โดยปกติแล้วอายุที่มากขึ้นยิ่งทำให้การนอนหลับยากขึ้นโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี มักมีอาการนอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท มักตื่นกลางดึกบ่อยๆ แพทย์ได้เตือนว่าการนอนน้อยในผู้สูงอายุอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์และภาวะความจำเสื่อม
การศึกษาครั้งนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารเกี่ยวกับประสาทที่ชื่อว่า Neurology โดยคัดเลือกอาสาสมัครเป็นจำนวน 119 คน แล้วใช้เครื่องเพื่อตรวจดูการทำงานของสมองของอาสาสมัครในขณะที่พวกเขานอนหลับ จากนั้นจะทำการวัดระดับโปรตีนของสมอง, ความผิดปกติของโปรตีน และ แอมิลอยด์ ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำให้เซลล์ประสาทเสียหาย โดยใช้การสแกนสมองและไขสันหลังเพื่อดึงน้ำจากไขสันหลัง
นักประสาทวิทยาชาวสหรัฐอเมริกาพบว่า อาสาสมัครที่มีการพักผ่อนนอนหลับน้อย จะมีระดับโปรตีนของสมองที่ชื่อว่า Tau กลายสภาพมีพิษรุนแรงและยังมีโมเลกุลโปรตีนที่ผิดปกติอยู่รวมกันในสมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์
การวิจัยก่อนหน้านี้ได้เชื่อมโยงระหว่างการนอนน้อยและอาการสมองเสื่อม ซึ่งการนอนหลับระยะหลับลึกเป็นช่วงสำคัญที่สุดเพราะนี่คือช่วงเวลาที่สมองรวมความทรงจำเข้าด้วยกันและยังช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
กุญแจสำคัญคือจำนวนชั่วโมงในการนอนหลับมันไม่ได้สำคัญเท่ากับการนอนหลับลึก ซึ่งนั่นต่างหากที่สะท้อนถึงคุณภาพในการนอนหลับ หลายคนพยายามนอนมากขึ้นแม้นอนหลับในเวลากลางคืนแล้วแต่ก็ยังนอนกลางวันด้วย ซึ่งจริงๆแล้วกลับเป็นการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพเลย “ ดร. เบรนแดน ลูเซย์ ผู้อำนวยการแห่ง Washington University Sleep Medicine Centre กล่าว
โรคอัลไซเมอร์เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม ซการสูญเสียความจำและทักษะการคิด ยังส่งผลกระทบให้มีผู้ป่วยกว่า 520,000 คนในประเทศอังกฤษ ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในประเทศไทยประมาณ 600,000 คน และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ที่มาจาก https://www.independent.co.uk/
