Deus Ex Machina แบรนด์ไลฟ์สไตล์แห่งความสนุก และนอกกรอบวัฒนธรรม ที่ยังคงยึดแนวคิดที่ว่า “ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสนุก” เข้ากับสิ่งต่างๆ ทั้งเสื้อผ้า มอเตอร์ไซค์คัสตอม เซิร์ฟบอร์ด คาเฟ่ ดนตรี ภาพยนตร์ จนทำให้ Deus ไม่ใช่แค่แบรนด์ แต่เป็น “วัฒนธรรม” ที่เปิดรับความสนุก และส่งต่อสิ่งนั้นไปยังสาวก ล่าสุดได้นำวัฒนธรรมแบบเดอัส และดึงองค์ประกอบสนุกๆ มาถ่ายทอดเป็นคอลเลคชั่นเสื้อผ้า Deus Ex Machina Fall/Winter 2019 Collection ผ่าน 5 คอลเลคชั่นหลัก Mariachi, Greasy Handshakes, Workwear, Deus Ex McNeil และ Deus Records นอกจากนี้ ยังได้ปลดปล่อยความสนุกแบบคลาสสิกตามสไตล์เดอัสกับ Deus Classic Collection และครั้งแรกกับ Deus Women Collection ที่ให้สาวๆ ได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่
ความสนุกที่อัดแน่นรอเวลาให้แฟนเดอัสได้สัมผัสทุกการเดินทางกับคอลเลคชั่น Deus Ex Machina Fall/Winter 2019 นำเรื่องราวและรายละเอียดจากความประทับใจ และความสนุกมาครีเอทเป็นสีสันความสนุก เริ่มสตาร์ตเครื่องยนต์คัสตอมไบค์ พาขี่ตะลุยตอนใต้ของเม็กซิโกในศตวรรษที่ 19 เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรม สไตล์เครื่องแต่งกาย และสไตล์ดนตรี Mariachi อันซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเม็กซิโก โดยเน้นใช้คัลเลอร์พาเลทที่ได้รับอิทธิพลมาจากวงดนตรีแบบมาริอาชี่โดยเฉพาะ ทั้งสีดำ สีขาว และสีแดง มาผสมผสานกับสไตล์คลาสสิกของ Motorcycle Club ในตำนาน ซึ่งได้นำโลโก้เอกลักษณ์ของ Motorcycle Club มาปักบนเสื้อแจ็กเก็ตหนังและนำมารวมกับสีสันของวัฒนธรรมมาริอาชี่ ทำให้ดีไซน์ของเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด เสื้อสเว็ตเตอร์ หรือแจ็กเก็ตหนัง มีความเท่และโดดเด่นไม่เหมือนใคร
เดินทางข้ามผ่านประเทศไปเจอกับคอลเลคชั่น Greasy Handshakes ที่นำเสนอวัฒนธรรม และเรื่องราวที่สืบทอดกันมาของเหล่าช่างคัสตอมมอเตอร์ไซค์จาก Garage สุดคลาสสิก เล่าผ่านดีไซน์ของแจ็กเก็ตเคลือบแว็กซ์ที่พร้อมป้องกันรอยเปื้อนจากน้ำมันเครื่อง รวมถึงแจ็กเก็ตเดนิม และผ้าสักหลาดที่มีความทนทาน พร้อมรับมือกับความร้อนของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ คอลเลคชั่นนี้ยังนำเอาความสนุกของสีสันอย่างสีฟ้าและสีเหลืองพร้อมกับลายเส้นที่ได้รับอิทธิพลมาจากลวดลายตัวหนังสือสไตล์วินเทจอีกด้วย ต่อมาเข้าสู่คอลเลคชั่น Workwear ที่นำเสนอความเรียบง่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งความมีสไตล์ และความประณีต ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตปักลาย เสื้อยืดพิมพ์ลายโลโก้เดอัส หรือเสื้อแจ็กเก็ตกันลมสี Harvest Orange อันโดดเด่นที่พร้อมสะกดสายตาทุกคู่ โดยคอลเลคชั่นนี้เน้นใช้สีเนวีบูล สีดำ และสีดาร์กกรีนมาผสมผสานกับดีไซน์โลโก้สไตล์ Military Workwear
ต่อมาเร่งเครื่องไปยัง Byron Bay รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อไปเจอกับ Paul McNeil ศิลปินอัลเทอร์เนทีฟชาวนิวซีแลนด์ที่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ที่ ไบรอน เบย์ มานานกว่า 14 ปี เขาหลงรักในงานศิลปะและหลงใหลในการเล่นเซิร์ฟเป็นชีวิตจิตใจจนได้สร้างสรรค์ผลงานอันเป็นที่ประทับใจไว้ให้ชมเชยอย่างมากมาย และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เดอัสได้เชิญ พอล แมคนีล เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่นล่าสุด โดยเขาได้นำเสื้อแจ็กเก็ตผ้าสักหลาดมาปัก Patch ดีไซน์สุดกวน พร้อมกับเสื้อยืดแขนยาวที่ได้ยืม Address Logo ไปเปลี่ยนชื่อใหม่ และส่งกลับมาพร้อมกับสีสันสะดุดตา ซึ่งใครที่เป็นแฟนตัวยงที่รักในความสนุก และศิลปะของ พอล แมคนีล ไม่ควรรีรอ
เดินทางสู่จุดหมายปลายทางสุดท้ายที่ Deus Flagship The Residence of Impermanence กับมุมเงียบๆ ย่าน Harajuku กรุงโตเกียว เพื่อตอกย้ำความคิดที่ว่าการสร้างสรรค์และลงมือทำย่อมสนุกกว่าแค่การเป็นเจ้าของ และไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย เพราะเหตุนี้ Deus Tokyo จึงได้ชักชวน DJ มากหน้าหลายตามาเปิดแผ่นที่บาร์ชั้นใต้ดินทุกสุดสัปดาห์ ความสนุกของดนตรีผสมผสานกับ Tokyo Street Style ถูกนำเสนอผ่านเสื้อยืดพิมพ์ลาย Deus Records ที่เพิ่มสีสันของ Deus Logo ในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เมื่อดนตรีคือส่วนหนึ่งของ เดอัส เอ็กซ์ มาคิน่า การกลับมาของ Deus Records ในครั้งนี้จึงไพเราะและเสียงดังกว่าที่เคย
นอกจากนี้ เดอัส ยังนำพาความสนุกไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างสีสัน และวัฒนธรรมความสนุกที่ต้องการส่งต่อไปยังกลุ่มคนใหม่ๆ อย่าง Deus Classic Collection ความสนุกที่เรียบง่าย คลาสสิก และคุมโทนด้วยสีขาว สีดำ และสีเทา พร้อมทั้งขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้หญิงเพื่อให้พวกเธอได้ปลดปล่อยความสนุก และความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ กับ Deus Women Collection กับเสื้อยืด เสื้อฟลีส และโมโตเจอร์ซี่ พิมพ์ลายดีไซน์สุดเท่ให้สุภาพสตรี
สาวกเดอัส ทั้งสายคัสตอมไบค์ สายเซิร์ฟ และสายดนตรี สามารถพบกับคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Deus Ex Machina Fall/Winter 2019 และแรงบันดาลใจใหม่ๆ ได้แล้ววันนี้ที่สยามพารากอน แผนก Men In Trend ชั้น 2, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม โซนดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ชั้น 4, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว โซนดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ชั้น 3, และห้างสรรพสินค้าสยาม ทาคาชิมายะ ชั้น 3 (ไอคอนสยาม) และบนเว็บไซต์ http://deuscustoms.com/
