นปช ล้มประชุมอาเซียน ล้มประชุมอาเซียน อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง

พ.ต.ท.ไวพจน์ ถูกสั่งจำคุกคดีล้มประชุมอาเซียนเมื่อปี 2552

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำคุก 4 ปี 12 แกนนำนปช. ยกฟ้อง 1 ในคดีเป็นแกนนำพากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บุกปิดล้อมโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช…

Home / NEWS / พ.ต.ท.ไวพจน์ ถูกสั่งจำคุกคดีล้มประชุมอาเซียนเมื่อปี 2552

ประเด็นน่าสนใจ

  • การล้มประชุมอาเซียนเกิดขึ้นเมื่อปี 2552
  • ศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำคุก 4 ปี แกนนำ นปช.
  • ส่งผลให้ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์ ซึ่งขณะนี้เป็น ส.ส.กำแพงเพชร สังกัดพรรคพลังประชารัฐ พ้นหน้าที่ ส.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำคุก 4 ปี 12 แกนนำนปช. ยกฟ้อง 1 ในคดีเป็นแกนนำพากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บุกปิดล้อมโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา และล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2552

จำเลยทั้งหมดประกอบไปด้วย

  • นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง
  • นายนิสิต สินธุไพร
  • นายพายัพ ปั้นเกตุ
  • นายวรชัย เหมะ
  • นายวันชนะ เกิดดี
  • นายพิเชฐ สุขจินดาทอง
  • นายศักดิ์ดา นพสิทธิ์
  • พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์
  • นายนพพร นามเชียงใต้
  • นายสำเริง ประจำเรือ
  • นายสมยศ พรหมมา
  • นพ.วัลลภ ยังตรง
  • และนายสิงทอง บัวชุม

โดยศาลได้ยกฟ้องจำเลยที่ 4 คือ นายสมยศ พรหมมา เพราะเป็นมวลชนธรรมดาไม่ใช่แกนนำ จำเลยที่มาฟังคำพิพากษาวันนี้มีแค่จำเลยที่ 10 คือ นายศักดา นพสิทธิ์ เลขาธิการพรรคเพื่อชาติ เพียงคนเดียว

จะเห็นได้ว่าในจำนวนนี้มี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ รวมอยู่ด้วย และจากกรณีดังกล่าวจะทำให้ พ.ต.ท.ไวพจน์ พ้นจากการเป็น ส.ส. เพราะขาดคุณสมบัติ

ขณะที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ ยังมาประชุมที่สภาผู้แทนราษฎรตามปกติ ท่ามกลางการถุูกจับตามองว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำหมายจับมาจับกุมตัวหรือไม่

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อศาลฎีกา พิพากษาแล้ว จึงไม่เกี่ยวกับเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส.เพราะเอกสิทธิ์จะคุ้มครองเฉพาะตอนต่อสู้คดีเท่านั้น แต่เมื่อศาลพิพากษาแล้ว จึงไม่เกี่ยวกัน ดังนั้น กรณีนี้ถือว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ พ้นจากการเป็น ส.ส.เพราะศาลได้ตัดสินจำคุกโดยไม่รอลงอาญา

ทนายความของกลุ่มแนวร่วม นปช. เปิดเผยว่า สาเหตุที่ศาลยกฟ้องจำเลยที่ 4 เนื่องจาก โจทก์ไม่มีพยานที่เห็นเหตุการณ์จึงยกประโยชน์ให้แก่จำเลย ส่วนจำเลยที่เหลือ 10 คน ในจำนวนนี้ 3 คน มีพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสำเริง ประจำเรือ และนายวรชัย เหมะ

ศาลจะออกหมายเรียกให้มารับฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 เนื่องจากจำเลยทั้ง 3 คนยังไม่ได้รับหมายเรียกให้มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ส่วนจำเลยอีก 7 คน ที่ไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจะออกหมายจับเพื่อให้มารายงานตัวต่อศาลและเข้าสู่เรือนจำทันที

ส่วนจำเลย 3 คนที่ศาลยกฟ้องไปก่อนหน้านี้ ทางทนายความเตรียมที่จะเอาผิดฟ้องร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพ.ต.ท.ศราวุฒิ บุญชัย ตำรวจที่เบิกความเท็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธำรงค์ หลักแดน ทนายความส่วนตัวของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง เผยว่า สาเหตุที่นายอริสมันต์ ไม่ได้มารับฟังคำพิพากษาในวันนี้ เนื่องจากป่วย พักรักษาตัวด้วยโรคเวียนศีรษะ บ้านหมุน ที่โรงพยาบาลสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม