พูดคุยกับ มาริโอ้ เมาเร่อ ในผลงานโกอินเตอร์เรื่องล่าสุด “77 Heartwarmings” (77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก) ซึ่งเป็นภาคต่อของ “77 Heartbreaks” ร่วมกับ นักแสดงหนุ่ม โจวป๋อหาว และดาราสาวผู้โด่งดัง ชาร์ลีน ชอย (หรือ อาซา)
คุยกับ มาริโอ้ เมาเร่อ ผลงานหนังฮ่องกงเรื่องแรกในชีวิต 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก
“มาริโอ้ เมาเร่อ” (Mario Maurer) นักแสดงหนุ่มหล่ออันดับต้น ๆ ของเมืองไทยที่มีผู้ติดตาม อินาสตราแกรม หรือ IG มากกว่า 680,000 คน อันเนื่องมาจากเสน่ห์ในรูปร่างหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์และฝีไม้ลายมือในการแสดงของเขาที่ฝังอยู่ในใจของผู้ชมในภาคพื้นเอเชียอาคเนย์มานานแล้ว รวมไปถึงในประเทศจีนและฮ่องกง ตลอดจนในไต้หวัน
ล่าสุด มาริโอ้ ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง “77 Heartwarmings” หรือ “77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก” ซึ่งเป็นภาคต่อของ “77 Heartbreaks” ร่วมกับ นักแสดงหนุ่ม โจวป๋อหาว และดาราสาวผู้โด่งดัง ชาร์ลีน ชอย (หรือ อาซา) โดยในเรื่องเขาจะต้องสวมบทเป็นคู่ปรับที่แข็งแกร่งในเรื่องความรักกับนักแสดงหนุ่ม โจวป๋อหาว เพื่อแย่งชิงความรักที่มีต่อนางเอกของเรื่องคือ ชาร์ลีน ชอย
มาริโอ เมาเร่อ เป็นนักแสดงหนุ่มที่มีใบหน้าที่คมเข้มแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีสายเลือดที่เป็นไทยแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การที่เขามีพ่อเป็นคนเยอรมันและแม่ที่มีเชื้อสายจีน จึงทำให้กลายมาเป็นส่วนผสมอันลงตัวแบบที่หาได้ยากในตัวนักแสดงหนุ่มชาวไทยคนอื่น ๆ พอ ๆ กับการที่เขายังคงมีความซุกซนแบเด็ก ๆ ยามเมื่อเจ้าตัวหัวเราะแม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีอายุ 30 ปีเข้าไปแล้วก็ตาม
ด้วยความที่มีส่วนสูงกว่า 180 ซม. และความน่ารักแบบเด็ก ๆ จึงทำให้มีแมวมองชักชวนให้เข้าสู่วงการตั้งแต่อายุได้เพียง 16 ปี ด้วยการเป็นนายแบบแฟชั่น ก่อนที่จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง “รักแห่งสยาม” หลังจากนั้น มาริโอ้ ก็เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของทั้งผู้ชมและคนในวงการบันเทิงไทยแบบชั่วข้ามคืน รวมไปถึงการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในสาขา นักแสดงสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยมของ Asian Film Awards อีกด้วย ต่อมาเมื่อเขาทำหน้าที่นักแสดงนำในภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้ที่เกี่ยวกับเรื่องราวในรั้วมหาวิทยาลัยเรื่อง “สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก” (The Little Thing of First Love) ก็ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเจ้าตัวดังไปไกลแบบฉุดไม่อยู่
