุดได้พ้นโทษออกมาแล้ว ขณะที่ทางทนายความของจำเลย ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาไปเมื่อปลายปี 61 นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด นายเกรียงศักดิ์ สารภี ทนายความของบังฟัต ได้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้มีหมายนัดให้ทนายและจำเลย ไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ศาลจังหวัดกระบี่ ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ เวลา 09.00 น. หลังที่ตนได้ยื่นอุทธรณ์ ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
โดยจำเลย 2 รายหลัง จะมาฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดกระบี่ ส่วนบังฟัตและพวก 6 คน ที่อยู่ในเรือนจำนครศรีธรรมราช ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะนำตัวมาฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดกระบี่หรือไม่
ส่วนความคืบหน้าที่บ้านเลขที่ 14/3 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก ซึ่งเป็นบ้านของนายวรยุทธ สังหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้าน ที่ถูกฆ่ายกครัวพบว่า ได้มีหนังสือประกาศจากสำนักงานบังคับคดีติดที่หน้าบ้าน โดยระบุว่าประกาศยึดทรัพย์ขายทอดตลาด สร้างความกังวลใจแก่บรรดาญาติของผู้ใหญ่บัติเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเป็นที่ดินพร้อมบ้านหลังดังกล่าวบังฟัตเป็นผู้นำไปจำนองไว้กับธนาคารไว้ก่อนหน้านี้แต่ไม่ได้ชำระหนี้ โดยนายจรีย์ บุตรเติม อายุ 58 ปี พ่อตาของผู้ใหญ่บัติ กล่าวว่า ขณะนี้ครอบครัวมีความกังวลมาก เพราะที่ดินที่ถูกประกาศยึดทรัพย์ นั้นมี 2 แปลง
เป็นที่บ้านของผู้ใหญ่บัติ 1 แปลง และที่บ้านของตนอีก 1 แปลง แต่ขณะนี้ทางสำนักงานบังคับคดีจังหวัดกระบี่ ได้ติดประกาศยึดทรัพย์ และเตรียมประกาศขายทอดตลาด ทำให้ตนรู้สึกเป็นกังวลมาก เพราะหากว่ามีการนำที่ดินไปขายทอดตลาด ตนและครอบครัวรวมถึงลูกของผู้ใหญ่บัติ เพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจะกลายเป็นคนไร้ที่อยู่ทันที
นายจรีย์ กล่าวด้วยว่า ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หลายหน่วยงานได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีผลอะไร เพราะธนาคารถือว่าที่ดินของตนเป็นชื่อของบังฟัตไปแล้ว เบื้องต้นทางทนายความได้ร้องขัดทรัพย์ต่อศาลจังหวัดกระบี่ และศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ แต่เนื่องจากตรงกับวันหยุดราชการ จึงได้ขอเลื่อนไปเดือนถัดไป