เหตุดินถล่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของโคลอมเบีย มีผู้เสียชีวิต 28 รายแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามค้นหาผู้รอดชีวิต
[วันที่ 23 เมษายน 2562] หน่วยจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติโคลอมเบีย หรือ UNGRD ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 28 รายแล้ว และมีผู้บาดเจ็บอีก 5 ราย หลังเกิดเหตุดินถล่มที่เมืองโรซาส ในจังหวัดเกากา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโคลอมเบีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า กำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ขณะที่ผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลแล้ว
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้สูญหายเป็นจำนวนมากคน ทำให้คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงกว่านี้ดินถล่มเกิดขึ้นเนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องนานหลายวันทางแถบชานเมืองโรซาส เกิดขึ้นในเวลาราว 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังนอนหลับ
UNGRD ระบุว่า ดินถล่มครั้งนี้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน 8 หลัง และทางหลวงสายแพนอเมริกันบางส่วน ซึ่งเชื่อมต่อจังหวัดเกากากับเมืองนาริโนก็ถูกตัดขาดเนื่องจากดินถล่มด้วย
ด้านประธานาธิบดีอีวาน ดูเก ของโคลอมเบีย เดินทางตรวจสอบพื้นที่ได้รับความเสียหายจากดินถล่ม และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เตรียมการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์และที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัยแล้ว
เหตุดินถล่มเกิดขึ้นเป็นปกติในพื้นที่เต็มไปด้วยภูเขาของโคลอมเบีย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ในพื้นที่ซึ่งมีการสร้างที่อยู่อาศัยขึ้นเองอย่างไม่ปลอดภัย และถนนแคบๆ บริเวณเทือกเขาแอนดีสที่ป่าไม้ถูกทำลาย
[วันที่ 22 เมษายน 2562] เกิดเหตุดินถล่มในพื้นที่ภูเขาของเมืองโรซาส ที่ห่างไกลทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโคลอมเบีย ซึ่งเป็นผลหลังเกิดฝนตกหนักมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน บาดเจ็บ 5 คน และบ้านเรือนจำนวน 8 หลังถูกฝังอยู่ภายใต้กองโคลน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เปิดเผยความเสียหายจากเหตุการณ์ดินโคลนถล่มครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นเมื่อเวลาช่วงเช้าของวันที่ 21 เม.ย. 2562 โดยสำนักงานจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติโคลอมเบีย ระบุ เหตุดินถล่มทำให้บ้านเรือนพังเสียหายอย่างน้อย 8 หลังถูกฝังอยู่ภายใต้กองโคลน เศษดินหินยังปิดกั้นทางหลวงสายแพน-อเมริกัน และบริเวณชุมชนโรซาส ที่อยู่ห่างจากกรุงโบโกต้าเมืองหลวงของประเทศไปราว 630 กิโลเมตร ทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านได้
หลังเกิดเหตุ ทางด้านประธานาธิบดีอีวาน ดูเก แห่งโคลัมเบียได้ทวีตข้อความให้กำลังใจกับครอบครัวของผู้เคราะห์ร้าย และผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งปัจจุบันถูกนำตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย โดยนำเครื่องจักรกลหนักมาเคลียร์เศษดินและซากปรักหักพังออกไป
การเตรียมพร้อมและการป้องกันเหตุดินถล่ม โดยสังเกตสิ่งผิดปกติดังนี้
- ให้สังเกตว่ามีฝนตกหนักถึงหนักมาก มากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวันหรือไม่
- ระดับน้ำในห้วยสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหรือไม่
- น้ำในลำห้วยขุ่นมาก หรือมีสีแดงขุ่น แสดงว่าจะมีตะกอนไหลมาตามลาดเขา อาจเป็นสัญญาณดินถล่ม
- ก่อนดินถล่ม เวลาฝนตกนานๆ อาจมีเสียงดัง อื้ออึง ผิดปกติดังมาจากภูเขาและลำห้วย
ระหว่างเกิดเหตุดินถล่มควรทำอย่างไร ?
- ถ้าฝนตกหนักแบบไม่หยุดติดต่อกันหลายวัน ดินบนภูเขาอาจถล่ม ควรอพยพ หรือให้หนีไปอยู่ที่สูงๆ และรีบแจ้งเรื่องให้ทราบทั่วกันโดยเร็ว
- ถ้าพลัดตกไปในกระแสน้ำห้ามว่ายน้ำหนีเป็นอันขาด เพราะอาจจะโดนซากต้นไม้ หรือก้อนหินที่ไหลมากับโคลนกระแทกจนตายได้ และหาต้นไม้ใหญ่ที่ใกล้ที่สุดเกาะไว้แล้วปีนหนีน้ำให้ได้
หลังเกิดเหตุ - อย่าปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน ขวางทางน้ำหรือใกล้ลำห้วยมากเกินไป
- อย่าตัดไม้ทำลายป่า และช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อช่วยดูดซับน้ำ
- จัดเวรยามเพื่อเดินตรวจตาดูสถานการณ์รอบๆ หมู่บ้าน เพื่อสังเกตสิ่งผิดปกติยามค่ำคืน
- ติดตามสถานการณ์และข่าวการพยากรณ์อากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน อย่างใกล้ชิด
- สำรองอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และ อุปกรณ์ฉุกเฉิน
ที่มา www.accuweather.com, www.reuters.com
CR.Photo : @bestgug