เมื่อถูกถามว่า เขาใฝ่ฝันที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็กเลยหรือเปล่า เจ้าตัวก็ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “จริง ๆ แล้วผมไม่เคยคาดหวังอะไรกับการแสดงในภาพยนตร์เรื่องแรก หรือทั้งสองเรื่องเลย ผมก็แค่พยายามทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาให้เต็มที่เท่านั้นเอง”
หากเจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่า ผลงานทั้ง 2 เรื่องที่ว่านั้นไปเตะตาผู้กำกับฯ หนังฮ่องกงหลายคนเข้าอย่างจัง หนึ่งในนั้นก็คือ เฮอร์แมน เหยา ผู้กำกับฯ ของ 77 Heartwarmings “ผมคิดว่าเขาเป็นดาราที่หลงใหลในการแสดงมาก ๆ คนหนึ่งเลยล่ะ เพราะผลงานของเขาแต่ละเรื่องนั้นทำเอาผมแทบละสายตาไม่ได้เลย มันพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า เขาเป็นดาราที่มีทักษะในการแสดงสูง พอๆ กับการที่มีรูปร่างหน้าตาที่ชวนมองเอามาก ๆ และพอเขามารับบทในภาพยนตร์แนวผี ๆ เรื่อง พี่มากพระโขนง ซึ่งทำรายได้สูงกว่า 1 พันล้านบาทบนตารางหนังทำเงินในเมืองไทย ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของเขาให้มากขึ้นไปอีก มันเลยกลายมาเป็นสิ่งที่ผมบอกกับตัวเองว่า ผมจะต้องได้เขามาเป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่องนี้ให้ได้” เฮอร์แมน เหยากล่าวยกย่องความสามารถของมาริโอ้อย่างใจจริง
กับผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่องแรกคือ “77 Heartwarmings” นั้น มาริโอ้ บอกว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นของเขาเป็นอย่างมาก “ตัวละครในเรื่องนี้มีบางส่วนที่คล้ายตัวผมอยู่ไม่น้อยเช่นการเป็นคนที่มีอารมณ์ศิลปิน ยิ้มง่าย เป็นมิตรกับทุกคน และชอบการทำงานหนักเพื่อให้ผลงานของตัวเองออกมาดีที่สุด” มาริโอ้กล่าวยิ้ม ๆ
ใน “77 Heartwarmings” มาริโอ้ รับบทเป็นมือที่ 3 ที่เข้ามาแทรกกลางความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัวเอกของเรื่องคือ “โจวป๋อหาว” และ “ชาร์ลีน ชอย” ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงหัวใจของหญิงสาวที่เขากำลังหมายปองอยู่ “เขามีรูปร่างที่ฟิตสุด ๆ แถมยังมีทักษะของมวยไทยที่ดีมาก ๆ อีกด้วย” ผู้กำกับฯ เฮอร์แมน เหยา กล่าวเสริม “นอกเหนือไปจากการที่เขาสามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครเป็นอย่างดี จึงทำให้การแสดงของเขาออกมาดูอบอบอุ่นและเป็นธรรมชาติเหมือนกับผู้ชายที่พร้อมจะออกมาปกป้องสาวคนรัก แถมเวลาที่พักการถ่ายทำเราก็มักจะมีเรื่องสนุก ๆ มาคุยกันแทบไม่หยุด ทำให้บรรยากาศในกองถ่ายมีความเป็นกันเองมาก ๆ” นักแสดงสาว ชาร์ลีน ชอย กล่าวชื่นชมหนุ่มนักแสดงชาวไทยแบบแทบปิดไม่มิด
