สมอ. ขยายผลจับร้านจำหน่ายเหล็กเบาย่านสมุทรสาครกว่า 50,000 เส้น ร่วม 8 ล้านบาท 8 เดือน อายัดเหล็กไปแล้วกว่า 830 ล้านบาท

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ได้ดำเนินการในเชิงรุกกับผู้ประกอบการทั้งผลิต นำเข้า และจำหน่าย โดยส่งทีมเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจอย่างเข้มงวด ล่าสุดเข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายเหล็กย่านสมุทรสาคร หลังพบเบาะแสว่ามีการลักลอบจำหน่ายเหล็กไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบเหล็กไม่ได้มาตรฐานรอการจำหน่ายให้ลูกค้า ประกอบด้วยเหล็กเส้นกลมและเหล็กข้ออ้อย น้ำหนักไม่ได้ตามมาตรฐาน…

Home / NEWS / สมอ. ขยายผลจับร้านจำหน่ายเหล็กเบาย่านสมุทรสาครกว่า 50,000 เส้น ร่วม 8 ล้านบาท 8 เดือน อายัดเหล็กไปแล้วกว่า 830 ล้านบาท

ประเด็นน่าสนใจ

  • สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ดำเนินการในเชิงรุกกับผู้ประกอบการทั้งผลิต นำเข้า และจำหน่าย โดยส่งทีมเฉพาะกิจลงพื้นที่จับสินค้าไม่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง
  • โดยเฉพาะเหล็กเส้นกลม และเหล็กข้ออ้อย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 ถึงพฤษภาคม 2562 ได้อายัดไปแล้วกว่า 830 ล้านบาท
  • ล่าสุดขยายผลจับเหล็กเบาย่านสมุทรสาคร 51,000 เส้น มูลค่าร่วม 8 ล้านบาท

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ได้ดำเนินการในเชิงรุกกับผู้ประกอบการทั้งผลิต นำเข้า และจำหน่าย โดยส่งทีมเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจอย่างเข้มงวด ล่าสุดเข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายเหล็กย่านสมุทรสาคร หลังพบเบาะแสว่ามีการลักลอบจำหน่ายเหล็กไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก

จากการตรวจสอบพบเหล็กไม่ได้มาตรฐานรอการจำหน่ายให้ลูกค้า ประกอบด้วยเหล็กเส้นกลมและเหล็กข้ออ้อย น้ำหนักไม่ได้ตามมาตรฐาน (เหล็กเบา) ไม่เป็นไปตาม มอก.20-2559 และ มอก.24-2559 จำนวนรวม 51,000 เส้น  น้ำหนักประมาณ 360 ตัน มูลค่าร่วม 8 ล้านบาท จึงได้ยึดอายัดไว้ทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับแจ้งผู้ครอบครองสินค้าดังกล่าว ห้ามเคลื่อนย้ายสินค้าโดยเด็ดขาด

ซึ่งการตรวจจับในครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการที่ สมอ. ได้เข้าตรวจค้นโกดังเก็บเหล็กเส้นของผู้จำหน่ายรายหนึ่งย่านสมุทรสาคร เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พบเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เหล็กเส้นกลม น้ำหนักไม่ได้ตามมาตรฐาน (เหล็กเบา) จำนวน 139,200 เส้น น้ำหนักประมาณ 350 ตัน มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท และได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 ถึงพฤษภาคม 2562  สมอ. ได้ยึดอายัดผลิตภัณฑ์เหล็กไปแล้วกว่า 830 ล้านบาท และได้ดำเนินการอย่างเข้มงวดกับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิด พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 ทั้งนี้ สมอ. ได้ดำเนินการแก้ไขกฎหมาย โดยเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนหรือกระทำความผิด ให้มีอัตราโทษสูงขึ้น โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป

สำหรับการตรวจควบคุมสินค้าไม่ได้มาตรฐานของ สมอ. จะตรวจทั้งโรงงานผลิตและผู้นำเข้าซึ่งเป็นต้นทาง และตรวจติดตามร้านจำหน่ายที่เป็นปลายทางด้วย เพื่อสกัดกั้นสินค้าไม่ได้มาตรฐานก่อนถึงมือผู้บริโภค ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ยังสามารถเป็นหูเป็นตาให้กับ สมอ. ในการแจ้งเบาะแสหากพบสินค้าที่สงสัยว่าไม่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เหล็ก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และของเล่น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากนำผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานไปใช้งาน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ เลขาธิการ สมอ. กล่าว