โรคเริม เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสโดยจะมีแผลอักเสบเป็นตุ่มใสเล็กๆ บริเวณรอบริมฝีปาก ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อน ซึ่งเป็นโรคติดต่อผ่านทางน้ำลายหรือผิวหนัง หากเป็นโรคนี้แล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เพราะจะไปฝังตัวอยู่ที่ปมประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอลงโรคนี้ก็จะกลับมาเป็นอีกตลอดชีวิต
สาเหตุของ เริมที่ปาก ก็คือ การนอนดึก นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด อ่อนเพลีย โดนแสงแดดจัดๆ ดื่มน้ำน้อย โรคเริมก็จะกำเริบขึ้นมาอีกเรื่อยๆ แต่หากรักษาสุขภาพให้แข็งแรงโรคนี้ก็จะไม่มาเยี่ยมเยือนบ่อยๆ ซึ่งโรคเริมมักจะเป็นอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์แล้วแผลก็จะตกสะเก็ดแห้งหลุดไปเอง แต่สามารถรักษาเริมให้หายได้เร็วกว่านั้นด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้
ครีมพญายอ
สมุนไพรไทยบ้านเรารักษาโรคเริมได้ชะงัด พญายอ หรือ เสลดพังพอนตัวเมีย มีสารสำคัญที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโรคเริม โดยใช้ครีมพญายอซึ่งเป็นยาทาภายนอกทาวันละ 3-4 ครั้ง อาการแสบร้อนก็จะทุเลาลง ตุ่มใสๆก็จะแห้งเร็วขึ้นอีกด้วย
ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้จะช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน ทั้งยังช่วยปกป้องแผลจากการติดเชื้ออีกด้วย เพียงแค่นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกแล้วล้างยางออกให้หมด ก็จะได้วุ้นใสๆแล้วนำมาวางไว้ที่แผลจากนั้นเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ก็จะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น
น้ำแข็ง
ในวันแรกที่รู้สึกว่ามีอาการแสบคันที่บริเวณริมฝีปาก ให้นำน้ำแข็งก้อนมาประคบบริเวณที่รู้สึกแสบร้อนและอาจจะเป็นเริม ประคบน้ำแข็งไปสักพักจนรู้สึกชา แล้วทายาที่แผลจากนั้นทำแบบนี้ซ้ำๆไปทุก 1-2 ชั่วโมง เพียงแค่ 1-2 วันจะรู้สึกเลยว่าอาการดีขึ้น น้ำแข็งจะช่วยป้องกันไม่ให้เริมลุกลามและยังช่วยให้หายเร็วขึ้นอีกด้วย
น้ำมันทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil)
ทีทรีออยล์ มีสรรพคุณในการต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรีย แล้วทีทรีออยล์ยังสามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อเริมไม่ให้มีอาการรุนแรงขึ้น แค่ต้องเริ่มรักษาในระยะแรกๆเท่านั้นถึงจะได้ผลดีที่สุด เพียงแค่หยดทีทรีออยล์ 1-2 หยดลงบนคอตตอนบัดแล้วค่อยๆทาที่แผลวันละ 3-4 ครั้ง ก็จะช่วยบรรเทาแผลลงได้
ยาต้านเชื้อไวรัส
การใช้ทั้งยารับประทานและยาทาภายนอกควบคู่กันจะทำให้แผลหายเร็วขึ้น เช่น อะไซโคลเวียร์ (Acyclovir), แฟมซิโคลเวียร์ (Famcyclovir) โดยรับประทานวันละ 5 ครั้ง ทุก ๆ 4 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งจะต้องทานยาจนหมดเพื่อลดอัตราการเป็นซ้ำ ซึ่งหากใครที่เป็นโรคเริมบ่อยๆ ควรใช้ยาทาควบคู่กับการรับประทานยาทาด้วจะทำให้แผลหายเร็วขึ้น และควรรับประทานยาต้านไวรัสให้เร็วที่สุดภายใน 48 ชั่วโมง ก็จะช่วยลดความรุนแรงของแผลลง แผลจะหายได้เร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ในช่วงที่ป่วยเป็นโรคเริมก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ห้ามออกกำลังกายในช่วงที่ป่วยเพราะร่างกายอ่อนแอเกินไป ควรนอนพักผ่อนให้มากที่สุดเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูจากโรคได้อย่างเต็มที่ และควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยให้โรคเริมหายได้เร็วขึ้น