แต่แม้ว่าเขาจะเป็นนักแสดงที่มีฝีมือเก่งฉกาจแค่ไหน หากเมื่อ มาริโอ้ ได้เห็น ซาร์ลีน ชอย เป็นครั้งแรกก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นใจในการทำงานกับเธอ “ผมได้ยินมาว่าเธอเป็นถึงซูเปอร์สตาร์ในฮ่องกงคนหนึ่ง ผมเคยดูภาพยนตร์ของเธอมาแล้วหลายเรื่อง และคิดว่าผู้หญิงคนนี้มีความสามารถอย่างน่าทึ่ง ดังนั้นตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ผมเลยจับมือทักทายเธอแบบเขิน ๆ และพูดว่า สวัสดีครับ ผมชื่อมาริโอ เมาเร่อ รู้สึกดีใจและโชคดีที่ได้ร่วมงานกับคุณ คุณเป็นคนที่น่ารักมาก และอายุของเรายังใกล้เคียงกันอีกด้วย” ในขณะที่ฝ่ายของ ชาร์ลีน ชอย เองก็กล่าวชมมาริโอ้ว่า “ตัวจริงของคุณน่ารักมาก และฉันได้ยินมาว่านอกเหนือจากการที่คุณเป็นนักแสดงหนุ่มชาวไทยที่เก่งสุด ๆแล้วแล้ว คุณยังชอบซื้อพวกของเล่นต่าง ๆ ตามร้านขายของเล่นตามห้างสรรพสินค้าเหมือนฉันอีกด้วย”
นอกจากเป็นแฟนตัวยงของบรรดาของเล่นทั้งหลายแล้ว มาริโอ้ ยังเป็นแฟนคลับของภาพยนตร์เรื่อง “ Young and Dangerous” (กู๋หว่าไจ่) อีกต่างหาก เจ้าตัวบอกว่าดูซ้ำหลายรอบมาก โดยเฉพาะตอนที่หนึ่งในตัวละครต้องเผชิญกับสภาวะความจำเสื่อมหลังจากที่ถูกยิง ก่อนตายเขาอยู่ในอ้อมแขนของคนรักและเสียชีวิตหลังจากที่เขาเพิ่งจะได้ความจำกลับคืนมาไม่นาน “ฉากนั้นทำเอาผมร้องไห้เป็นเด็ก ๆไปเลย และเมื่อ ชาร์ลีน ชอย บอกผมว่า ยังมีเรื่องราวก่อนหน้านั้นของตัวละครเหล่านี้อยู่ในคอมมิคอีกก็ยิ่งทำให้ผมอยากจะรู้จักเด็กหนุ่มในเรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้น”
สำหรับมุมมองในเรื่องของความรักนั้น ในฐานะที่ มาริโอ้ เป็นนักแสดงหนุ่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีฐานคนดูส่วนใหญ่ที่เป็นผู้หญิง ใครเลยจะเชื่อว่าหนุ่มหล่ออย่างเขาก็เคยอกหักมาแล้วเหมือนกัน “ผมรู้จักความรักครั้งแรกตอนยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล ตอนนั้นเรามักจะชอบเล่นด้วยกันเป็นประจำแต่ก็ไม่เคยเล่าให้แม้แต่พ่อกับแม่ฟัง พอขึ้นชั้นเรียนใหม่และเธอลาออกไปผมก็เลยรู้สึกเหมือนบางอย่างในชีวิตขาดหายไป ดังนั้นพอโตขึ้นมาผมเลยบอกกับตัวเองว่า ถ้าผมจะมีความรัก ผมก็จะไม่ปกปิดตัวตนของเธอคนนั้นเด็ดขาด ความรักของผมจะต้องมีความให้เกียรติกับผู้หญิงของผมอยู่ด้วยเสมอ ส่วนสเปคของคนที่จะเข้ามาเป็นแฟนของผมนั้น เธอจะต้องเป็นคนที่ยิ้มง่าย มีอารมณ์ขัน และเข้ากันได้ดีกับผมและครอบครัว”
และถึงจะเป็นนักแสดงที่คนดูให้ความสนใจมากแค่ไหน แต่ส่วนตัวแล้ว มาริโอ้ เมาเร่อ ก็ยังคงมีความไร้เดียงสาแบบเด็ก ๆ และชอบกีฬาที่เกี่ยวกับความเร็วเช่น สเก็ตบอร์ด และการสะสมรถยนต์รุ่นต่าง ๆ โดยเฉพาะรถโบราณที่หายาก ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นเพราะความสนิทสนมกับพ่อที่เสียชีวิตไปด้วยโรคเบาหวานเมื่อหลายปีก่อน “ตอนผมยังเด็กพ่อและผมมักจะชอบพูดกันถึงเรื่องรถโบราณอยู่บ่อย ๆ จนในที่สุดเราก็สามารถหารถโบราณของเรามาได้คันหนึ่ง และจนเดี๋ยวนี้ทุกครั้งที่ได้นั่งรถคันนี้ผมก็มีความรู้สึกเหมือนมีพ่อนั่งอยู่ใกล้ ๆ”
“77 Heartwarmings เป็นการก้าวขึ้นไปอีกขั้นในวงการแสดงของผม มันเต็มไปด้วยการท้าทายในสิ่งที่ผมไม่เคยลองและให้ประสบการณ์ที่ดีกับผมมาก ๆ “ มาริโอ้ กล่าวทิ้งท้าย
ขอขอบคุณภาพจากนิตยสาร Cosmopolitan Hong Kong, IG@mario_mm38