กลุ่มการ์ดวีโว ชุมนุม สถานทูตเมียนมา

รอง ผบช.น. เผยเหตุชุมนุมหน้า ‘สถานทูตเมียนมา’ ตำรวจเจ็บ 14 นาย

วานนี้ตำรวจเข้าขอคืนพื้นที่บริเวณด้านหน้าสถานทูตเมียนมา จนเกิดเหตุชุลมุนระหว่างกลุ่มการ์ดวีโวลุนเทียร์และแรงงานชาวเมียนมา

Home / NEWS / รอง ผบช.น. เผยเหตุชุมนุมหน้า ‘สถานทูตเมียนมา’ ตำรวจเจ็บ 14 นาย

ประเด็นน่าสนใจ

  • วานนี้ตำรวจเข้าขอคืนพื้นที่บริเวณด้านหน้าสถานทูตเมียนมา จนเกิดเหตุชุลมุนระหว่างกลุ่มการ์ดวีโวลุนเทียร์และแรงงานชาวเมียนมา
  • รอง ผบช.น. เผย มีตำรวจบาดเจ็บ 14 นาย
  • สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย

วันนี้ (2 ก.พ.64) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) เปิดเผยถึงกรณีตำรวจเข้าขอคืนพื้นที่บริเวณด้านหน้าสถานทูตเมียนมา จนเกิดเหตุชุลมุนระหว่างกลุ่มการ์ดวีโวลุนเทียร์และแรงงานชาวเมียนมา จนมีตำรวจบาดเจ็บ 14 นาย ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย

คือ นายปัณณพัทธ์ จันทนางกูล อายุ 19 ปี กับนายเกียรติศักดิ์ พันธุ์เรณู อายุ 20 ปี ในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน , พ.ร.บ.ควบคุมโรค และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และจับกุมนายวิชพรรษ ศรีกสิพันธุ์ อายุ 21 ปี ในความผิดที่เกี่ยวกับการใช้เครื่องขยายเสียง

โดยผู้ต้องหา 2 คนแรก ตำรวจมีหลักฐานพบว่ามีพฤติกรรมการใช้อาวุธ การขว้างปาสิ่งของทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ที่ขึ้นปราศรัยชักชวนให้คนมาร่วมชุมนุมก็ถือว่าเข้าข่ายความผิดอาญาเช่นกัน ขณะที่นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำกลุ่มวีโว่ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกมาดำเนินคดี

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวอีกว่า จากที่เห็นได้ตามที่สื่อว่าผู้ชุมนุมใช้หิน พลุเพลิง ระเบิดควัน วัตถุระเบิด อาวุธปืน และอาวุธอื่น ๆ ในการชุมนุมตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งที่แยกเกียกกาย แยกรัชโยธิน กองสลากเก่า สามย่านมิตรทาวน์ ล้วนมีการใช้อาวุธก่อความไม่สงบ แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ

รอง ผบช.น. ระบุอีกว่า ในส่วนความผิดอื่นๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินนั้น เบื้องต้นพบว่ามีป้ายรถประจำทาง สวนหย่อม และกำแพงที่ได้รับความเสียหาย จากการที่ผู้ชุมนุมนำมาใช้เป็นอาวุธด้วย แต่ยังต้องรอให้ผู้เสียหายทั้งภาครัฐและเอกชน สำรวจทรัพย์และแจ้งความกับตำรวจต่อไป

ข้อมูล : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อ่านเพิ่มเติม : เหตุวุ่นวาย หน้าสถานทูตเมียนมาร์ ประจำประเทศไทย